เมื่อไหร่ที่เราควร c-bet กับ middle หรือ bottom pair ในแคชเกม?

ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งมีกลยุทธ์โป๊กเกอร์หลากหลายมุมมอง เทกันเข้ามามากขึ้น…

…รวมไปถึงที่ว่า เราควร c-bet กับ middle หรือ bottom pair บน flop ดีหรือไม่

จากความช่วยเหลือของ solver ตอนนี้เราจึงได้มุมมองว่า เมื่อไหร่ที่การเล่นแบบนี้ถึงจะเป็นความคิดที่ดี ได้ชัดเจนขึ้น

ในบทความนี้ ผมจะอธิบายว่า ทำไมเราจึงควร c-bet เมื่อ flop ติด middle หรือ bottom pair และควรจะทำเมื่อไหร่

มาเริ่มกัน!

ทำไมเราจึงอยาก c-bet ด้วย middle และ bottom pair?

ลองคิดถึงเป้าหมาย 3 ข้อ ที่ทำให้เราเลือกที่จะ bet หรือ check ในแต่ละแฮนด์ :

  1. เพื่อให้แฮนด์ที่แย่กว่า call มา (bet เพื่อเรียก value)
  2. เพื่อ deny equity (bet เพื่อ bluff และ/หรือ เพื่อปกป้อง equity)
  3. เพื่อเพิ่ม implied odds ให้แฮนด์ของเรา

มาลองลงรายละเอียดแต่ละข้อกันเพื่อดูว่า ข้อไหนมีเหตุผลที่ฟังขึ้นในการ c-bet ด้วย bottom หรือ middle pair หรือไม่

1. เพื่อให้แฮนด์ที่แย่กว่า call มา (value)

มันค่อนข้างยากที่จะได้ value จากแฮนด์ที่แย่กว่า เมื่อเรา c-bet ด้วย middle หรือ bottom pair

แน่นอนว่า มันก็มีข้อยกเว้น เช่น ถ้าเราถือ A♠ T♠ บน flop K♠ T♦ 6♣ มันพอจะจินตนาการได้ง่ายว่า แฮนด์ที่แย่กว่าที่จะ call พอจะมีอะไรได้มาก เมื่อเรามี middle pair ที่มี top kicker  

แต่ middle และ bottom pair ส่วนใหญ่ จะเจอปัญหากับการเรียก value จากแฮนด์ที่แย่กว่า ลองคิดถึงแฮนด์อย่าง J♥ 9♥ บน flop K-J-3 หรือ 6♠ 5♠ บน flop J-7-5 ที่คงมีแฮนด์ที่แย่กว่าจำนวนน้อยมากๆที่จะ call ใน board เหล่านั้น และส่วนใหญ่ที่ call ก็มักจะเป็นพวก draw มากกว่า (ซึ่งจะมี equity ที่จะชนะเราจนถึง river อยู่มากพอสมควร)

ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วข้อนี้จึงมักจะไม่ใช่เหตุผลที่ดี ที่เราควร bet ด้วย middle หรือ bottom pair 

ไปดูข้อต่อไป!

2. เพื่อ deny equity (bluff / ปกป้อง equity)

การ deny equity คือเหตุผลสำคัญที่เราอยากจะ c-bet กับบาง middle หรือ bottom pair เมื่อเรา bet กับแฮนด์พวกนี้ และทำให้คู่แข่งยอม fold ได้ นั่นคือชัยชนะยิ่งใหญ่ของเรา เพราะเราทำให้โอกาสที่เขาจะ draw ติด ต้องหมดไป!

มันก็มีข้อยกเว้นเช่นเคย คือ ถ้าแฮนด์ของเราไม่ได้ประโยชน์จากการ deny equity เท่าไหร่ เราก็ควร check มากกว่า

ลองดูความแตกต่างระหว่าง middle pair ของแฮนด์ 2 แฮนด์นี้ :

  1. Q♠ J♣ บน flop K♠ Q♥ 4♣
  2. 9♣ 7♥ บน flop T♣ 7♦ 3♠

แฮนด์ไหนจะได้ประโยชน์จากการ deny equity มากกว่า?

..

..

..

คำตอบก็คือ 9♣ 7♥ เหตุผลก็เพราะ :

QJ ไม่อ่อนแอเท่า 97 QJ ยังคงเป็น second pair ตราบใดที่ A ไม่ตกที่ turn หรือ river ขณะที่ 97 จะมี overcard หลายใบที่อาจตกได้ที่เราต้องกังวลมากกว่า

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า เราต้อง bet กับ 97 ทุกครั้ง เพียงแค่มันเหมาะสมที่จะ bet มากกว่า QJ เท่านั้น

3. เพื่อเพิ่ม implied odds ให้แฮนด์ของเรา

นี่เป็นหลักการที่เอาไปใช้ยากนิดหนึ่ง แต่เราสามารถพัฒนา implied odds ของบางแฮนด์ได้โดยการเลือกที่จะ bet หรือ check

ถ้าคู่แข่งของเราน่าจะ fold แฮนด์ที่เราอยากจะเก็บไว้ใน pot มากกว่า ดังนั้นการ check จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า

ตัวอย่างเช่น สมมติเราถือ  T♠ 9♠ บน flop J♥ 9♦ 4♠ เมื่อเราติด 2 pair (ทำให้ board เป็น J♥ 9♦ 4♠ Tx) จะทำให้คู่แข่งมี draw ได้เยอะมาก (เช่น A8, K8, Q7) แต่อาจจะติด pair (เช่น AT, KT) ที่จะทำให้เรามี action ไม่ว่าจะ bluff หรือ call ได้ ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เราอาจจะไม่ต้อง bet แต่ check ให้เขาได้เห็น turn แบบฟรีๆก็ได้

ต่อจากนี้ เราจะไปศึกษากันที่หลักการพื้นฐาน โดยดูจากบางจุดที่สำคัญ โดยการใช้ PioSover

เราควร c-bet ด้วย middle และ bottom pair เมื่อไหร่

เมื่อเรามี range advantage ที่สูง เราสามารถ c-bet ได้ทั้ง range (หรือเกือบทั้งหมด) รวมถึง middle และ bottom pair ด้วย ซึ่งมักจะเกิดกับกรณี 3-bet pot มากกว่า แต่ก็เกิดกับ single raised pot ได้ด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น สมมติผู้เล่นจาก CO raise แล้วเรา 3bet จาก BTN แล้ว CO call และ flop ออกมาเป็น K♠ J♣ 3♠

นี่คือคำแนะนำในการเล่นที่ flop จาก PioSolver ของ BTN เมื่อ CO check มาก่อน :

KJ3 Solution

solver ชอบที่จะ c-bet เล็ก (33% ของ pot) กับทั้ง range บน board นี้ มันใช้กลยุทธ์นี้เพราะ range ของ BTN นั้น dominate CO มากๆ โดยมี equity 62% เทียบกับ range ของ CO (เพื่อการอ้างอิง เราตีว่า 55% จะเป็น range advantage พอประมาณ ดังนั้น 62% จึงถือเป็นความได้เปรียบมหาศาล)

สรุปความคิด

ตอนนี้เราน่าจะคุ้นเคยกับเหตุผลสำตคัญในการ c-bet ด้วย middle หรือ bottom pair แล้ว

สำหรับสถานการณ์ที่เราควร c-bet กับทั้ง range (หรือใกล้เคียง) 10 สถานการณ์ ลองอ่านได้จากบทความนี้ :

https://upswingpoker.com/when-to-c-bet-everything/

https://upswingpoker.com/when-to-cbet-middle-or-bottom-pair/