ผมชอบเวลาที่ได้ถือ J9suited บนมือ
มันเป็นแฮนด์ที่ครบเครื่อง และสามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบ แถมยังมีโอกาสมากกว่าค่าเฉลี่ยที่จะเข้าไปลุ้นดอร์วต่างๆได้อีกด้วย
แต่ J9 ก็ยังคงเสียเปรียบแฮนด์ที่ใหญ่กว่าที่ฝ่ายตรงข้ามมักจะมีเป็นประจำได้เช่น AJ หรือ K9s ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้วิธีเล่นให้ช้าลงในช่วง postflop เพื่อหลีกเลี่ยงการผลาญเงินโดยไม่รู้ตัว
โดยในบทความนี้มีเนื้อหาดังนี้
๐ วิธีเล่น J9suited ในช่วง preflop
๐ 3 ทิปวิธีเล่นเมื่อคุณไม่ติด flop
๐ 3 ทิปวิธีการเล่นในตอนที่ติด flop
ไปเริ่มกันเลย
วิธีการเล่น J9suited ในช่วง preflop
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการเล่นในช่วง postflop เรามาดูวิธีการเล่น J9suited ในช่วงสถานการณ์ที่เจอได้ในช่วง preflop กันก่อนดีกว่า
นี่คือตำแหน่งของผู้เล่นให้คุณดูประกอบบทความ
พอตที่ยังไม่มีใครเปิดเรสเข้าไปเล่น
J9suited แข็งแกร่งมากพอที่จะเปิดเรสจากตำแหน่งไหนก็ได้ถ้าเล่นแบบโต๊ะ 6 คน การ limp แฮนด์นี้เข้าไปเล่นทำให้คุณได้กินพอตเล็กเกินไปในระยะยาว และการหมอบแฮนด์นี้ไปก็ทำให้คุณสูญเสียกำไรโดยใช่เหตุ
ส่วนในโต๊ะ 9 คนนั้น J9suited ควรจะหมอบใน 3 ตำแหน่งแรก (UTG,UTG+1 และ UTG+2) แต่ในกรณีที่โต๊ะของคุณมีผู้เล่นที่ไม่ค่อยเก่งมากเท่าไหร่ และเป็นเกมที่เก็บค่า rake ไม่แพงมากนักก็สามารถที่จะเปิดเรสไปด้วยไพ่ J9s ได้เช่นกันใน 3 ตำแหน่งนี้
เมื่อเจอกับการเรส
วิธีการเล่น J9s เมื่อเจอกับการเรส จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของคุณ และตำแหน่งของคนที่เป็นฝ่ายเปิดเรสมา โดยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
1.เมื่อคุณอยู่ในตำแหน่ง middle position หรือ cutoff กลยุทธ์ที่เหมาะสมนั้นง่ายมาก ก็คือการหมอบไปเลยนั่นเอง J9s ไม่แข็งแกร่งพอในการ cold-call หรือ 3-bet ในการบลัฟจากตำแหน่งนี้
2.เมื่อคุณอยู่ button ถ้ามีคนเปิดเรสมาจากตำแหน่งอื่นๆนอกจาก cutoff ให้คุณหมอบ แต่เมื่อเจอกับ cutoff คุณควรที่จะ 3-bet ด้วย J9s ทุกๆครั้งไป เพราะตำแหน่ง cutoff นั้นมักจะเปิดเรสมากว้างมากจนทำให้แฮนด์ J9s นั้นแแข็งแกร่งพอที่จะ 3-bet เพื่อการ semi-bluff ได้
3.เมื่อคุณอยู่ในตำแหน่ง small blind เมื่อคุณได้ไพ่ J9s ในตำแหน่ง small blind และเจอกับการเรสให้คุณหมอบเมื่อเจอกับการเรสจากทุกตำแหน่งยกเว้นแต่ cutoff กับ button เมื่อเจอกับ 2 ตำแหน่งนี้คุณควรที่จะ 3-bet
4.เมื่อคุณอยู่ในตำแหน่ง big blind เมื่อคุณเจอกับการเรสจากตำแหน่งอื่นนอกจาก button ให้คอลเข้าไปเล่น แต่เมื่อเจอ button เป็นคนเปิดเรสมาให้คุณจัดการ 3-bet เข้าแทนเพื่อเป็นการ semi-bluff
เมื่อเจอกับการ 3-bet
J9s ไม่ใช้แฮนด์ที่แข็งแกร่งพอที่จะคอล 3-bet ได้ เพราะว่ามันเสียเปรียบแฮนด์ที่ดีกว่าอย่าง Jx 9x ซึ่งจะทำให้คุณเสียเงินเยอะเวลาคุณติดคู่ บวกกับว่ามันไม่มีความสามารถในการเล่นที่ดีพอเหมือนกับแฮนด์อย่าง J10s หรือ suited connectors ที่เล็กกว่า
ด้วยเหตุผลนี้คุณควรจะคอล 3-bet เข้าไปเล่นเมื่อคุณเปิดเรสจากตำแหน่ง cutoff, button และ small blind เท่านั้น นอกจากนี้มันจะค่อนข้างก้ำกึ่งในหลายๆจุด ถ้าคุณรู้สึกสบายใจกว่าที่จะไม่เล่นมันก็ให้ทำตามนั้นซะ
เมื่อเจอกับการ 4-bet
กลยุทธ์ตรงนี้มันง่ายมากก็คือ หมอบ มันเป็นแฮนด์ที่อ่อนเกินไปที่จะคอล 4-bet อยู่แล้ว แถมยังแพ้หลายๆแฮนด์ที่เป็น 4-bet bluff ของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย
3 ทิปวิธีเล่น J9suited เมื่อคุณไม่ติด flop (คุณเป็นคนเปิดเรส)
ทิป1# – เมื่อคุณไม่มีตำแหน่งในบอร์ดต่ำหรือกลาง ให้คุณเช็คไปบ้างในบางครั้งถึงแม้คุณจะมี draw ก็ตาม
เมื่อบอร์ดออกมาเป็นตัวอย่างเช่น 8♥ 7♣ 4♠ or T♠ 8♠ 5♦ ถือเป็นโอกาสดีที่เลือกเช็คไปบ้างในบางครั้ง
เหตุผลก็คือถึงแม้คุณจะได้เปรียบเรื่อง range ในบอร์ดแบบนี้ แต่คนที่มีโอกาสจะมีแฮนด์ที่เป็น nut หรือมี nut advantage มากกว่าก็คือคนที่เป็นฝ่ายคอลมาช่วง preflop โดยฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสที่จะมีตอง มีสเตรท หรือมีสองคู่ใน range มากกว่าคุณนั่นเอง
เมื่ออัตราส่วน stack-to-pot ratio สูง คนที่เป็นฝ่ายคอลจะสามารถ raise ได้บ่อยครั้ง และจะทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการเล่นที่ turn และ river ต่อไป ซึ่งมันสามารถแก้ไขได้โดยการ เช็คนั่นเอง
ทิป2# – เบ็ทเสมอเมื่อคุณมี backdoor draw
เมื่อคุณมีแฮนด์อย่างพวก backdoor straight หรือ backdoor flush draw เป็นโอกาสดีที่จะ bet โดยคุณสามารถที่ยิงซ้ำได้ต่อเมื่อ turn เปิดออกมาให้ลุ้น draw ต่อได้
ทิป3# – เมื่อคุณเสียเปรียบด้านตำแหน่งใน 3-bet pot คุณควรที่จะเบ็ทให้มากขึ้น(แม้จะไม่มี draw) ในบอร์ดที่ดีสำหรับ range ของคุณ
ผมกำลังพูดถึงบอร์ดอย่างเช่น A♦ T♠ 5♥, K♣ 8♦ 4♠, และ Q♠ 7♣ 3♥ ในบอร์ดแบบนี้ คุณในฐานะคนที่เป็นฝ่าย 3-bet จะได้เปรียบด้าน range เมื่อเทียบกับฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก โดยคุณมีโอกาสที่จะมี top pairs, two-pairs และ sets ได้มากกกว่าฝ่ายตรงข้าม เมื่อบอร์ดออกมาเป็นลักษณะนี้ คุณควรที่จะ c-bet ออกไปเสมอด้วย J9s ถึงแม้คุณจะไม่มี backdoor flush draw ก็ตาม
จำไว้ให้ขึ้นใจ bet ออกไปประมาณ 33%-40% พอต ก็เพียงพอแล้วที่จะกดดัน range ที่เสียเปรียบของฝ่ายตรงข้าม
3 ทิป วิธีการเล่นในตอนที่ติด flop
ทิป1# – เมื่อคุณติด top pair ด้วย 9 ใน single-raised pot ให้คุณเบ็ท ที่ flop แล้วเช็คที่ turn
top pair 9 เป็นแฮนด์ที่โดนแซงง่ายมาก มันจึงควรที่จะเบ็ทที่ flop เพื่อจะได้ประโยชน์จากการป้องกันแฮนด์
การเช็คด้วย J9 ในบอร์ด 974 เป็นข้อผิดพลาดอย่างมาก บอร์ดแบบนี้มักจะเปลี่ยนแฮนด์จาก “เจ๋ง” ไปเป็น “เจ๊ง” ได้ง่ายๆ เมื่อมี A, K, Q, 10, 8, 6. ตกมา และยิ่งบอร์ดมีหน้าฟลัชด้วยแล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
เมื่อคุณเบ็ทที่ flop คุณสามารถที่จะเช็คที่ turn ได้ คุณจะไม่ได้ value เต็มทั้งสามรอบอยู่แล้ว ดังนั้นมันไม่เสียหายอะไรมากถ้าคุณทำแบบนี้
ทิป2# – เมื่อคุณติด top pair ด้วย J ใน single-raised pot ให้คุณเช็คที่ flop แล้วเบ็ทที่ turn
เปรียบเทียบกับ คู่ 9 top pair การติด J top pair นั้นโดนแซงได้ยากกว่า เพราะมี overcard อีกแค่ 2 ใบเท่านั้นที่จะมาโผล่ที่ turn ไม่ใช่แค่นั้น kicker ของเราถือว่าอ่อนมาก การปั้นพอตให้ใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี
ทิป3# – เมื่อคุณมี top pair บวกกับ flush draw ให้ยิงซ้ำที่ turn มากขึ้น
โดยปกติ top pair ที่คุณติดด้วย J9 ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเบ็ทเพื่อ value ครบทั้งสามรอบ คุณจึงต้องผสมการเช็คเข้าไปบ้าง
แต่เมื่อคุณมี flush draw ในขณะที่คุณติด top pair มันจะช่วยเพิ่ม value ให้กับแฮนด์ของคุณเป็นอย่างมากจนคุ้มค่าที่จะเบ็ทออกไป ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเราจะได้ประโยชน์จากการปั้นพอตให้ใหญ่เมื่อคุณไปติด flush ที่ river นั่นเอง
คุณก็ได้เรียนรู้เทคนิควิธีการเล่น J9suited ไปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมนำไปปรับใช้กันล่ะ!
หากสนใจการเล่น โป๊กเกอร์ออนไลน์ ต้องที่ pokerth