Bet Sizing Strategy: เลือก Bet Size ที่ดีที่สุดด้วยกฎ 8 ข้อ

การเลือก bet size ที่ดีที่สุดในเกม NLH นั้นค่อนข้างซับซ้อน

ไม่มี bet size “สมบูรณ์แบบ” ที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ เพราะ bet size ที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างซึ่งรวมถึง:

  • Preflop แอคชั่น
  • Board texture
  • Stack size
  • ใครมี range advantage
  • …และอีกมากมาย!

ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้กฎ 8 ข้อที่จะช่วยเลือก size ที่สามารถเอาชนะได้ – ไม่ว่าจะเป็น 33% pot-size bet หรือ overbet ใหญ่ๆ – ในทุกสถานการณ์

กฎ 8 ข้อของ Bet Size

  1. เพิ่ม preflop raise size เมื่อมี weak player อยู่ที่ blind
  2. 3-bet preflop ใหญ่ขึ้นเมื่อเราจะต้อง out of position ใน postflop
  3. Bet เล็กๆ (25-35% pot) บน dry, static board texture
  4. Bet ค่อนข้างใหญ่ (55-80% pot) บน wet, dynamic board texture
  5. Stack-to-pot ratio ควรส่งผลต่อ bet size
  6. Overbet เมื่อมี nut advantage
  7. เมื่อ double barrel ที่ turn ให้ bet ค่อนข้างใหญ่เสมอ (66% หรือมากกว่า)
  8. พยายาม c-bet เล็กๆ (25-40%) ใน 3-bet pot

กฎ #1: เพิ่ม preflop raise size เมื่อมี weak player อยู่ที่ blind

เป้าหมายหลักสำหรับการปรับนี้คือเพื่อเรียก value จาก weak player หรือผู้เล่นที่ยังขาดประสบการณ์ที่มักจะ call raise ด้วย hand range เดี๋ยวกันไม่ว่าจะเจอกับ size ไหน (หรือที่เรียกกันว่า “static” calling range)

ถ้า weak player จะ call ด้วย hand range แบบเดียวกันไม่ว่าจะเจอกับ raise 3.5bb หรือ 2.5bb เราก็ควรเลือก raise สูงกว่าเพราะมันจะช่วยให้เราทำกำไรได้มากขึ้น (โดยเฉลี่ย)

กฎ #2: 3-bet preflop ใหญ่ขึ้นเมื่อเราจะต้อง out of position ใน postflop

คุณควร 3-bet ประมาณ 3 เท่าของ raise จากคู่ต่อสู้เมื่อเราจะ in position และ 3-bet ประมาณ 4 เท่าเมื่อเราจะ out of position

เมื่อเรา out of position คู่ต่อสู้จะสามารถ realize equity ได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งหมายความว่าเราควรจะเพิ่มขนาดของ 3-bet  ในทางตรงกันข้าม…เราควรจะ 3-bet เล็กลงเมื่อ in position เพราะเราต้องการให้คู่ต่อสู้อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก (เจอกับ 3-bet size ดีๆ out of position) ด้วย medium strength hand ของเขา

กฎ #3: Bet เล็กๆ (25-35% pot) บน dry, static board texture

การ bet ที่ flop/turn นอกจากจะเรียก value แล้ว มันยัง deny equity เมื่อทำให้คู่ต่อสู้ fold ได้อีกด้วย  หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เราได้ปิดโอกาสที่คู่ต่อสู้จะเอาชนะ pot ไปได้ด้วยการกดดันให้คู่ต่อสู้ fold ให้กับ bet ของเรา

เมื่อ equity denial ไม่สำคัญ เราจะมีแรงจูงใจในการใช้ bet size ที่เล็กกว่า  มักจะเกิดขึ้นบนเคสของ dry board เพราะ hand ส่วนใหญ่ของคู่ต่อสู้ จะมี equity อยู่น้อยหรือแทบไม่มีเลยเมื่อเจอกับ value bet range ของเรา   

ประโยชน์อีกอย่างของการใช้ bet size เล็กๆบน dry board ก็คือ calling range มักจะ inelastic  พูดอีกอย่างก็คือ แนวโน้มที่คู่ต่อสู้จะ fold ให้กับ bet ของเรานั้นแทบไม่แตกต่างไม่ว่าจะเป็น bet size ขนาดไหน  ดังนั้นทำไมเราจะต้องเสี่ยงมากขึ้นกับ bluff ของเราเมื่อผลลัพธ์ไม่แตกต่างกันเมื่อใช้ bet ที่เล็กกว่า?

ยิ่งไปกว่านั้น bet size เล็กๆยังใช้ได้ดีในการ exploitative adjustment เมื่อเจอกับผู้เล่นที่ fold บ่อยเกินไป  ซึ่งมักจะเกิดขึ้นใน live game และ online game ที่มีผู้เล่นจำนวนมากเล่นแบบ “fit or fold” postflop   

นี่คือตัวอย่างของ hand ที่เล่นโดยสมาชิก Upswing Lab ที่อธิบายหลักการนี้:

Online Cash 6-Hand 100bb Effective Stack
Hero ถือ 6 5อยู่ที่ CO
UTG fold, MP fold, Hero raise 2.5bb, BTN fold, SB fold, BB call

Flop (5.5bb): A 8♠ 3♣
BB check, Hero bet 1.8bb, BB fold

การวิเคราะห์จาก Doug

บน dry board อย่าง A 8♠ 3♣ bet size เล็กๆ (33% จากในตัวอย่างนี้) นั้นดีที่สุด  นั่นก็เพราะว่า range value hand ของเรา (88, 33, A8s, A3s, AK, AQ, etc) ไม่น่าจะถูกแซงได้ที่ turn ดังนั้นเราจึงไม่ต้องการกำจัด equity ของคู่ต่อสู้ด้วย bet ที่ใหญ่ขึ้น

จากการคำนวณ equity ด้านล่าง BB range มี equity น้อยมากแค่ไหนเมื่อเจอกับ value bet range ของเรา

bet size poker equity

Range ของ BB มีอยู่แค่เพียงประมาณ 11.32% เท่านั้น

และภาพด้านล่างนี้ก็แสดงให้เห็นถึง equity ของแต่ละ hand ใน range ของ BB เมื่อเจอกับ value bet range (ไม่รวม bluff) ของเรา: 

bet size range breakdown

จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ของ BB range นั้นแทบไม่เป็นอันตรายต่อ value bet ของเราเลย

และ BB calling range มีแนวโน้มที่จะ inelastic ในจุดนี้  hand อย่าง QJo และ 65s มักจะ fold ไม่ว่าจะเจอกับ bet size ขนาดไหน เพราะพวกมันแทบไม่มี playability ใน street ต่อๆไป  และยังไม่นับถึงว่าพวกมันแทบจะ drawing dead เมื่อเจอกับ value hand ของเรา

กฎ #4: Bet ค่อนข้างใหญ่ (55-80% pot) บน wet, dynamic board texture

เมื่อ value bet เปราะบางและถูกแซงได้ง่าย เราก็ควรใช้ bet size ที่ใหญ่ขึ้น  กลยุทธ์นี้มีประโยชน์ 3 อย่าง:

  1. Bet size ใหญ่ๆจะช่วยให้เราสามารถ build pot เมื่อมี strong hand
  2. Bet ใหญ่ขึ้นเพื่อเรียก value มากขึ้นก่อนที่ turn หรือ river มีโอกาสที่จะลด strong hand ของเราเป็น bluff-catcher 
    ตัวอย่างเช่น…ไพ่เกือบครึ่งสำรับจะไม่ดีต่อ 9♣ 9 บนบอร์ด T 9 5♠ 4♠  
  3. Bet size ใหญ่ๆจะช่วยให้ได้ fold equity มากขึ้น ทำให้ bluff ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างด้านล่างนี้เล่นโดย John C. และวิเคราะห์โดย Doug ในกลุ่มส่วนตัวของ Upswing Lab:

Online Cash 6-Hand 100bb Effective Stack
Hero ถือ A♣ A อยู่ที่ BTN
UTG raise 3bb, MP call, CO fold, Hero raise 11bb, SB fold, BB fold, UTG call, MP call

Flop (34.5bb): 2♠ 5 3♠
UTG check, MP check, Hero bet 12bb, UTG call, MP call

Turn (70.5bb): 8♣
UTG check, MP check, Hero bet 22.32bb, UTG fold, MP call

River (115.14bb): 6
MP check, Hero…?

การวิเคราะห์จาก Doug

Flop bet size ประมาณ 33% นั้นเล็กเกินไปเมื่อพิจารณาถึง board texture และ stack-to-pot ratio  ถึงแม้ว่าจะเป็น low board แต่ก็ไม่ static – คู่ต่อสู้ของเราสามารถที่จะมีพวก flush draw และ backdoor draw ได้มากมาย

Stack size ของเรายังเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควร bet ใหญ่ขึ้นบน flop นี้  ถ้าเรา bet 22bb (65% pot-size bet) และถูก call โดยผู้เล่น 1 คน เราจะไปที่ turn โดยมี 78.5bb ใน pot และเหลืออีก 67bb  stack-to-pot ratio นี้จะช่วยให้เราสามารถ shove turn ได้ง่ายขึ้น (จะลงรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้งในกฎ #5)

เมื่อเราใช้ flop bet size ที่ช่วยให้เราสามารถ all-in ได้ที่ turn นั่นหมายความว่า bluff ของเราจะได้ fold equity มากขึ้นและคู่ต่อสู้จะไม่ได้ draw ด้วยราคาถูกๆ

แต่เราก็ควรโน๊ตไว้ด้วยว่าสามารถเล่นด้วยการ check flop นี้ได้เมื่อถือ Aces

(โปรดติดตามกฎ bet size ที่เหลืออีก 4 ข้อในบทความตอนต่อไป…) 

 

source: https://upswingpoker.com/bet-size-strategy-tips-rules/