board ที่เป็น 4-straight และ 4-flush เป็น board กลุ่มที่เล่นได้ยากที่สุด
เราอาจจะเคยเล่น board แบบนี้ในหลายๆสถานการณ์ ตั้งแต่ single raised pot จนถึง 4-bet pot และอะไรก็ตามที่อยู่ระหว่างนั้น
เนื่องจากหัวข้อค่อนข้างกว้าง ผมจึงขอแชร์คำแนะนำ 3 ข้อในแต่ละ board ที่จะช่วยชี้แนะแนวทางการตัดสินใจให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
มาเริ่มกัน!
คำแนะนำ 3 ข้อ สำหรับ 4-Straight Board
ข้อที่ #1 – ถ้าเราพัฒนาเป็น straight ไม่ได้ เล่นให้ช้าลงเพื่อคุมขนาดของ pot
ความเข้าใจเรื่องความแข็งแกร่งของแฮนด์ในเชิงเปรียบเทียบ คือพื้นฐานที่สำคัญ ในการเป็นนักเล่นโป๊กเกอร์ที่ดี
เมื่อ board เป็น 4-straight แฮนด์อย่าง 2 pair และ set จะอ่อนแอลงมาก ซึ่งเป็นจริงมากๆ หลังจากเรา bet ใน street ก่อนหน้า แต่ก็ยังเป็นอยู่ ต่อให้เราไม่ได้ bet
ในกรณีนี้ แนวทางการเล่นที่ถูกต้อง คือ การเริ่มควบคุมขนาดของ pot
ลองดูว่า solver แนะนำวิธีการเล่นในแนว passive มากขนาดไหน ในสถานการณ์แบบนี้ (BB vs BTN ใน single raised pot หลังจาก c-bet ที่ flop)
บน board J♠ 9♥ 7♦ 8♥ solver จะ bet แค่ 16% ในจุดนี้
ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่าแฮนด์ส่วนใหญ่ที่เป็น straight (T, T9, T8 ฯลฯ) มักจะ check back เหตุผลก็เพราะ BTN ไม่มี nut advantage ถ้า bet ไป ส่วนใหญ่เขามักจะถูก call กับแฮนด์ที่เหมือนกัน แต่อาจจะทำให้เสีย value ที่อาจจะได้รับจาก BB ที่มีโอกาสจะ bluff ที่ river ได้
ข้อที่ #2 – เมื่อเจอ bet เป็นไปได้ว่าคู่แข่งอาจจะ semi-bluff กับ straight draw
ขึ้นอยู่กับลักษณะ board ที่เป็น 4-straight ที่ turn ซึ่งมักจะมี straight draw ที่คู่แข่งมีโอกาสที่จะฉวยโอกาส bluff ได้ ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงไม่ควรยึดติด ว่า range ของคู่แข่ง จะต้องมีแต่ straight อย่างเดียว และจำไว้ว่าเขามีโอกาสที่จะ bluff มากกว่าปกติได้ง่ายขึ้นมาก
นี่เป็นเรื่องจริง ยิ่งเมื่อเรา check back ที่ flop แล้วไพ่ก็รันออกมาเป็น 4-straight ที่ turn
ลองดูลักษณะการกระจายตัวของ range ของ BB เจอกับการ check back ของ BTN ใน single raised pot บน baord J♠ 9♥ 7♦ 8♥
กรอบสีน้ำเงิน แสดงถึงจำนวนคอมโบ ของ straight (82.8 คอมโบ) ที่ BB มีโอกาสมีได้ ขณะที่กรอบสีแดง แสดงถึงจำนวนคอมโบของ straight draw (60.8 คอมโบ) ที่เขามีโอกาสมีได้ (ไม่แน่ใจว่านี่คืออะไร ลองอ่านบทความเกี่ยวกับ กราฟเรื่องการกระจายตัวของ equity ได้ที่นี่)
range ของ BB จะมี straight ทั้งหมด 83 คอมโบ แต่ก็ยังมี gutshot และ open-ended ถึง 61 คอมโบ บวกกับ flush draw/combo draw รวมกันอีก 36 คอมโบ
ถ้า range ของคู่แข่งมีโอกาสจะมี semi-bluff จำนวนมากถึงขนาดนี้ เราอาจจะต้องพยายาม call แฮนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ไม่ใช่ straight ดูบ้าง อย่าไปโฟกัสแต่เฉพาะ strong hand ที่คู่แข่งจะมีได้อย่างเดียว! (ยกเว้นเขาเป็นพวก nit)
ข้อที่ #3 – ถ้าคู่แข่งแสดงออกว่าไม่สนใจ pot ให้ขยาย range ของ value bet ให้กว้างขึ้นได้เล็กน้อย
ถ้าคู่แข่งของเราเล่นแฮนด์นี้อย่าง passive (ระมัดระวัง) โดยการ check back เมื่อ in position หรือ check กลับมา 2 ครั้ง เมื่อ out of position เราอาจจะสามารถขยาย value betting range ของเราให้กว้างขึ้นกว่าแค่ straight ได้
นี่ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้ เมื่อเป็น BB vs BTN ใน single raised pots พยายามลอง value bet เล็กๆกับ 2 pair และ set หลังจากที่คู่แข่ง check back ที่ flop หรือ turn หรือ check กลับมา 2 ครั้ง
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคู่แข่ง check กลับมา 2 ครั้ง บน board A-Q-T-J และเรา turn ติด 2 pair ด้วย QJ ถึงแม้ว่าจะมีไพ่ 4 ใบที่อาจจะเป็น straight แต่แฮนด์ของเราก็อาจจะยังมีค่าพอให้ value bet ได้ (ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ อย่างน้อยก็ตอน river)
อย่างไรก็ตาม ผมไม่แนะนำให้ value bet เล็กๆกับแฮนด์ตั้งแต่ 2 pair ลงมา เพราะเรามักจะถูกกดดันจากการถูก call โดยแฮนด์ที่แย่กว่า ด้วยโอกาสมากกว่า 50%
คำแนะนำ 3 ข้อ สำหรับ 4-Flush Boards
ข้อที่ #1 – ถ้าเราพัฒนาเป็น flush ไม่ได้ เล่นให้ช้าลงเพื่อคุมขนาดของ pot
การที่ flush ใบที่ 4 ตกที่ turn นั้น ส่งผลกระทบต่อเรื่อง การกระจายตัวของ equity distribution เวลาที่ range vs range อย่างมาก หรือพูดได้ว่า แฮนด์ที่ปกติจะ strong มากๆ (เช่น set, 2 pair, หรือแม้แต่ straight) จะเสีย value ไปได้อย่างมาก
ถ้าเรา c-bet ไปใน street ก่อนหน้า เราจำเป็นต้องเริ่มคุม pot กับแฮนด์เหล่านี้ หลังจาก flush ใบที่ 4 ตกมา เพราะ bet ของเรามักจะไม่ถูก call จากแฮนด์ที่แย่กว่าบ่อยเท่าไหร่ ทำให้ได้กำไรไม่มากเท่าที่ควร
ลองดูว่า solver แนะนำวิธีการเล่นในแนว passive มากขนาดไหน เมื่อ board มี 4-flush ตก หลังจาก c-bet ที่ flop (BB vs BTN ใน single raised pot)
Solver แนะนำให้ bet ต่อแค่ 28%! มันสมเหตุผลเมื่อมองว่า แม้แต่ set ยังมี equity เหนือ 50% เพียงเล็กน้อย เมื่อเจอกับ range ทั้งหมดของ BB ทำให้ไม่ strong พอที่จะ value bet ได้
ข้อที่ #2 – เมื่อต้องจับ bluff ที่ river นิสัยการเล่นของคู่แข่งจะมีความสำคัญมากกว่าปกติ
สมมติว่าเราเปิดจาก BTN แล้ว BB call เรา c-bet บน monotone flop แล้วโดน call จากนั้นมี flush ใบที่ 4 ตกมาที่ turn และเรา check back
ตอนนี้สมมติว่าคู่แข่ง bet ที่ river แล้วแฮนด์ของเราเป็นได้แค่ bluff-catcher (แฮนด์เราไม่ชนะ value bet ชนะได้แต่ bluff)
บทความเสริม : ตัวอย่าง 3 แฮนด์ที่จะช่วยให้เราจับ bluff ได้สำเร็จมากขึ้น
ในสถานการณ์นี้ เราต้องเข้าใจว่าคู่แข่งของเราอาจจะมีได้ทั้ง flush หรือ ไม่มีอะไรเลย แต่อาจจะมี blocker ที่ดีบางตัวที่ทำให้เขาตัดสินใจ bluff ได้ เมื่อ blocker คือเรื่องที่จำเป็นแต่เรามองไม่ออกหรืออ่านไม่ได้ มันก็แทบจะตัดสินใจยากว่าแฮนด์นี้จะเป็น bluff หรือไม่
ในกรณีนี้ นิสัย ในการ bluff ของคู่แข่ง จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า เมื่อเทียบกับกรณีทั่วไป ที่ blocker จะมีอิทธิพลต่อโอกาสในการ bluff เป็นหลัก ถ้าคู่แข่งของเราเป็นพวกบ้าคลั่งที่ชอบ bluff เราอาจจะพิจารณา call กลับไปบ้าง แต่ถ้าเขาเป็นแนว “tight ไว้ก่อนน่าจะดี” เราก็อาจจะสามารถยอมแพ้ในแฮนด์ที่สำคัญๆได้
ข้อที่ #3 – เมื่อเราจะ bluff ที่ river นิสัยการเล่นของคู่แข่งจะมีความสำคัญมากกว่าปกติ
ข้อนี้คือส่วนกลับของคำแนะนำข้อที่ #2 ในคราวนี้ สมมติว่าเราเป็น BB ที่ call เมื่อเจอ BTN raise บ้าง เรา c-bet บน monotone flop และทั้งคู่ก็ check ที่ turn
ถ้าเราอยากจะเล่นที่ river ในเชิง aggressive เรามีโอกาสเลือกที่จะ bluff ได้ โดยไม่ต้องสน blocker เพราะ ณ จุดนี้มันไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้ นิสัยการเล่นของคู่แข่งของเรา ว่าเป็นพวก fold บ่อยเกินไป หรือ call บ่อยเกินไป ในสถานการณ์แบบนี้ จะเป็นตัวตัดสิน กระบวนการตัดสินใจของเรา ว่าควรจะเล่นแบบไหน ถ้าเขาเป็นพวกชอบ fold เมื่อเจอการเล่นแบบ aggressive บ่อยๆ เราอาจจะเลือกกลยุทธ์การ bluff แบบ aggressive ในการเล่น หรือถ้าเขาเป็นพวกเล่นแบบเหนียว ไม่ fold ง่ายๆ ก็พยายามอย่าไป bluff เขาบ่อย
สรุปเนื้อหา
4-straight และ 4-flush board คือสถานการณ์การเล่นที่เล่นได้ยากที่สุดแบบหนึ่ง การ bluff เป็นเรื่องที่ท้าทาย และการรู้จักนิสัยการเล่นของคู่แข่งของเราก็ยิ่งมีความสำคัญมากกว่าปกติ
ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ แต่หวังว่าคำแนะนำทั้ง 6 ข้อนี้ จะช่วยให้คุณเล่นได้ง่ายขึ้น
ถ้าคุณต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ bluff ที่ river แนะนำให้อ่าน 3คำแนะนำ 3 ข้อในการ bluff ที่ river ที่จะช่วยให้เราชนะแคชเกมได้