เราควร semi-bluff กับ draw แบบไหน?

การ bluff เป็นส่วนหนึ่งของเกมที่ขาดไปไม่ได้ อย่างที่ Doug ชอบพูดว่า “การ bluff คือชีวิตในเกมโป๊กเกอร์”

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีการเลือกแฮนด์มา semi-bluff และตีแผ่ทุกกระบวนการที่ผู้เล่นระดับสูงใช้ในการปรับแต่งมุมมองการเล่นนี้ กับเกมของพวกเขากัน

Semi-Bluff คืออะไร?

Semi-bluffing คือการ bet หรือ raise ด้วย draw ที่อาจจะมี equity น้อยกว่าคู่แข่ง แต่มีโอกาสพัฒนากลับมาชนะใน street หลังๆได้ ตัวอย่างเช่น บน flop A♠ 9♥ 8♥ แฮนด์อย่าง Q♠ J♠, J♥ T♣ และ 5♥ 4♥ อาจจะเหมาะกับการเป็ฯ semi-bluff เพราะมันสามารถพัฒนาเป็น straight และ/หรือ flush ใน street หลังๆได้

แฮนด์ที่จะเป็น semi-bluffing ที่ดี ต้องเป็นอย่างไร?

แฮนด์ที่จะเป็นตัวอย่างของ semi-bluff ที่ดี ที่ flop ต้องผ่านเกณฑ์ 2 ข้อ ต่อไปนี้ :

  • ไม่มี showdown value เราควรเลือกที่จะ check กับแฮนด์ที่มีโอกาสจะมี showdown value (เช่น คู่เล็กๆหรือ A-high)
  • มีโอกาสจะพัฒนาเป็น strong hand ได้ ซึ่งนับรวมตั้งแต่ top pair ไปจนถึง royal flush ขึ้นอยู่กับ board texture

เราจะใช้เครื่องมือดังต่อไปนี้ในการหาว่า draw แบบไหนที่เราควรจะใช้เป็น semi-bluff :

  • preflop range จาก Upswing Lab
  • solver ที่น่าเชื่อถือ
  • พลังสมอง ที่จะเอาทุกอย่างมาวิเคราะห์เอง

เราจะเริ่มจากการวิเคราะห์แฮนด์ ทั้ง in position และ out of position เพื่อเรียนรู้จากผลการคำนวณของ solver (ถ้าคุณไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้ solver คุณสามารถข้ามไปอ่านส่วนสรุปที่ได้จากผลลัพธ์ของการรัน sim แต่ละ spot เลย)

Semi-bluff เมื่อ out of position

การเล่น out of position (OOP) ด้วย range ที่แคบ เจอกับ คนที่ cold call มา ที่มี range แคบเช่นกัน คือหนึ่งในสปอตที่ยากที่สุดในเกม No Limit Hold’em ทำให้มีการถกเถียงกันอย่างมากว่าควรมีวิธีเล่นที่ถูกต้องอย่างไรดี

มีการพูดกันวา่ เราสามารถเรียนรู้จาก solver ได้ โดยการพยายามทำความเข้าใจถึงวิธีที่ solver คิดคำนวณผลลัพธ์ออกมา

มาเริ่มกันที่ wet board และ dry board จากนั้นค่อยมาสรุปผลของแต่ละ board กัน

wet board

ลองดูจากแฮนด์ต่อไปนี้ :

ออนไลน์ $0.25/$0.50 ผู้เล่น 6 คน Effective Stacks $50.00

Hero ถือไพ่สองใบ อยู่ตำแหน่ง middle position (MP)

UTG fold Hero raise ไป $1.10 CO fold BTN call อีก 2 คน fold

Flop ($2.95) : Q♥ 9♠ 6♠

Hero…?

มาเริ่มกันที่ preflop range ของผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง และนี่คือ range ของ Hero ในการ raise preflop จาก MP

สีเหลือง = Raise จาก MP, สีเทา = Fold

และนี่คือ calling range ของ BTN :

สีเหลือง = Call vs MP, สีเทา = ไม่ call

จากนี้เราจะมีวิเคราะห์ solver เพื่อศึกษาการเล่นในสปอตนี้กัน

solver ถูกเซตมาให้คำนวณหาวิธีการเล่นแบบ game theory optimal (GTO) สำหรับการ bet ขนาด ⅔ pot มาลองดูว่า solver แนะนำมายังไง :

จะเห็นได้ว่า solver แนะนำให้ c-bet น้อยมากๆ (19.51%) ในสปอตนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เมื่อมองว่าเรา OOP และยังมี range ที่ weak กว่า (เรามี equity ประมาณ 47% เมื่อเจอกับ range ของ BTN ใน board นี้)

และนี่คือสิ่งที่ solver แนะนำสำหรับความถี่ในการ bluff :

  • Combo draw : ~40% 
  • Flush draw : ~40% 
  • Open-ended straight draw : 40–50% 
  • Gutshot : 30–50% 

จะเห็นได้ว่า ความถี่ในการเล่นเป็นแบบผสม และ expected value (EV) ระหว่างการ c-bet และการ check ในสปอตนี้เกือบจะเท่ากัน เมื่อใช้ bet size นี้

การใช้ความถี่ในการเล่นแบบผสมที่ซับซ้อนแบบนี้ ใช้ได้ยากในการเล่นจริง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้คำแนะนำของ solver มัน ใช้กับมนุษย์ได้ ด้วยการลดความซํบซ้อนลง ตามแนวทางดังต่อไปนี้ :

  • C-bet ด้วย nut flush draw เล็ก (As2s)
  • Check-call ด้วย nut flush draw ใหญ่ (AsKs)
  • C-bet ด้วย open-ended straight draw และ gutshot ที่ไม่มี backdoor flush draw
  • Check-call ด้วย open-ended straight draw และ gutshot ที่มี backdoor flush draw
  • Check-raise ด้วย combo draw (straight + flush draw)

วิธีนี้จะทำให้เรามี range ที่บาลานซ์ได้ดี และถูก exploit ได้ยาก

คำแนะนำจากโปร : การ check ทั้ง range ของเราเมื่อ OOP ในสปอตแบบนี้ เป็นกลยุทธ์แบบง่ายๆที่สามารถนำไปใช้ได้สะดวกกว่า

dry board

มาลองดูอีกแฮนด์ :

ออนไลน์ $0.25/$0.50 ผู้เล่น 6 คน Effective Stack $50.00

Hero ถือไพ่สองใบ อยู่ตำแหน่ง middle position (MP)

UTG fold Hero raise ไป $1.10 CO fold BTN call อีก 2 คน fold

Flop ($2.95) : A♣ 9♦ 3♠

Hero…?

เราไม่มี draw มา bluff มากนักใน board ที่ไม่เรียงกันแบบนี้ ดังนั้น เราต้องใช้ไอเดียในการบาลานซ์ value betting range ของเราบ้าง จำหลักการนี้ไว้ แล้วลองมาดูที่ solver กัน :

เช่นเคย มีการใช้ความถี่แบบผสม กับ non-made hand (แฮนด์ที่ไม่ติดอะไร) เกือบทั้งหมด ที่จะ c-bet บางครั้ง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า solver ไม่ค่อยชอบ c-bet กับ off-suit broadway, KQs, และ KTs เท่าไหร่

เพื่อปรับวิธีใช้ผลลัพธ์ให้มนุษย์ใช้ได้ง่ายขึ้น เราอาจจะ semi-bluff พวก suited non-made hand ทั้งหมด ยกเว้น KQs และ AQs ที่มี backdoor flush draw ที่จะอยู่ในส่วนล่างสุดของ value betting range เท่านั้น

กลยุทธ์นี้ค่อนข้างสมดุล และช่วยให้เรามีสัดส่วน bluff-to-value ratio ที่ดี ที่ flop

Semi-bluffing เมื่อ in position

เราสามารถ bet ได้บ่อยขึ้น เมื่อเรา in position (IP) ดังนั้น หากเราเล่นในสปอตแบบนี้ได้ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้เราอย่างมาก เพราะเรามักจะมี range advantage ที่จะทำงานร่วมกับ positional advantage (ความได้เปรียบจากตำแหน่ง) ในการเพิ่ม EV ของเราให้สูงขึ้นได้

เรามาศึกษากันบน wet board และ dry board อีกครั้ง

wet board

ออนไลน์ $0.50/$1 ผู้เล่น 6 คน Effective Stack $100.00

Hero ถือไพ่สองใบ อยู่ตำแหน่ง BTN

3 คนแรก fold Hero raise ไป $2.2 SB fold BB call

Flop ($4.70): Q♥ 9♠ 6♠

Hero…?

ลองดูว่า solver แนะนำอย่างไรในสปอตนี้ :

และนี่คือความถี่ที่ solver แนะนำในการ c-bet ใน draw แต่ละประเภท

  • Combo draw : 85%
  • Flush draw : K-high และ Ace-high 70–80%; Q-high และต่ำกว่านั้น 22%
  • Open-ended straight draw : 70%
  • Gutshot : ใหญ่ (KJ, KT) 70%, เล็ก 40–50%
  • A-high ที่มี 1 โพดำ : 50–90% (ยิ่งแฮนด์ใหญ่เท่าไหร่ ความถี่ยิ่งน้อยลง)
  • A-high ที่มี 2 โพแดง : 20–50%
  • K-high ที่ backdoor straight หรือ flush draw : 60–80%
  • backdoor flush draw ต่ำ ที่มี backdoor straight draw (เช่น J7hh หรือ 54hh) : 50–70%

เช่นเคย เนื่องจากมนุษย์อย่างเราไม่สามารถใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนแบบนั้นได้ เราจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจของเรา และนี่คือคำแนะนำของผมในการ semi-bluff ด้วยแฮนด์แต่ละประเภทในสปอตนี้ :

  • Combo draw : C-bet
  • Nut flush draw : Check back
  • Non-nut flush draw : C-bet
  • Open-ended straight draw : C-bet
  • gutshot ใหญ่ : C-bet
  • gutshot เล็ก : Check back 
  • A-high ที่มี backdoor flush draw : Check back
  • K-high ที่มี backdoor straight หรือ flush draw : C-bet
  • backdoor flush draw เล็ก ที่มี backdoor straight draw : C-bet

dry board

ออนไลน์ $0.50/$1 ผู้เล่น 6 คน Effective Stack $100.00

Hero ถือไพ่สองใบ อยู่ตำแหน่ง BTN

3 คนแรก fold Hero raise ไป $2.2 SB fold BB call

Flop ($4.7): J♠ 6♣ 2♦

Hero…?

เช่นเคย เราเจอกับ board ที่แทบจะไม่มีอะไรที่เชื่อมกันได้ และมี draw เพียงแค่ 54s, 53s และ 43s ซึ่งถือว่าน้อยเกินไปที่จะเอามา semi-bluff ให้เพียงพอ เราจึงต้องใช้แฮนด์อื่นๆ มาดูว่า solver แนะนำว่าอย่างไร :

จะเห็นได้ว่า solver แนะนำให้ bluff ค่อนข้างบ่อยกับแทบจะทุก non-made hand จนดูเหมือนกับ equity ของแต่ละแฮนด์แทบไม่สำคัญอะไรเลย เพราะทุก non-made hand แทบจะเล่นเหมือนกันหมด

เราจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาใช้ง่ายขึ้น  นี่คือวิธีหนึ่งที่จะจัดระเบียบวิธีเล่น range ของเราในสปอตนี้

สีแดง = Bet, สีเขียว = Check, สีเทา = ไม่อยู่ใน Range

ดังนั้น semi-bluff ของเราบน board นี้ จะประกอบไปด้วย :

  • Gutshot (เช่น 54s)
  • Backdoor straight draw + backdoor flush draw (เช่น K9ss)
  • Backdoor straight-draw ที่สามารถพัฒนาได้บนไพ่มากกว่า 3 ใบ (เช่น T9,98,87s,75s)

จำไว้ว่า นี่เป็นแค่วิธีหนึ่งในการสร้าง range ที่บาลานซ์ ซึ่งเป็นจุดที่ความสามารถเฉพาะตัว และสไตล์ของผู้เล่น จะมีบทบาทในการปรับการเล่นของตัวเองได้

สรุปเรื่องการ Semi-Bluff IP vs OOP 

ตัวอย่างข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า การเล่นกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งของ IP นั้นแตกต่างอย่างมาก จากเวลาที่ต้องเล่นเป็น OOP

เหตุผลของเรื่องนี้ก็มาจากหลักการพื้นฐานของโป๊กเกอร์ที่ว่า : เมื่อเราเป็น OOP เราจะเสียเปรียบด้านข้อมูลข่าวสาร เราจึงต้องเล่นแบบระมัดระวังและพยายามปกป้อง range ของเรา การ c-bet ตอน OOP ด้วยแทบจะทุก draw ทำให้เราต้องยอมสละ EV ลงบ้าง แต่เมื่อเราเป็น IP เราจะสามารถ c-bet กับทุก draw ได้ โดยแทบไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลงโทษเลย

https://upswingpoker.com/semi-bluff-poker-strateg