ทำไม Preflop 3-bet ถึงเป็นการเล่นที่ทรงพลังในเกมโป๊กเกอร์ NLH
ให้เราลองพิจารณาดูถึงประโยชน์ของการ 3-bet:
- 3-bet ทำให้ aggressor มีโอกาสชนะ pot และกิน dead money โดยไม่ต้องเห็น flop
- Preflop 3-bet เป็นการ isolate คู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่าและจำกัดจำนวนผู้เล่นที่จะเข้าไปเห็น flop ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- 3-bet ทำให้ pot ใหญ่ขึ้น ซึ่งนับว่ามีประโยชน์ต่อ aggressor ที่ถือ strong hand
ด้วยความมีประสิทธิภาพนี้เอง ทำให้การ 3-bet ยิ่งใช้กันมากขึ้นใน stake ที่สูงขึ้นและในเกมที่ยากขึ้น
มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ หรืออาจเป็นไปไม่ได้เลยก็ได้ที่จะเล่นเกมโป๊กเกอร์ในระดับสูงโดยไม่มีความรู้ในการรับมือกับ preflop 3-bet
บทความนี้จะอธิบายถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องพิจารณาในเวลาที่เจอกับ 3-bet และในบทความต่อไปเราจะมาลงรายละเอียดถึงความแตกต่างของกลยุทธ์การเล่นในสถานการณ์ทั้ง in และ out of position
ปัจจัยที่ต้องคิดเมื่อเจอกับ 3-bet
จริงๆแล้วมีอยู่หลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเจอกับ 3-bet แต่แน่นอนว่า 3 สิ่งสำคัญที่สุดคือ:
- ลักษณะนิสัยของ 3-bettor
- 3-bet size
- Hand ของเราสามารถ realize equity ได้ดีแค่ไหน
ลักษณะนิสัยของ 3-bettor
โป๊กเกอร์คือเกมของการ exploit และการปรับตัว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการสังเกตลักษณะนิสัยของคู่ต่อสู้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างที่สุด
และหลักการนี้ยิ่งสำคัญมากขึ้นเมื่อเจอกับ 3-bet ให้ลองคิดดูถึงคู่ต่อสู้ 2 ประเภทที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว และการที่เราจะต้องปรับตัวเมื่อเจอกับ 3-bet จากแต่ละคน:
- คู่ต่อสู้ประเภท NIT ที่เล่น tight มากๆและจะ aggressive เมื่อมี hand ที่ดีที่สุดเท่านั้น
เมื่อเจอกับ 3-bet จากพวก NIT เราสามารถ exploit ด้วยการ fold ทั้งหมด แล้วจะเล่นต่อกับพวก top range ของเราเท่านั้น เราสามารถ big fold preflop ไปเรื่อยๆจนกว่า NIT จะปรับตัวและเพิ่ม bluff ใน 3-bet range ของพวกเขา - คู่ต่อสู้ประเภท LAGTARD ที่เล่น loose aggressive และ 3-bet บ่อยมาก
เมื่อเจอกับ 3-bet จากพวก LAGTARD เราสามารถ exploit ด้วยการเล่นต่อด้วย range ที่กว้างขึ้นด้วยการ 4-bet และ call เราควรจะโฟกัสและจดโน๊ตเกี่ยวกับคู่ต่อสู้อย่างระมัดระวังเพื่อที่จะ exploit การเล่นที่ aggressive มากเกินไปได้อย่างเต็มที่
3-bet size
ในทางทฤษฎี raise size นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาเมื่อเจอกับ 3-bet เพราะมันเป็นตัวกำหนด pot odds ที่เราได้รับ
เมื่อได้รู้ pot odds เราก็สามารถคำนวณ equity ขั้นต่ำที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อที่จะเป็น profitable call ต่อ range ของคู่ต่อสู้
คำนวณ pot odds ได้ง่ายๆด้วยการ: หาร bet size ด้วย pot size ทั้งหมดบวกกับ bet size

จากนั้นคุณด้วย 100 เพื่อให้เป็นเปอร์เซ็นต์ และเราก็จะได้ equity ที่จำเป็นต้องมีในการ call ตัวอย่างเช่น:
$0.50/$1.00 บน PokerStars, $100 Effective Stack
Hero ถือ อยู่ที่ HJ
ทุกคน fold มาถึง HJ, Hero raise $2.50, CO 3-bet $8, BTN และ Blinds fold
เราจะต้อง call $5.50 และ pot ในตอนนี้เท่ากับ $12:

เราจะต้อง call $5.50 เพื่อเอาชนะ post-flop pot $17.50 นั่นหมายความว่า hand ของเราจะต้องมีอย่างน้อย 31% equity ต่อ range ของคู่ต่อสู้ถึงจะ call ได้
จากนั้น เราจำเป็นต้องใช้โปรแกรมอย่างเช่น Poker Equilab เพื่อคำนวณหา equity ของเราต่อ range ของ 3-bettor (ซึ่งเราจะต้องทำการประเมินเอง)
เพื่อให้ง่ายสำหรับในตัวอย่างนี้เราจะใช้ pre-flop range จาก The Poker Lab


เมื่อเราใส่ range นี้ลงใน Equilab เราจะได้ equity range ของเรากับของคู่ต่อสู้ และนำมาเปรียบเทียบกับ raw equity ที่จำเป็นต้องมีในการ call 3-bet (ซึ่งก็คือ 31%) ในสถานการณ์นี้

จาก range ของ The Poker Lab การคำนวณได้ผลลัพธ์ว่า open range ของ HJ จะมี 42.4% raw equity ต่อ range ของ CO 3-bet
ถ้าพิจารณาแค่เพียง raw equity เมื่อถูก 3-bet ก็หมายความว่า HJ สามารถปกป้อง open range ทั้งหมดต่อ $8 3-bet จาก CO
Raw equity เป็นสิ่งที่บอกว่าแต่ละ hand (หรือ range) สามารถชนะได้ ถ้าเป็นการ all-in ทั้งสองฝ่าย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมโป๊กเกอร์ เพราะเมื่อ HJ call 3-bet ก็จะเข้าสู่การเล่นในช่วง post-flop และนั่นเองเป็นเวลาที่ realize equity มีความสำคัญ
Raw Equity vs Realize Equity
ความสัมพันธ์ระหว่าง raw equity ของ hand และความสามารถในการทำกำไรในการเล่นจริงงั้นไม่ได้สอดคล้องกัน
ถึงแม้จะมีบาง hand ที่ raw equity และ realize equity สอดคล้องกันอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังมี hand อีกมากกว่าที่ under หรือ over realize raw equity ในการเล่นจริง
เพื่อให้เห็นภาพของประเด็นนี้ เรามาลองเปรียบเทียบ equity ของ 22 และ AKo กัน:

22 มี 52.7% ที่ดีกว่า AKo แต่ถึงแม้ว่า 22 จะมี raw equity มากกว่า AKo (ซึ่งเป็น hand ที่มักใช้ 3-bet กัน) แต่ realize equity ของมันก็ต่ำกว่ามาก
Hand ที่จะ realize equity ได้ จะต้องไปถึง showdown ซึ่ง 22 นั้นแทบจะไม่สามารถไปถึง showdown เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่เล่น post-flop betting frequency อย่างถูกต้อง
Hand ที่ไม่สามารถ realize equity ได้ดีพอ ควรจะ muck เมื่อเจอกับ 3-bet
พวก pocket pair ต่ำๆเป็น hand ที่มี realize equity ไม่ดี และเราจะพูดถึงตัวอย่างอื่นกันอีกในบทความหน้า แต่คำแนะนำในเบื้องต้นคือ:
- Suited hand realize equity ได้ดีกว่า off-suit hand
- ยิ่ง hand connect กันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่ง realize equity ได้มากขึ้นเท่านั้น
และในบทความหน้าเราจะมาพูดถึงความแตกต่างเมื่อถูก 3-bet ระหว่าง in position และ out of position
source: https://upswingpoker.com/vs-3-bet-pre-flop-position-strategy-revealed/