วิธีจัดการดาวน์สวิงในแบบมือโปร

มีอะไรที่แย่กว่าการเสียเงินใน 1 เซสชั่นในการเล่นโป๊กเกอร์? การเจอดาวน์สวิงที่ทำให้เราเสียเงินไปตลอดช่วงหนึ่งเลยยังไงล่ะ! การเจอแบดบีทบ่อยๆคือการทดสอบจิตใจเราได้เป็นอย่างดี 

ดาวน์สวิงเป็นสิ่งหนึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการเล่นโป๊กเกอร์ ไม่สำคัญกว่าเราจะเป็นนักเล่นหน้าใหม่หรือเป็นนักเล่นที่เก่งที่สุดโลก เพราะสุดท้ายเราก็จะเจอความผันผวนแรงๆในวันใดวันหนึ่งอยู่ดี

เราอาจจะถือ A♣️ 9♣️ เจอกับ A♦️ A♥️ บน board อย่าง A♠️ 9♠️ 8♣️ 9♥️ 3♠️ โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ จนต้องเสียชิพทั้งหมด เมื่อเจอแบบนี้

ความจริงที่ว่าดาวน์สวิงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราต้องเรียนรู้เพื่อจัดการกับมัน หลายครั้งที่การจัดการกับดาวน์สวิงอย่างถูกต้อง คือสิ่งที่แยกนักเล่นโป๊กเกอร์ที่ยอดเยี่ยมออกจากนักเล่นโป๊กเกอร์ที่ดี ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีที่ได้ประโยชน์ในการจัดการดาวน์สวิงกัน

ดาวน์สวิงจะเกิดได้นานที่สุดแค่ไหน?

ข้อแรกนี้อาจจะฟังดูรุนแรงไปหน่อย แต่ต้องบอกเอาไว้ให้รู้ว่า ถ้าเราเป็น losing player ยังไงเราก็จะเสียเงินตลอดในระยะยาว ไม่มีวิธีไหนจะหนีพ้น

แต่ถ้าเราเป็น winning player ตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่จะส่งผลต่อความรุนแรงของดาวน์สวิงก็คือ win-rate ของเรา ซึ่ง win-rate ที่คำนวณจากกำไรเป็น bb ที่ได้ต่อ 100 แฮนด์ (bb/100) คือวิธีที่นักเล่นโป๊กเกอร์ใช้วัดความได้เปรียบในการเล่น ยิ่งเรามี win-rate สูงแค่ไหน เราก็ยิ่งได้รับผลกระจบจากความผันผวนน้อยลงเท่านั้น

สำหรับนักเล่นออนไลน์ เราสามารถตรวจสอบ win-rate ได้ง่ายๆโดยใช้โปรแกรมอย่าง PokerTracker 4 สำหรับนักเล่นไลฟ์ มันอาจจะยุ่งยากนิดหนึ่ง แต่ก็มีวิธีบันทึก bb/100 แบบแมนวลได้เช่นกัน

เราจะคำนวณหา Win-Rate ในการเล่นโป๊กเกอร์แบบไลฟ์ได้อย่างไร?

วิธีคำนวณหา win-rate เราต้องหาว่าเราเล่นมาแล้วกี่แฮนด์ และเราได้กำไรไปแล้วกี่ bb แต่ด้วยความที่เราอาจจะไม่รู้ว่าเราเล่นไปแล้วกี่แฮนด์ เราอาจจะกะประมาณการเล่นไว้ที่ประมาณ 25 แฮนด์ต่อชั่วโมง

ลองมาดูตัวอย่าง :

สมมติว่า เราเล่นโป๊กเกอร์แบบไลฟ์มาแล้ว 1,000 ชั่วโมง แล้วทำเงินไปได้ 5,000bb ก็ให้เราคูณ 1,000 ชั่วโมงนั้นด้วย 25 แฮนด์ต่อตัวโมง ก็แสดงว่าเราเล่นมาแล้วประมาณ 25,000 แฮนด์ จากการที่เราทำกำไรได้ 5,000bb ใน 25,000 แฮนด์ แสดงว่าเราทำกำไรเฉลี่ย 0.2bb ต่อ 1 แฮนด์ คูณค่านี้ด้วย 100 เราจะได้กำไร 20bb ต่อ 100 แฮนด์ (20bb/100)

เมื่อเรารู้แล้วว่า win-rate ของเรามีประมาณเท่าไหร่ เราก็สามารถใช้ เครื่องคำนวณความผันผวนในเกมโป๊กเกอร์ เพื่อดูว่าส่วนใหญ่แล้วเราจะเจอความผันผวนประมาณเท่าไหร่ จากจำนวนแฮนด์ที่กำหนด ซึ่งโปรโป๊กเกอร์ส่วนใหญ่มักจะเห็นตรงกันว่า เราต้องเล่นมาไม่น้อยกว่า 100,000 แฮนด์ เพื่อให้เราได้ค่า win-rate ที่น่าเชื่อถือได้จริงๆ แต่สำหรับนักเล่นโป๊กเกอร์ไลฟ์แล้ว ตัวเลขประมาณ 50,000 แฮนด์ก็พอเชื่อถือได้เช่นกัน

เมื่อเราลองใช้เครื่องคำนวณดังกล่าว เราจะเห็นผลของความผันผวน (variance) จากจำนวนแฮนด์ตัวอย่างที่ใส่ลงไป จากตัวอย่างในรูปต่อไปนี้ แสดงถึง การจำลองช่วงของผลการเล่นระยะยาวที่มีความเป็นไปได้ สำหรับผู้เล่นที่มี win-rate 20bb/100 :

poker variance downswings

ช่วงของผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการเล่นกว่า 50,000 แฮนด์ของผู้เล่นที่มี win-rate จริง 20bb/100 โน้ตว่า นี่เป็นแค่ผลการจำลองเท่านั้น ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจจะแตกต่างกันไป ถ้าลองรันในรูปแบบอื่นหรือเมื่อค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีการปรับเปลี่ยน

เส้นสีน้ำตาลแดง (ที่มีลูกศรสีแดง) คือผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดที่มีโอกาสเป็นไปได้สำหรับผู้เล่นในทางทฤษฎีของเรา ขณะที่เส้นสีฟ้าอ่อน (ที่มีลูกศรสีน้ำเงิน) คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ ลองดูช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างทั้งสองเส้น และข้อเท็จจริงที่เส้นสีน้ำตาลแดงต้องผ่านการเจอดาวน์สวิงจำนวนมากขนาดไหนตลอดจำนวนแฮนด์ตัวอย่าง ขอบใจมาก เจ้าความผันผวน!

ดาวน์สวิงในเกมแบบไลฟ์และออนไลน์ต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างที่สำคัญของดาวน์สวิงระหว่างเกมแบบไลฟ์และออนไลน์ก็คือ :

  • ในเกมไลฟ์ win-rate ของเราจะสูงกว่าปกติ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่เก่งมาก ดังนั้นความผันผวนโดยรวมของเราจะต่ำกว่า
  • อย่างไรก็ตาม ในเกมออนไลน์ เราสามารถเล่นจำนวนแฮนด์ได้มากกว่า ทำให้เราเล่นเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวได้เร็วกว่า

นอกเหนือจากความแตกต่าง 2 ข้อนี้ โป๊กเกอร์ก็คือโป๊กเกอร์เหมือนเดิม ดังนั้น เราก็จะเจอสถานการณ์ที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ทั้งไลฟ์หรือออนไลน์ ไม่ เราไม่ได้เจอแบดบีทมากกว่าในเกมออนไลน์ แต่ที่เรารู้สึกแบบนั้นอาจจะเพราะเราเล่นจำนวนแฮนด์มากกว่า ในระยะเวลาการเล่นที่เท่ากันมากกว่า

เราจะหยุดาวน์สวิงได้อย่างไร?

ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับการหลีกหนีออกจากดาวน์สวิง โชคร้าย ที่เราไม่สามารถควบคุมไพ่ที่จะออกได้ อย่างไรก็ตาม มันยังพอมีทางที่เราจะสามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับ bankroll ของเราได้ ดังนี้ :

  1. เตรียม buy-in ในจำนวนที่มากพอ สำหรับการเล่นเกมปกติ
  2. เตรียมพร้อมลดระดับ stake ที่เล่นลง 
  3. รีวิวแฮนด์บ่อยๆ
  4. หยุดพักการเล่น

วิธีแรกและเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดเพื่อลดผลกระทบของการเกิดดาวน์สวิงได้แน่นอน คือ การเตรียมจำนวน biuy-in ให้พอกับระดับของ stake ที่เราจะเล่น โดยทั่วไปแล้ว Upswing เราแนะนำให้เตรียมประมาณ 20-40 buy-in สำหรับการเล่นไลฟ์ และประมาณ 100 buy-in สำหรับการเล่นออนไลน์ รายละเอียดเรื่องการบริหาร bankroll สามารถศึกษาต่อได้ที่ บทความนี้

(ถ้าเราไม่ได้เล่นโป๊กเกอร์เพื่อหาเลี้ยงชีพ และสามารถเติม bankroll ได้เรื่อยๆจากเงินที่หาได้จากงานอื่น เราอาจจะสามารถเตรียม bankroll ให้น้อยลงกว่านี้ก็ได้)

วิธีต่อมาที่จะลดขนาดของดาวน์สวิงก็คือ เตรียมพร้อมที่จะลดระดับ stake ที่เล่นลง สมมติว่าเราเริ่มเล่นด้วยเงิน $1,000 แล้วเล่นเกมระดับ $0.05/$0.10 จากนั้นเกิดดาวน์สวิงขึ้น ทำให้ bankroll เราเหลือ $700 ทำให้เราเหลือ bankroll 70 buy-in จาก 100 buy-in ดังนั้น เราเริ่มน่าจะต้องลดระดับ stake ที่เล่นลง เพื่อปั้น bankroll และความมั่นใจขึ้นมาใหม่ โป๊กเกอร์เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน ที่มีเกมที่ใหญ่กว่านี้รอเราอยู่ภายภาคหน้า

อย่างที่ 3 อย่าลืม รีวิวแฮนด์กับเพื่อนๆในเครื่องข่ายนักเล่นโป๊กเกอร์ของเรา ที่เราแพ้เพราะโชคร้าย หรือเพราะเราเล่นพลาดเองกันแน่? มันอาจจะยากในการวิเคราะห์แฮนด์ตัวเอง ดังนั้น การปรึกษาคนอื่นที่เราเคารพเชื่อถือ เป็นไอเดียที่ดีเสมอ

และอย่างสุดท้าย เราควรพิจารณา หยุดพักจากการเล่นโป๊กเกอร์ ถ้าเราเริ่มรู้สึกว่า ดาวน์สวิงส่งผลกระทบเชิงลบกับอารมณ์การเล่นของเราอยู่ เรายังสามารถศึกษาการเล่นต่อได้ แต่การพักการเล่น คือวิธีที่ดีที่จะ เอาชนะอาการ tilt และรักษา mindset ของผู้ชนะเอาไว้ได้

คำแนะนำสั้นๆเกี่ยวกับดาวน์สวิงในทัวร์นาเมนต์

คำแนะนำในบทความนี้เจาะจงไปที่แคชเกมเป็นหลัก แต่ความผันผวนในทัวร์นาเมนต์ก็เป็นประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ที่ควรพูดถึงด้วยเช่นกัน

ในทัวร์นาเมนต์ แม้แต่ผู้เล่นระดับโปรที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายที่มีสถิติย้อนหลังเป็นเครื่องยืนยัน ก็ยังมีโอกาสที่จะเจอดาวน์สวิงยาวๆ โดยทำเงินไม่ได้เลยเป็นระยะเวลาหนึ่งได้เช่นกัน ซึ่งจะส่งผลกระต่อ bankroll และจิตวิทยาในการเล่นของผู้เล่นคนนั้นได้เสมอ

และนี่คือ คำแนะนำสำคัญ 6 ข้อในการจัดการกับดาวน์สวิงในการเล่นทัวร์นาเมนต์ :

  1. รักษา bankroll ให้เพียงพออยู่เสมอ
  2. ลดระดับ stake ลงมาเมื่อจำเป็น  
  3. ขายหุ้น เมื่อจำเป็น
  4. ลดความคาดหวังลงมา
  5. หยุดเล่นเมื่อรู้สึก tilt
  6. ศึกษาให้มากขึ้น

และอย่างสุดท้ายที่ต้องไม่ลืมก็คือ แม้ความผันผวนจะโหดร้าย แต่มันก็คือเหตุผลที่ทำให้โป๊กเกอร์ยังเป็นเกมที่สามารถทำกำไรได้

ถ้าคนที่เก่งที่สุดสามารถชนะได้ทุกครั้ง คนที่เล่นไม่เก่งเท่าก็จะไม่มีแรงจูงใจที่จะสู้ต่อ ดังนั้น แม้แบดบีทจะเป็นเรื่องแย่ แต่จะไว้ว่า มีแต่คนที่ไม่เก่งเท่านั้นที่จะหมดตัว แต่เรายังเหลือ stack ได้มากพอ ถ้าเรายังเป็นผู้เล่นที่ดีอยู่

https://upswingpoker.com/downswings-in-poker/