สำหรับบางคน การ bluff คือส่วนที่สนุกที่สุดในการเล่นโป๊กเกอร์ แต่กับบางคน มันคือส่วนที่น่าหวั่นใจที่สุดเช่นกัน
ที่ river ซึ่งเป็นช่วงที่ pot จะมีขนาดใหญ่ที่สุด ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะ bet อีกครั้ง แต่เราจะต้องไม่ปล่อยให้ความกลัวว่าคู่แข่งจะ call มากำหนดการ bluff ของเราได้ เพื่อที่จะทำกำไรให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เราจำเป็นต้องมี bluff ใน range ของเรากับการเล่นทุกรอบ
ในบทความนี้ เราจะมาแชร์เทคนิคเล็กๆ 3 ข้อที่จะช่วยพัฒนาทักษะในการ bluff ที่ river ให้กับทุกคน โดยเราจะพูดถึงทั้งมุมเชิงจิตวิทยา และเชิงกลยุทธ์
มุมมองเชิงจิตวิทยากับการ bluff ที่ river
เราจะมาเริ่มกับการตอบคำถามที่ว่า “ทำไมการ bluff ที่ river ที่เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับคนส่วนใหญ่?” กันก่อน
river เป็นรอบที่น่ากลัวที่สุดสำหรับการ bluff ก็เพราะ มันไม่มีการรองรับเพื่อความปลอดภัยอีกแล้ว ถ้าเราโดนจับได้ จะไม่มีการเปิดไพ่เพิ่มอีก ทำให้เราไม่มีโอกาสจะพัฒนา hand ได้อีกแล้ว
ด้วยเหตุผลนี้ รวมกับข้อเท็จจริงที่ว่า คนส่วนใหญ่ไม่ชอบความรู้สึกว่าตัวเองถูกเปิดโปง หรือรู้สึกว่าตัวเองผิดพลาด ทำให้การ bluff ที่ river เป็นเรื่องที่น่าหวั่นใจมากๆ
ด้วยความที่เราเป็นมนุษย์ เรามีความกลัวถูกฝังอยู่ในยีน ทำให้โดยรวมแล้ว เผ่าพันธุ์ของเราเป็นพวก “เลี่ยงความเสี่ยง” ซึ่งมันช่วยเหลือเราในประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาอย่างยาวนาน ถ้าบรรพบุรุษของเรากล้าเสี่ยงมากกว่านี้จนเกินไป จะทำให้มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะตาย ความกลัวจึงคือสัญชาตญาณในการป้องกันตัวเองในทางธรรมชาติ ที่ทำให้เราพยายามเลี่ยงตัวเองจากการ bluff ใหญ่ๆ
แต่นี่มันปี 2021 แล้ว! ต่อให้ bluff พลาดเราก็คงไม่ตายหรอก เราอาจจะแค่รู้สึกแย่ (จนกว่าเราไม่รู้สึกแล้ว)
ดังนั้น ไม่ต้องกลัว จดจำเทคนิค 3 ข้อในการ bluff ที่ river นี้ไว้ให้ดีและเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเหนี่ยวไกไว้ให้มั่น ในเกมถัดไป
เทคนิค 3 ข้อในการ bluff ที่ river ในเชิงกลยุทธ์
ทีนี่เรามาคุยกันเรื่องการ bluff ในเชิงกลยุทธ์กันบ้าง โดยเราจะแชร์เทคนิค 3 อย่างที่จะช่วยให้เราสามารถ bluff ที่ river ได้ดีขึ้น
เทคนิค #1: ใช้หลักการของ Minimum Defense Frequency (MDF)
Minimum defense frequency (โอกาสอย่างน้อยที่สุดในการป้องกัน) คือ หลักคิดที่เป็นรากฐานสำคัญของการ bluff โดยเฉพาะกับการ bluff ที่ river MDF นั้นมาจากหลักการพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ซึ่งแปลออกมาเป็นสมการง่ายๆดังนี้ :
Risk / (Reward + Risk)
(เงินที่เราเสี่ยง/(กำไรที่จะได้ + เงินที่เราเสี่ยง)
ดังนั้น ถ้าผลลัพธ์ที่ได้น้อยกว่า โอกาสที่เราจะ bluff ได้สำเร็จ เราก็จะได้กำไร ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราเหล่านักเล่นโป๊กเกอร์เรียกว่า +EV (expected value) bluff นั่นเอง
ลองมาดูตัวอย่างนี้ :
สมมติว่า pot มีเงินอยู่ 50bb และเรา bet 66% ของ pot โดยเราคิดว่าเรามีโอกาส bluff ได้สำเร็จ 45% เมื่อคำนวณแล้ว เราจะได้คำตอบ ดังนี้ :
33bb / (50bb + 33bb) = 0.397
เอาตัวเลขนี้ไปคูณ 100 เพื่อเปลี่ยนเป็นโอกาส จะออกมา 39.7%
ในคือ MDF ที่คู่แข่งของเราต้องเจอ ในการป้องกันไม่ให้เราทำกำไรได้จากการ bluff ซึ่งเรารู้ว่า คู่แข่งของเรามีโอกาส fold 45% ดังนั้น พูดง่ายๆก็คือ นี่เป็นการ bluff ที่ได้กำไรอย่างมาก เพราะคู่แข่งเรามีโอกาส fold มากกว่า ความเสี่ยงที่เราต้องเจอ (45% > 39.7%)
(ในทางตรงกันข้าม แปลว่า ถ้าคู่แข่งจะป้องกันตัวเองไม่ให้เราทำกำไรได้ เขาต้องไม่ fold เกิน 39.7% หรือต้อง call อย่างน้อย 61.3% หรือประมาณ 6 ใน 10 ครั้งที่เรา bet 66% ของ pot ที่ river เพื่อไม่ให้เราได้กำไรในระยะยาว)
เทคนิค #2: คิดถึงเรื่อง blocker ไว้ให้ดี
เราได้ยินเรื่อง blocker แทบจะทุกบทความ รู้ไหมว่าทำไม? ก็เพราะมันสำคัญยังไงเล่า!
ใช่ เราอาจจะดูข้อมูลจาก HUD หรือฐานข้อมูลคู่แข่ง เพื่อให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ในจุดนี้ เขาอาจจะมีการ fold มากเกินไป สัก 2-3% ได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรเอา hand ที่ draw ไม่ติด มา bluff ทุก hand เลยเช่นกัน
ไพ่ที่เราถืออยู่สามารถส่งผลต่อโอกาสการ fold ของคู่แข่งได้ การมี blocker ที่ดีสามารถทำให้คู่แข่งของเรา fold หมอบได้มากขึ้นประมาณไม่กี่ % (หรืออาจจะมากกว่านั้นเล็กน้อย) ขณะที่การมี blocker ที่แย่ อาจจะทำให้คู่แข่งของเรา call กับมาได้มากขึ้นเล็กน้อยได้
ลองมาดูตัวอย่าง :
MP เปิด 2.5bb และเรา call ที่ BB flop ออกมาเป็น K♦ 7♠ 4♥ และทั้งคู่ check turn ออกมาเป็น Q♣ ทั้งคู่ check อีกครั้ง river ตกเป็น 2♠ ทำให้ตอนนี้ board คือ K♦ 7♠ 4♥ Q♣ 2♠
จาก board ดังกล่าว solver แนะนำให้ BB เล่นดังนี้ :
solver แนะนำว่า ถ้า MP เจอ bet มา 66% ของ pot จะต้อง fold ประมาณ 43.87% โดยเฉลี่ย ถ้ายังจำเทคนิคก่อนหน้านี้ได้ แปลว่านี่ก็คือ ค่าเฉลี่ยของการ bluff ที่จะทำกำไรให้เราได้
แต่ถ้าเราดูจากผลของ solver จะเห็นว่า มีหลาย hand มากๆที่ไม่มี showdown value (เช่น T9-suited, T8-suited, 98-suited, และอื่นๆ) จะต้อง check 100% แม้จะทำให้เราแพ้ 100% ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
นั่นก็เพราะ combo ของ hand เหล่านี้ ไป block range ที่คู่แข่งจะ fold ได้ ทำให้คู่แข่งมีโอกาส fold น้อยลง เช่น 88-TT และ A8s-ATs
hand พวกนี้เป็นตัวอย่างที่อยู่ใน range ที่ MP จะ fold เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การไป block hand เหล่านั้นจะทำให้เรามีโอกาส bluff สำเร็จน้อยลง
(โน้ตว่า ผลลัพธ์นี้ยืนยันจากการใช้ตัวเลือก “Frequencies vs one combo” ใน Porsolver ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่คู่แข่งจะ fold เมื่อเจอ T9/T8/98 จะลดลงจนแทบจะเท่ากับขั้นต่ำของ MDF)
เทคนิค #3: เรากำลังแข่งกับมนุษย์ ไม่ใช่ solver
เราจะต้องสรุปเทคนิคเหล่านี้โดยคำนึงถึงเรื่องการ exploit
กลยุทธ์ที่เป็นจุดสมดุลที่ river นั้นเป็นเรื่องที่เปราะบางมากๆ เนื่องจาก solver จะมีการปรับที่มหาศาล จากการเปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือสถานการณ์ที่ใส่เข้าไปเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น การมี bluff 2 combo ที่มากเกินไป จะไปเปลี่ยนกลยุทธ์การจับ bluff ให้กลายเป็นการ call มากเกินไป ในทางตรงกันข้าม การมี bluff 2 combo น้อยเกินไป จะทำให้ solver แนะนำให้ fold มากเกินไปได้เช่นกัน
นักเล่นที่เก่งที่สุดในโลกสามารถคาดการณ์ว่าคู่แข่งจะเล่นอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ ได้อย่างแม่นยำมากกว่าคนทั่วไป นั่นทำให้พวกเขากินชิพจาก pot ได้มากขึ้นเวลาที่เล่น
เรามีบทความมากมายที่จะช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับการปรับตัวเพื่อ exploit คนอื่น ถ้าอยากจะทำกำไรให้มากที่สุด แนะนำให้อ่านบทความเหล่านี้ :
- วิธีเล่นงานคู่แข่งเมื่อได้เห็น Showdown
- กลยุทธ์ที่ผิดพลาด 5 อย่างที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ชอบทำ (และวิธี exploit คนเหล่านี้)
- วิธี exploit ผู้เล่น 3 ประเภทที่แตกต่างกัน
- คำถาม 10 ข้อที่เราต้องถามตัวเองก่อนจะ exploit คู่แข่ง
- [ควิซ] เราจะสามารถ exploit โต๊ะตัวอย่างตามสมมติฐานนี้ได้หรือไม่?
บทสรุป
เราขอจบบทความนี้ด้วยข้อแนะนำอย่างมีหลักการว่า “จงมี bluff ใน range ของเราบ้าง แม้เราจะคิดว่าคู่แข่งอาจจะ call มากเกินไปก็ตาม” เข้าใจว่าคนที่ไม่กล้า bluff คงจะทำใจได้ยาก แต่เราคงไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นพวก nit ในโต๊ะหรอก เราต้องออก action เพื่อให้ได้ action กลับมาบ้าง!