ทำยังไงไม่ให้ดูเป็นมือสมัครเล่นบนโต็ะ

ถ้าไม่อยากดูเป็นมือใหม่ของโต๊ะ เรามี 6 วิธีการมาฝากกัน

6 วิธีตีเนียนจากการเป็นโป๊กเกอร์มือใหม่

                ในปี 2002 Chris Moneymaker ถือว่าเป็นผู้เล่นโป๊กเกอร์มือสมัครเล่นคนหนึ่ง ผลการเล่นออกมาเหมือนๆกันทุกครั้งคือเขาเป็นหนี้ แต่ช่วงปลายเดือนพ.ค. 2003 เขากลับเป็นผู้ชนะ World Series of Poker และได้รางวัลมูลค่า 2.5 ล้านเหรียญกลับบ้านไป แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ นี้เป็นการลงแข่งขันครั้งแรกของเขา และเขายังสามารถเอาชนะผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกในการแข่งขันครั้งนี้ไปอีกด้วย หลังจากวันนั้น Texas Hold’Em ก็เป็นที่จับตามองสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลกไปโดยปริยาย ทุกคนพยายามศึกษาวิธีการเล่นและการแข่งขัน เพราะหวังว่าซักวันนึงจะมีโอกาสแบบนั้นบ้าง

                หากนี้เป็นครั้งแรกที่คุณจะเล่น Texas Hold’Em แล้วละก็ คุณไม่ต้องคาดหวังว่าจะชนะรางวัลหรือได้เข้าไปเล่น World Series of Poker เลย เพียงแค่สามารถทำให้ตัวเองไม่ดูเป็นมือใหม่ในโต๊ะก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เนื้อหาด้านล่างนี้จะช่วยทำให้คุณเข้าใจอะไรมากขึ้น เผลอๆอาจจะชนะบ้างในบางเกมก็เป็นไปได้ เรามาเริ่มกันเลย

  • รู้กฎกติกาเกม

                จริงๆแล้วกฎของการเล่นเกมนั่นไม่ได้ยุ่งยากเหมือนพวกกลยุทธ์ ตำแหน่งที่นั่งในโต๊ะ หรือเทคนิคอื่นๆ แต่คุณควรจะรู้ก่อนว่าตัวเกมดำเนินไปยังไง เริ่มยังไงหรือขั้นตอนการเล่นเป็นยังไง เพื่อที่จะได้เข้าใจตัวเกมในส่วนเบื้องต้น

                เริ่มต้นเล่น Texas Hold’Em จะเริ่มจากผู้เล่นทางด้านซ้ายมือของคนแจกไพ่ (dealer) จะถูกกำหนดให้เป็น small blind โดยต้องวางเดิมพันครึ่งหนึ่ง และผู้เล่นที่นั่งด้านซ้ายมือของ small blind จะถูกเรียกว่า big blind ซึ่งต้องวางเดิมพันเต็มจำนวนก่อนแจกไพ่ โดยที่ตำแหน่งดังกล่าวจะค่อยๆหมุนวนเปลี่ยนไปทางด้านซ้ายมือทุกครั้ง หลังจากนั้นผู้เล่นทุกคนจะได้รับไพ่คนละ 2 ใบ  ในรอบ Pre-flop ผู้เล่นที่อยู่ถัดจาก big blind จะเป็นคนเริ่มตัดสินใจคนแรกว่าจะเล่น (call) เดิมพันเพิ่ม (raise) หรือจะว่าหมอบ (fold) เมื่อผู้เล่นทุกคนได้ตัดสินใจกันแล้ว จะเข้าสู่รอบ flop โดยรอบนี้คนแจกไพ่จะเปิดไพ่กองกลางก่อน 3 ใบ และผู้เล่นที่จะต้องตัดสินใจคนแรกในรอบนี้คือผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง small blind ว่าจะตามไปดู (check/call) เดิมพันเพิ่ม (raise) หรือจะว่าหมอบ (fold) ก็ได้ เมื่อผู้เล่นทุกคนตัดสินใจเสร็จ ไพ่กองกลางใบที่ 4จะถูกเปิดออก (turn) ขั้นตอนจะดำเนินเหมือนรอบก่อน เมื่อผู้เล่นทุกคนตัดสินใจเสร็จแล้ว ไพ่กองกลางใบที่ 5 จะถูกเปิดออก (River) และผู้เล่นจะได้ตัดสินใจวางเดิมพันกันครั้งสุดท้าย ก่อนที่โชว์ไพ่ที่มีอยู่ (showdown) และดูว่าไพ่ของผู้เล่นคนใดรวมกับไพ่กองกลางแล้วดีที่สุดหรือใหญ่ที่สุดก็จะได้เงินที่อยู่ตรงกลาง (pot) ไป

  • ศึกษา Hand ranking

                สิ่งหนึ่งที่เราควรจะจำได้นั่นก็คือ Hand ranking เพราะจะทำให้เรารู้ว่าไพ่แบบไหนใหญ่กว่าไพ่แบบไหน ระหว่าง straights และ flushes อันไหนดีกว่ากัน

                Hand ranking (เรียงจากเล็กสุดไปหาใหญ่สุด)

– ไพ่สูง (High card) ไพ่ที่ไม่มีคู่ใดๆเลย อาจจะมีไพ่สูงอยู่ในมือ

– 1 คู่ (One pair) ไพ่ที่เหมือนกัน 1 คู่

– 2 คู่ (Two pair) ไพ่ที่เหมือนกัน 2 คู่

– ตอง (Three of a kind) ไพ่ที่เหมือนกัน 3 ใบ

– สเตรท (Straight) ไพ่ที่เรียงติดกัน 5 ใบ

– ฟลัช  (Flush) ไพ่ที่มีหน้าไพ่เหมือนกันทั้ง 5 ใบ

– ฟลูเฮาส์ (Full House) ไพที่เหมือนกัน 3 ใบ รวมกับ ไพ่ที่เหมือนกันอีก 1 คู่

– โฟร์การ์ด (Four of a kind) ไพ่ที่เหมือนกัน 4 ใบ

– สเตรทฟลัช (Straight Flush) ไพ่ที่เรียงกัน 5 ใบ และยังมีหน้าไพ่เหมือนกันทั้ง 5 ใบ

– รอยัลฟลัช (Royal Flush) ไพ่สูงที่เรียงกัน 5 ใบ และยังมีหน้าไพ่ที่เหมือนกันทั้ง 5 ใบ

  • รู้คำศัพท์ต่างๆ

                คำศัพท์ด้านล่างนี้ เป็นคำศัพท์ที่เราน่าจะะพบเจอบ่อยๆในการเล่นโป๊กเกอร์

– Blinds :: ผู้เล่นที่ถูกกำหนดให้วางเดิมพันก่อนเริ่มต้นเกม โดยแบ่งเป็น small blind ผู้เล่นที่นั่งด้านซ้ายมือของคนแจกไพ่ (dealer) ซึ่งต้องวางเงินเดิมพันครึ่งนึง และ big blind ผู้เล่นที่นั่งติดกับตำแหน่ง small blind ซึ่งต้องวางเงินเดิมพันเต็มจำนวนก่อนการแจกไพ่จะเริ่มขึ้น

– Button :: บางครั้งอาจจะถูกเรียกว่า “ปุ่ม” เป็นสิ่งที่บ่งบอกตำแหน่งการเล่นก่อน-หลังภายในโต๊ะ ผู้เล่นที่มีปุ่มอยู่ด้านหน้าจะเป็นผู้เล่นคนที่ได้รับการตัดสินใจเป็นคนสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ได้เปรียบมากๆ

– Call :: เป็นการวางเงินเดิมพันให้เท่ากับมูลค่าในขณะนั้นเพื่อเล่นต่อ เช่น ในรอบ pre-flop มีผู้เล่นคนนึงเพิ่มเงินเดิมพัน (raise) มูลค่า 100 บาท การที่เรา call ไปนั้นจึงหมายถึง เราจะวางเงินเดิมพัน 100 บาทเพื่อเล่นในตานั้นด้วย

– Check :: เป็นการไม่ลงเดิมพันเพิ่ม(raise) โดยเช็คผู้เล่นคนอื่นๆเฉยๆ แต่ในกรณีที่รอบนั้นมีคนวางเดิมพันเพิ่มขึ้นแล้ว(raise)  เราจะไม่สามารถ check ได้ แต่จะต้องเลือกระหว่างเดิมพันตาม(call) เพิ่มการเดิมพัน (re-raise)หรือว่าหมอบ(fold)

– Raise :: การวางเงินเดิมพันที่สูงขึ้น

– Fold :: การหมอบไพ่ทิ้ง เพราะตัดสินใจว่าจะไม่เล่นหรือไพ่อาจจะดีไม่พอกับมูลค่าการเดิมพัน

– Pot :: เงินเดิมพันทั้งหมดที่รวมอยู่ตรงกลางในการเล่นตานั้นๆ

– Flop :: การเดิมพันรอบที่ 2 ซึ่งในรอบนี้คนแจกไพ่ (dealer) จะเปิดไพ่ 3 ใบลงบนโต๊ะ

– Turn :: การเดิมพันรอบที่ 3 ซึ่งในรอบนี้คนแจกไพ่ (dealer) จะเปิดไพ่ใบที่ 4 ลงบนโต๊ะ

– River :: การเดิมพันรอบสุดท้าย ซึ่งในรอบนี้คนแจกไพ่ (dealer) จะเปิดไพ่ใบที่ 5 ลงบนโต๊ะ

– Hand :: ไพ่ 2 ใบที่อยู่บนมือ

– Suited :: ใช้เรียกไพ่ในมือที่มีหน้าไพ่เหมือนกัน เช่น 7♣ 9♣ หรือ 7♠ 9♠ สามารถเรียกแทนว่า 79suited (79s)

– Offsuit :: ใช้เรียกไพ่ในมือที่มีหน้าไพ่ไม่เหมือนกัน เช่น 7♠ 9♣ สามารถเรียกแทนว่า 79offsuit (79o)

  • มารยาทบนโต๊ะ

                เมื่อเรารู้กฎ กติกาการเล่นและคำศัพท์โดยพื้นฐานแล้ว มารยาทบนโต๊ะก็เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเช่นกัน

                – ตั้งใจเล่น ดูตำแหน่งการเล่นว่าในรอบ flop หรือ pre-flop ผู้เล่นคนใดจะต้องเริ่มเล่นก่อน คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่นักถ้าเราข้ามคิวผู้เล่นอื่น และเพิ่มเดิมพันก่อนที่จะถึงตาเราจริงๆ ให้คอยสังเกตุด้วยว่าผู้เล่นคนใดเป็นคนเพิ่มเดิมพัน(raise) เป็นคนแรก เพราะข้อมูลดังกล่าวสามารถช่วยเราในการตัดสินใจได้

                – วางไพ่บนโต๊ะ สาเหตุสำคัญที่เราไม่ควรหยิบไพ่ออกจากโต๊ะ นั้นก็เพราะไพ่เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คนแจกไพ่ (dealer) ทราบว่าผู้เล่นคนใดยังอยู่ในเกมนั้นๆบ้าง ถ้าหากเราหยิบไพ่เอามาไว้กับตัว เราอาจจะถูกตัดออกจากเกมนั้นไปได้ และอีกสาเหตุคือทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆมั่นใจว่าเราจะไม่โกงหรือพยายามทุจริตในการเล่นนั้นเอง

                – ลุกได้นะ ถ้าอยากจะเข้าห้องน้ำหรือหาเครื่องดื่มเล็กๆน้อยให้กับตัวเอง เป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้แต่เราไม่ควรจะลุกออกไปในขณะที่เรากำลังเล่นเกมๆนั้นอยู่ และไม่ควรจะลุกออกไปนานเกินไป ระยะเวลาเกมสองเกมถือว่าโอเค

  • รู้กลยุทธ์บ้าง

                – ไพ่ที่จะเล่น ถ้าเราได้อ่านหนังสือหรือศึกษาวิธีการเล่นมาบ้าง เราจะพบว่าผู้เล่นมืออาชีพส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้เราเลือกเล่นแต่ไพ่ดีๆก่อนเสมอ ยกตัวอย่างเช่น AA KK QQ JJ 1010 AKs QJs เป็นต้น เพราะไพ่เหล่านี้เพิ่มแต้มต่อให้กับเรานั่นเอง แต่ในทางกลับกันมีผู้เล่นจำนวนมากที่เล่นเกือบจะทุกhand เพราะพวกเขารู้สึกว่ามันมีโอกาสที่จะชนะได้เช่นกันเพราะไม่รู้ว่า flop จะเปิดมาเป็นยังไง และถึงแม้จะเปิด flop มาไม่ดีจริงๆ เราก็ค่อยหมอบ(fold)ก็ได้

                ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีทฤษฎีไหนถูกหรือผิด ขึ้นอยู่ที่เราว่าจุดมุ่งหมายของเราคืออะไร เราเล่นไปเพื่ออะไรและเราอยากจะเล่นไพ่handนั้นหรือไม่ บางคนอาจจะเล่น A9s แต่บางคนอาจจะไม่เล่น ให้ลองถามตัวเองดูว่าเราอยากเล่นเพื่อความสนุกสนานหรือเราคาดหวังอะไรจากการเล่นโป๊กเกอร์กันแน่

                – ทริคในการเดิมพัน เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมาอีกสักหน่อย เพราะเราจะต้องตอบคำถามที่ว่า เราควรจะเดิมพันเท่าไหร่ดี ? จังหวะไหนเราควร call หรือ raise ? เป็นเรื่องยากที่จะสรุปเทคนิคในการเดิมพันว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด แต่เราพอจะมีคำแนะนำเล็กๆน้อยๆที่จะสามารถนำเอาไปใช้ได้

ประการแรก คือ การบลัฟฟ์ไม่ได้ส่งผลดีในแบบที่เราคิด ผู้เล่นที่มีไพ่ที่ดีที่สุดต่างหากที่มักจะเป็นผู้ชนะ เพราะฉะนั้นอย่าบลัฟฟ์บ่อย เพราะผู้เล่นที่มีไพ่ดี เขามักจะ call ตามมาไม่ว่าเราจะลงเดิมพันไปมากแค่ไหนก็ตาม

ประการที่สอง คือ ประเมินจากเงินตรงกลาง(pot) เพื่อหาจำนวนเงินที่ควรจะเดิมพัน ตามปกติแล้วเราควรจะเพิ่มเงินเดิมพัน (raise) เป็นจำนวน ¾ ของเงินกองกลาง หรือ เท่ากับเงินตรงกลาง(pot)นั้นเอง

ประการสุดท้าย คือ ตำแหน่งการนั่งบนโต๊ะ เป็นสิ่งที่ช่วยเราในการกำหนดกลยุทธ์ที่จะใช้ได้เป็นอย่างมาก เช่น ถ้าเราเป็นผู้เล่นคนสุดท้าย เราจะเห็นการตัดสินใจของผู้เล่นทุกคนก่อนซึ่งถือว่าได้เปรียบมากๆ

                หาจุดที่สมดุลคือปัจจัยสำคัญของการเดิมพัน ถ้าเรารู้ว่าhandที่เรามีอยู่นั้น เป็นhandที่ดีที่สุดแล้ว ให้เราเริ่มคิดจาก ถ้าเราวางเดิมพัน(raise)สูงมากๆ ผู้เล่นคนอื่นก็อาจจะหมอบ(fold)กันหมด เงินตรงกลาง(pot)ก็ไม่เพิ่ม หรือ วางเดิมพัน(raise)น้อยเกินไป เงินตรงกลาง(pot)ก็เพิ่มไม่เยอะเช่นกัน ขึ้นอยู่กับเรามองมูลค่าhandในมือไว้เท่าไหร่ และเราพอใจกับเงินตรงกลาง(pot) ที่เราจะได้รับแล้วหรือยัง

                – ตำแหน่งบนโต๊ะ อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าตำแหน่งบนโต๊ะนั่นมีความสำคัญมาก ถ้าหากว่าเราเป็นผู้เล่นคนแรกๆ เราจะไม่มีโอกาสเห็นการตัดสินใจของผู้เล่นคนอื่นๆเลย แต่ถ้าเราเป็นผู้เล่นคนท้ายๆ เราจะสามารถเห็นการตัดสินใจของผู้เล่นคนอื่นๆ อย่างเช่น ถ้าผู้เล่นทุกคนในวง check กันหมด อาจจะแสดงว่าไม่มีใครมีไพ่ที่ดีเลย หรือ เมื่อมีคนเพิ่มเงินเดิมพัน (raise)มา แสดงว่าเขาอาจจะมีไพ่ที่ดีก็ได้

                – เขามีอะไรนะ ? อาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยาก ที่เราจะเดาไพ่ในมือของคนอื่นได้ แต่เมื่อเราเล่นไปสักพัก เราอาจจะเริ่มพอเดาได้ เช่น flop ออก A 2 6 รอบนั้นทุกคน checkผ่านกันหมด แต่ในรอบ turn เปิดออกมาเป็น 2 และมีผู้เล่นคนนึงเพิ่มเงินเดิมพันเข้ามา เราคงจะพอเดาได้ว่าเขามี 2 อยู่ในมือ

                – อย่ากลัวที่จะหมอบ ความผิดพลาดที่ผู้เล่นมือใหม่มักจะเจอคือ ไม่กล้าหมอบ(fold) เวลาที่เราเริ่มลงเงินเดิมพันลงไปบ้างแล้ว เพราะพวกเขามักจะรู้สึกว่าการหมอบ(fold)คือการสูญเสีย แต่ในความเป็นจริงนั้นการที่เราไม่หมอบ(fold)แล้วเล่นต่อไปต่างหากคือความสูญเสีย

  • ฝึกผ่านโป๊กเกอร์ออนไลน์

                การเล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์เป็นการสะสมประสบการณ์อย่างนึง เราสามารถเลือกความเล็ก-ใหญ่ของเกมที่เราจะเล่นได้ ซึ่งการที่เราได้ลองเล่นบ่อยๆ จะทำให้เรารู้แนวทางการเล่นมากยิ่งขึ้น รู้ว่าhandแบบไหนดี-ไม่ดี เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้เราควรจะเล่นยังไงหรือแก้ไขสถานการณ์ยังไง

Source: https://www.artofmanliness.com/articles/6-ways-to-avoid-looking-like-a-newb-when-playing-poker/