วิธี check-raise แบบโปรโป๊กเกอร์ระดับ high stake

ผู้เล่นที่ไม่เคย check-raise จะถูกเอาชนะได้อย่างง่ายดาย

ถ้าคุณไม่เคย check-raise ใส่ผม แปลว่าจะมีผลลัพธ์ที่เป็นไปได้แค่ 2 อย่าง เมื่อผม bet :

  1. คุณ fold และผมชนะ pot
  2. คุณ call และต้องเล่นตอน turn แบบ out of position

ทำให้มีโอกาสที่คุณต้อง fold equity ทิ้งไป หรือเปิดโอกาาสให้ผมได้ realize equity ของตัวเองได้บ่อยขึ้น ซึ่งไม่มีตัวเลือกไหนเลยจะดีสำหรับคุณ และจะยิ่งแย่ ถ้าผมรู้ว่า คุณจะไม่ check-raise แน่ ผมก็สามารถ exploit คุณได้ด้วยการเพิ่มความถี่ในการ bet กับ value และ bluff ให้บ่อยขึ้นมากๆ

ผู้เล่นที่สร้างกลยุทธ์การ check-raise สำหรับการเล่น posrflop มาได้เป็นอย่างดี จะเป็นผู้เล่นที่ยากจะเอาชนะ ถ้าผมคิดว่าคุณมีแนวโน้มที่จะ check-raise ได้อย่าง aggressive มากๆ ผมอาจจะต้องคิดทบทวนดูให้ดี ก่อนจะตัดสินใจ เปิดด้วยไพ่กลางๆใส่คุณที่ตำแหน่ง BB 

ในบทความนี้ ผมจะเน้นไปที่การ check-raise จาก BB เนื่องจากมันอาจจะเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดที่จะสามารถ check-raise ได้ 

หลักคิด 3 ประการที่คุณต้องรู้ก่อน check-raise

1. การพิจารณาเรื่อง range

สิ่งแรกที่ต้องคิด คือการประเมินว่า range ของผู้เล่นแต่ละคนจะเชื่อมโยงกับไพ่ที่ flop มากน้อยแค่ไหน หลีกเลี่ยงการ check-raise บน flop ที่เข้าทาง range ของคู่แข่ง แต่ให้เน้นโจมที board ที่เข้าทาง range ของเราแทน ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาดูว่า range ของ BB ที่ flat call การ open raise จาก UTG นั้น ต่างกันอย่างไร

UTG ในฐานะที่เป็น preflop aggressor นั้น จะมีกลุ่มของ strong hand ใน range มากกว่า BB มากๆ ทำให้ UTG มี range advantage เมื่อเข้าไปเล่นที่ flop ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม range ของ BB ที่ defend มา จะมีแฮนด์ที่ UTG แทบจะไม่มีทางเอามาเล่น เช่น แฮนด์อย่าง 97s หรือ 43s แฮนด์พวกนี้ใน range ของ BB จะทำให้มี range advantage ในบาง board texture แต่ใน board ส่วนใหญ่มักจะเข้าทาง preflop aggressor ที่ in position มากกว่า

นี่คือ flop ตัวอย่าง ที่ BB ไม่ควร check-raise เพราะมันเข้าทาง range ของ preflop aggressor ที่ in position มากกว่ามากๆ :

  • K♣ J♥ T♠
  • Q♥ J♦ T♠
  • A♥ A♠ K♥

ในทางตรงกันข้าม นี่คือตัวอย่าง flop ที่เปิดโอกาสให้เรา check-raise จาก BB ได้ :

  • 9♥ 7♠ 5♥
  • 6♠ 4♦ 3♥
  • T♦ 6♠ 4♥

2. ความถี่ และขนาดของการ c-bet

ความถี่และขนาดของการ c-bet ของคู่แข่ง จะส่งผลกระทบต่อ check-raise range ของเราอย่างมาก

ถ้าคู่แข่งของเรา c-bet ไม่บ่อย ให้ตอบโต้โดย check-raise ให้น้อยลง ถ้าคู่แข่งของเรา c-bet บ่อย หรือใช้ขนาดการ c-bet เล็ก ให้ check-raise ด้วย range ที่กว้างกว่าปกติ

ขนาดของ bet size เอง ก็สำคัญเช่นกัน ขนาดการ c-bet ที่เล็ก ก็มักจะแสดงถึง range ที่กว้าง และเป็น merged range ที่เปิดโอกาสให้ BB check-raise บ่อยขึ้นได้ ขณะที่ขนาดการ c-bet ที่ใหญ่ มักจะสอดคล้องกับ polarized range มากกว่า ซึ่งควรจะตอบโต้ด้วยการ call หรือการ fold ไม่ใช่การ raise

3. การสร้างกลยุทธ์ check-raising ให้บาลานซ์

เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่เราจะต้องมีกลยุทธ์การ check-raise ที่บาลานซ์เพียงพอ คือมีสัดส่วนระหว่าง value bet และ bluff ที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อไม่ให้ถูก exploit ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นในเกมที่แข็งขึ้น

ลองพิจารณาตัวอย่างที่สุดโต่งนี้ดู : ผู้เล่นที่ตำแหน่ง BB check-raise ด้วย value hand ที่ strong อย่างเดียวเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นคนนี้เปิดช่องให้ถูก exploit ได้ง่ายมากๆจากหลายๆทาง เช่น :

  • ผู้เล่นที่ in position player จะสามารถ hero fold ได้อย่างมั่นใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาโดน check-raise และจะเล่นกับเฉพาะกับแฮนด์ที่ strong มากๆเท่านั้น
  • เมื่อไหร่ก็ตามที่ BB check-call ผู้เล่นที่ in position player จะสามารถยิงต่อเนื่องที่ turn และ river ได้บ่อยขึ้นมากๆ

เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการถูก exploit แบบนี้ เราจึงต้องเน้นการบาลานซ์ check-raise range ของเราทั้ง value bet และ bluff ให้แข็งแกร่งพอ

ตัวอย่างการ check-raise – CO Open vs BB call

มาลองดูตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพของหลักการ เวลานำไปใช้จริงกัน :

Hero อยู่ BB ถือไพ่ :

Xx Xx

4 คนแรก CO raise 2.5bb 2 คนต่อมา folds Hero call

Flop (Pot: 5.5bb) T♦ 6♠ 4♥

Hero check CO bets 3.5bb Hero..?

วิเคราะห์ range ของผู้เล่นทั้งสองคน :

check raise poker strategy
open-raise range ของ CO จาก The Poker Lab

เพื่อให้เห็นภาพของแต่ละ range เทียบกันใน  board texture นี้ มาลองดูว่า open range ของ CO จะหน้าตาเป็นยังไง เมื่อเจอกับ calling range ของ BB ตามภาพ

check-raise poker strategy
BB defend range vs CO open จาก The Poker Lab

บน flop T♦–6♠-4♥ Hero ในตำแหน่ง BB จะมีแฮนด์ที่ strong มากๆ (2 pair+) ใน range มากกว่า open range ของ CO แม้คนที่ open raise จะมีโอกาสมี top set มากกว่า (เพราะ Hero ควรจะเลือก 3-bet TT ตอน preflop มากกว่า) แต่นั่นก็มีเพียงแค่ 3 คอมโบเท่านั้น ขณะที่ Hero จะมี 4 คอมโบของ 2 pair มากกว่า CO (64s และ T6s) ผลก็คือ Hero จะสามารถสร้าง check-raise range โดยไม่ถูก exploit ได้

จุดนี้ การบาลานซ์ด้วย bluff จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับ Hero จากการมี draw จำนวนมาก ที่ได้ประโยชน์จากการ check raise bluff (เช่น 57s, 87o, 97o)

วิธี check-raise เมื่อเจอกับ c-bet range ที่ polarized

ถ้า CO ใช้กลยุทธ์การ c-bet แบบ polarized (range ตามภาพ) โดยใช้ขนาดการ bet ใหญ่ Hero ควรจะตอบโต้โดย chec-raise range ที่ polarized ที่แคบลง เช่นเดียวกัน 

check raise bluff strategy
CO polarized c-bet range vs BB

เมื่อต้องเจอกับ  polarized c-bet range check-raise range ที่สมเหตุผลควรจะประกอบไปด้วยแฮนด์ที่ strong มากๆ ร่วมกับ bluff ที่มี draw เป็น nut แต่ไม่มี showdown value

check-raising
range ที่ BB ต้องเล่นต่อ (polarized check-raise) vs CO c-bet

เมื่อใช้วิธีการเล่นนี้สู้กับกลยุทธ์การ c-bet แบบ polarized เป้าหมายของเราก็คือการ all-in ภายใน river โดยการใช้ขนาดการ check-raise ใหญ่ แล้วต่อด้วยการใช้ bet size ที่ใหญ่ต่อ ที่ turn และ river 

วิธี check-raise เมื่อเจอกับ c-bet range 100%

ผู้เล่นที่ c-bet 100% อาจจะมีจำนวนน้อย แต่ส่วนใหญ่เราจะเจอกับคู่แข่งที่ c-bet ด้วย range ที่กว้าง โดยใช้ bet size ขนาดเล็ก (25%-33% ของ pot) การประเมินว่าเราควรจะใช้ range อะไรในการสู้กับผู้เล่นตามตัวอย่างก่อนหน้า จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์นี้มากขึ้น

เมื่อเจอกับ CO ที่ c-bet ทั้ง range Hero สามารถ check-raise ด้วย range ที่กว้าง ที่มีทั้ง value bet และ bluff ที่มากขึ้นได้ check-raise range ของที่ Hero ที่สมเหตุผลในการเจอกับผู้เล่นแบบนี้ อาจจะมีหน้าตาม ตามภาพ :

range ที่ BB ต้องเล่นต่อ (merged check-raise) vs CO ที่ c-bet 100%

Hero จะมีคอมโบที่เป็น value ใน range นี้ มากกว่า check-raise range เมื่อเจอกับ c-bet ที่ polarized เกือบ 3 เท่า โดยเราจะเพิ่มคอมโบที่เป็น  Tx ที่ strong เข้าไป เช่นเดียวกับคอมโบที่เป็น top pair กลางๆ (เช่น T7o) ซึ่งการ check-raise ด้วย top pair กลางๆนี้ จะช่วยบาลานซ์ range ของเราตลอด street การเล่นได้ดี ที่เราเลือกเป็น T7o ก็เพราะมันเป็นคอมโบของ top pair ที่ทำให้เรามี backdoor straight ด้วย 

raise ด้วย T7o อาจจะดูค่อนข้าง loose แต่มันค่อนข้างมีประโยชน์ในการ check-raise สู้กับคนที่ c-bet บ่อยมากๆ ลองดู equity ของ T7o สู้กับ betting range ของคู่แข่ง ที่กว้างมากๆ ตามภาพข้างล่าง :

T7o มีโอกาสชนะเกือบ 2-ต่อ-1 เท่า เมื่อสู้กับ c-bet range ของ CO การ check raise ของ Hero ไม่เพียงแต่จะเรียก value เพิ่มได้ เมื่อ CO call กับแฮนด์ที่แย่กว่า แต่มันยังช่วย deny equity ของ CO เมื่อเขาตัดสินใจ fold ได้อีกด้วย

ถ้าเราปล่อยให้คู่แข่งได้ bet เล็ก โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดน raise เขาก็จะมีโอกาสได้ realize equity ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องถูกลงโทษเลย

เมื่อต้องเลือก bluff มาใช้ การใช้แฮนด์ที่แทบไม่มี showdown value แต่มี draw ที่เป็น nut ได้ คือจุดเริ่มต้นที่ดี CO จะเริ่มมีปัญหาในการ defend ให้บ่อยพอ เมื่อเล่นกับ range ที่กว้างขนาดนั้น ที่เปิดโอกาสให้เรา bluff ได้บ่อยกว่าปกติได้ ส่งผลให้เรามีจำนวน bluff สูงขึ้นในสปอตแบบนี้ (bluff 48 คอมโบ ต่อ value 37 คอมโบ)

ถ้าเราโดน call เราอาจจะต้องใช้ mixed strategy ขึ้นอยู่กับว่าไพ่ที่ตกตอน turn คืออะไร top pair กลางๆที่ weak (เช่น T7o) ควรจะต้อง check ที่ turn โดยผสมแฮนด์ที่เป็น nut เข้าไปด้วย (เช่น 66) เพื่อช่วยปกป้อง check range ของเรา และยอมแพ้กับบางแฮนด์ที่เป็น draw ที่ weak และพวก pure bluff ด้วยเช่นกัน

เราสามารถ bet ต่อที่ turn เพื่อเรียก value ได้ จากคอมโบ Tx ที่ strong, 2 pair และ set เราสามารถบาลานซ์ range นี้ได้ด้วย bluff ที่ flop มี equity พอสมควร หรือมี equity เพิ่มขึ้นจาก draw ที่ turn

mixed strategy ที่ผ่านการคิดมาอย่างรอบคอบแล้ว จะถูก exploit ได้ยาก 

การ check ด้วยแฮนด์ที่เป็น nut บ้าง จะช่วยปกป้อง check range ทั้งหมดของเรา และการ bet ด้วยการผสมแฮนด์ที่เป็น value และ bluff ที่ turn จะช่วยสร้าง betting range ที่บาลานซ์ได้

สรุปเนื้อหาการ check-raise

ครั้งหน้าที่เราคิดจะสร้าง check-raise range ที่ flop ลองใช้เช็คลิสต์เหล่านี้และปรับ range ของเราให้สอดคล้องกับมันดู :

  • วิเคราะห์ board texture เพื่อตัดสินว่า range ของใครจะได้เปรียบมากกว่ากัน
  • ประเมิน bet size ของคู่แข่ง และความถี่ในการ c-bet (ถ้าเป็นไปได้)
  • บาลานซ์ check-raise range ด้วยการมีจำนวน value bet และ bluff ที่เหมาะสม จากขนาดของการ raise ของเรา

หลักการเหล่านี้จะช่วยให้เราไม่มีปัญหากับการออกแบบ check-raise range ในสปอตที่เหมาะสมได้

https://upswingpoker.com/check-raise-poker-strategy-flop-c-bet/