กลยุทธ์ในการเล่นตำแหน่ง Small Blind

บางคนบอกว่าตำแหน่งนี้เล่นยากที่สุด และต้องเล่นแบบไหนถึงจะดี ?

ในการเล่นตำแหน่งนี้ค่อนข้างยากกว่าตำแหน่งอื่นๆอยู่เล็กน้อยถ้าให้เปรียบเทียบ เพราะฉะนั้นเราจะมาลดการสูญเสียจากการรู้ว่าต้องเล่นยังไงในตำแหน่งนี้ถึงจะเหมาะสมที่สุดกัน

อย่างที่ทุกคนรู้ๆกันอยู่ว่าตำแหน่ง small blind นั้นเป็นตำแหน่งที่สามารถสร้างกำไรจากการเล่นได้น้อยที่สุด บางทีคุณอาจจะเสียเงินเดิมพันครึ่งหนึ่งของรอบนั้นไปโดยที่ยังไม่ทันได้ดูไพ่ที่ได้รับเลย และไม่ว่าจะเล่นยังไงคุณก็จะมีตำแหน่งที่นั่งที่ไม่ดีในรอบหลัง pre-flop อีกด้วย (ความเป็น out of position ตลอดกาล)

แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่เก่งมากๆ ก็ยังสูญเสียเงินจากตำแหน่ง small blind เลย ถ้าคุณหมอบทุกๆครั้งที่อยู่ในตำแหน่ง small blind คุณจะเสียเงินทั้งหมด -50BB / 100 รอบ แต่ถ้าคุณสามารถลดการสูญเสียและเพิ่มอัตราชนะให้กลายเป็น -15 BB / 100 รอบ คุณกำลังทำได้ดีทีเดียวนะ

ดังนั้นการเล่นตำแหน่ง small blind จุดประสงค์หลักไม่ใช่การเล่นเพื่อสร้างผลกำไรแต่เป็นการเล่นเพื่อให้เสียน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

Big Blind กับ Small Blind

                หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยๆเมื่อผู้เล่นอยู่ในตำแหน่ง small blind ก็คือ ไม่รู้ว่าตำแหน่งที่นั่งระหว่าง big blind และ small blind นั้น แตกต่างกัน

                ถ้าคุณกำลังใช้กลยุทธ์และวิธีการเล่นในสองตำแหน่งนี้เหมือนๆกันอยู่ คุณกำลังเข้าใจอะไรผิดไปแน่ๆ เพราะสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองตำแหน่งนั้นคือ

                Big Blind – flat call ไพ่ได้กว้างกว่า และ 3-bet แบบ aggressive

                Small Blind – flat call ไพ่ได้แคบกว่า และ 3-bet แบบ aggressive

ทำไมคุณถึง flat call ได้แคบกว่าเมื่ออยู่ในตำแหน่ง small blind ? เหตุผลมีด้วยกันอยู่ 2 ข้อ

                1.คุณถูกบังคับให้ลงเดิมพันในตอนแรกน้อยกว่าและถ้า call ไปก็ไม่ได้ราคาเท่าที่ควร

                2.คุณไม่ได้เป็นคนสุดท้ายที่ได้ตัดสินใจในรอบนั้น ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind อาจจะ squeeze คุณกลับมาก็ได้

                ดังนั้นสุดท้ายแล้วผู้เล่นบางคนจะเหลือกลยุทธ์การ 3-bet เอาไว้อย่างเดียวในตำแหน่งนี้ มันอาจจะไม่ใช่แนวความคิดที่ดีซักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเราจะแนะนำให้มี range ไพ่ไว้สำหรับ flat call ด้วย แต่การ 3-bet อย่างเดียวก็สามารถใช้งานได้ดี แต่อาจจะดีขึ้นไปอีกถ้าคุณมี range ไพ่ไว้สำหรับ flat call เพิ่มเข้าไปด้วย

Raise เป็นคนแรก

                สถานการณ์ที่คุณสามารถพบเจอได้ในตำแหน่ง small blind และจะไม่เจอในตำแหน่ง big blind ก็คือ ผู้เล่นคนอื่นๆหมอบมากันหมดและคุณที่อยู่ในตำแหน่ง small blind จะได้เป็นคน raise คนแรก ถ้าในสถานการณ์นี้แนะนำให้เปิดการเดิมพันเข้าไปก่อนเลย 36% เช่นไพ่ในรูปด้านล่างนี้

                ในการเล่นจริงๆแล้ว คุณอาจจะเปิดการเดิมพันด้วย range ไพ่ที่กว้างกว่านี้ได้เล็กน้อย อาจจะหยิบพวก AXo มาเล่นได้

                สิ่งที่สำคัญมากๆในการเล่นตำแหน่งนี้คือ คุณจะต้องมองหาโอกาสที่จะสร้างโอกาสความได้เปรียบให้กับตัวเองได้ ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind นั้นไม่ได้ป้องกัน blind ของตัวเองได้ดีเท่าที่ควร ถ้าดูๆแล้วมีแนวโน้มว่าผู้เล่นในตำแหน่ง big blind จะ tight มากๆหรือมีโอกาสหมอบสูง ก็ไม่ผิดที่คุณจะใช้โอกาสนั้นขโมย blind ด้วยการเปิดการเดิมพันไปที่ประมาน 2.5 เท่า

                ถ้าคุณไม่ได้รู้จักผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind มาก่อน อาจจะยึดไพ่ 36% ในการเล่น แต่ถ้าคุณรู้ว่าผู้เล่นในตำแหน่ง big blind นั้น tight มาก อาจจะขยับไพ่ที่จะเล่นเป็น 50% ได้เลย การที่คุณจะสามารถขยับ range ไพ่ให้กว้างออกไปได้นั้น จะต้องอาศัยทักษะการอ่านคู่ต่อสู้พอสมควร ดังนั้นความผิดพลาดของผู้เล่นในตำแหน่งนี้ส่วนนึงก็เกิดจากการอ่านคู่ต่อสู้ไม่ขาดและขยับ range ไพ่ออกไป และกลับกลายเป็นว่าคุณไปสร้างกำไรให้กับผู้เล่นในตำแหน่ง big blind แทน

ป้องกันหรือเปิดเดิมพัน

                ถ้าต้องเผชิญหน้ากับการเปิดการเดิมพันจากผู้เล่นในตำแหน่ง BTN คุณจะต้อง aggressive เนื่องจากในยุคสมัยนี้ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง BTN นั้นมี range ไพ่ที่จะเอามาเล่นกว้างมาก เผลอๆผู้เล่นบางคนเล่นทุกไพ่ที่ได้รับมาเลยเมื่ออยู่ในตำแหน่ง BTN แต่เราจะเริ่มกันไปทีละขั้น เริ่มจาก range ไพ่ที่จะเอาไว้เล่นกับผู้เล่นในแต่ละตำแหน่ง

SB vs BTN 2.5x

ซึ่งเราจะแบ่งกันเป็นสีๆ ว่าแต่ละสีคืออะไรกันบ้าง

แดงอ่อน – 3-bet เพื่อเพิ่มมูลค่า

แดงเข้ม – 3-bet เพื่อบลัฟฟ์

น้ำเงิน – Cold call

ฟ้า – บางทีอาจจะ 3-bet บางทีอาจจะ Cold call

                กลยุทธ์ที่ใช้นั้นอาจจะมีไพ่ที่เอาไว้ cold call อยู่น้อยมากๆ อย่างเช่น 77-TT แต่คุณอาจจะไม่สามารถเล่นแบบนี้ได้ตลอดเพราะจะทำให้ผู้เล่นคนอื่นรู้ได้ว่าคุณถืออะไร ถ้าอยู่ในตำแหน่ง small blind และคุณ cold call คู่ต่อสู้จะจำกัด range ไพ่ที่เล่นของคุณได้ทันที เพราะฉะนั้นบางทีคุณอาจจะต้องเอาไปในโซนสีฟ้ามา call บ้าง หรือเอาไพ่ suited connector มา call บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน ไพ่อย่าง KJs บางครั้งก็อาจจะไม่เหมาะนักถ้าจะ call อย่างเดียว เพราะคุณอาจจะถูก squeeze ออก บางครั้งจึงต้อง 3-bet ด้วยไพ่แบบนี้บ้าง

SB vs CO 3x

                สังเกตุกันซักนิดนึงว่าตอนนี้ตัวเลขที่การเดิมพันที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นถูกปรับจาก 2.5เท่าเป็น 3 เท่าแล้ว สิ่งที่คุณจะต้องคำนึงถึงก็คือความถี่ในการป้องกันของคุณจะถูกกำหนดด้วยขนาดการเดิมพันของคู่ต่อสู้ ยิ่งขนาดการเดิมพันนั้นสูงมากเท่าไหร่ คุณควรที่จะเลือกป้องกันน้อยเท่านั้น

SB vs MP 3x

SB vs UTG 3x

                ในกรณีที่ผู้เล่นในตำแหน่ง big blind นั้นชอบ squeeze หนักๆ ก็อาจจะไม่เหมาะนักถ้าเอาพวกไพ่คู่ต่ำๆเข้าไปป้องกัน แต่ถ้าผู้เล่นในตำแหน่ง big blind นั้น squeeze ไม่ค่อยบ่อย และผู้เล่นที่เปิดการเดิมพันมาอยู่ในตำแหน่ง UTG หรือ MP คุณสามารถเอาไพ่คู่มาเล่นเพื่อหลังติด set ได้ เนื่องจากผู้เล่นในตำแหน่ง UTG และ MP นั้นมี range ไพ่ที่แคบ ซึ่งเพิ่มโอกาสทำให้คุณสามารถสร้างกำไรได้บ้างเมื่อคุณติดไพ่ในบอร์ด

Raise และ complete

                โดยทั่วไปแล้ว range ไพ่ที่คุณสามารถที่จะ raise ได้นั้นแคบมาก เนื่องจากในรอบหลัง pre-flop ไปแล้ว ตำแหน่งที่นั่งที่คุณมีอยู่นั้นไม่เอื้อประโยชน์เอาซะเลย เพราะฉะนั้นไพ่ที่จะสามารถเอาไป raise ได้ก็จะมีประมาณนี้

                อย่างไรก็ตามคุณยังมีวิธีการอื่นเพื่อจะต่อกรกับพวก limper เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นการเล่นที่ดีในระดับนึงแต่ผู้เล่นมักจะมองข้ามมันไปนั้นก็คือตัวเลือก complete เพราะเป็นตัวเลือกที่สามารถทำให้คุณเข้าไปดู flop กับคู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่าในราคาที่ดีงาม

                คุณสามารถ complete จากตำแหน่ง small blind ได้กว้างมากกว่าที่คุณกำลังจินตนาการอยู่ เหมือนในรูปด้านล่าง

แดงอ่อน – raise เพื่อเพิ่มมูลค่า

ฟ้า – complete

ขาว – หมอบ

                เมื่อคุณ complete จากตำแหน่ง small blind กับ limper 1 คน คุณกำลังจ่ายเงิน 1/6 ของ pot เผื่อจะตามเข้าไปดู flop และเมื่อคุณได้ราคาเข้าไปดู flop ที่ถูก คุณก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากนักจนกระทั่งคุณตามเข้าไปดูและมีไพ่ที่ติดบนบอร์ด จนถึงตอนนั้นคุณก็จะสามารถสร้างกำไรเล็กๆน้อยๆจากผู้เล่นคนอื่นที่อยู่ใน pot นั้น

                แต่ range ไพ่ด้านบนนั้นเป็น range ที่เราคาดเดาไว้ว่าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind นั้นเป็นผู้เล่น passive  นะ ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind ตัดสินใจที่จะ raise กลับมาเมื่อเจอกับสถานการณ์ที่มีผู้เล่นคนนึง limp มาแล้วและคุณก็เติมการเดิมพันเพื่อ call ตาม คุณควรที่จะเลือกไพ่มาเล่นให้แคบมากกว่าเดิม

เติมเงินเดิมพันเพื่อ head up

                นี่เป็นกลยุทธ์ที่ผู้เล่นหลายๆคนไม่รู้ ในอดีตผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง small blind มักจะชั่งใจในการเติมเดิมพันลงไป เมื่อทุกๆคนในโต๊ะล้วน fold กันหมด แต่เดี๋ยวนี้ผู้เล่นดีๆหลายคนเริ่มมองในมุมต่างกันออกไป ในเมื่อการเติมเดิมพันเข้าไป อาจจะทำให้เราสามารถชนะเงินรางวัลที่น่าดึงดูดใจได้และอาจจะใช้ประโยชน์จากโครงสร้างของ blind ได้อีกด้วย

                ลองมาพิจารณาตามหลัก GTO กัน กลยุทธ์นี้จะทำให้ range ไพ่ 70% นี้เป็นไพ่ที่เราสามารถเติมเงินเดิมพันเพื่อเข้าไปดูได้

แดงอ่อน – Limp/Raise เพื่อเพิ่มมูลค่า

แดงเข้ม – Limp/Raise เพื่อบลัฟฟ์

น้ำเงิน – Limp/Call

ฟ้า – Limp/Fold

ขาว – Fold

                อย่างไรก็ตาม ถ้าเราคาดเดาว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่อ่อนกว่าเรา มันไม่จำเป็นเลยที่เราจะ limp จากตำแหน่ง small blind ด้วยไพ่ AA เพราะเรากำลังพลาดโอกาสในการสร้างกำไรมหาศาลไปอยู่ และเรายังมี range ไพ่ที่เอาไว้ใช้ประโยชน์จากผู้เล่นคนอื่นอีกด้วย ซึ่งอาจจะหยิบไปใช้กับผู้เล่นที่อ่อนกว่าเราได้

เขียว –  Open Raise

ฟ้า – Limp/Fold

                แนวคิดนี้จะเห็นได้ว่าเราจะเริ่มเปิดการเดิมพันไปก่อนสูงถึง 36% และอีก 34% เราจะเติมเงินเดิมพัน call ตามไป ดูๆแล้วกลยุทธ์นี้ไม่บาลานซ์เอาซะเลยเมื่อทุกๆครั้งที่เราเติมเงินเดิมพันเข้าไป เราก็มักจะ fold ทุกครั้ง แต่ผู้เล่นที่มีความสามารถต่ำกว่าเรามากๆ แทบจะไม่มีทางรู้ตัวเลยและอาจจะไม่มีโอกาสใช้จุดนี้มาหาผลประโยชน์จากเราได้

                ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind นั้นอ่อนมากๆ มันก็ดูสมเหตุสมผลนะที่เราจะเติมเงินเดิมพันในไพ่อื่นๆที่เหลืออยู่ ดังนั้นถ้าผู้เล่นคนอื่นๆรอบโต๊ะ fold กันมาหมด และผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind ก็ฝีมือไม่แข็งอีก เราสามารถเติมเงินเดิมพันได้ทุกๆไพ่เลยก็ว่าได้

Squeeze และ Overcall

                บางสถานการณ์คุณอาจจะเจอผู้เล่นคนนึงเปิดการเดิมพันมาและมีผู้เล่นอีกคน call ตามเฉยๆ ในสถานการณ์แบบนี้คุณสามารถเลือกที่จะ call ตามหรือจะ squeeze ก็ได้

                อันนี้อาจจะมีกลยุทธ์หรือเทคนิคที่คล้ายๆกับตำแหน่ง big blind แต่สิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยอาจจะอยู่ที่ range ไพ่ที่จะ call ไปได้นั้นไม่กว้างเหมือนตำแหน่ง big blind

แดงอ่อน – squeeze เพื่อมูลค่า

ฟ้า – overcall หรือ squeeze

น้ำเงิน – overcall

แดงเข้ม – squeeze เพื่อบลัฟฟ์

                Range ไพ่ด้านบนนี้เป็น range ที่เราคาดเดาสถานการณ์ขึ้นเอง อย่างไรก็ตามมันสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยบ้างอย่างเช่น ตำแหน่งที่นั่งของคนเปิดเดิมพัน ตำแหน่งที่นั่งของคน call แนวโน้มของผู้เล่นที่ raise และ call ขนาดของการเดิมพัน และแนวโน้มการตัดสินใจของ big blind

                ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง big blind มีท่าทีค่อนข้าง aggressive คุณควรจะ range ไพในการเล่นทุกอย่างให้แคบลง เพราะคุณคงไม่อยากเจอกับสถานการณ์ที่ลงเงินไปแล้วแต่จบเกมด้วยการโดน squeeze ออก

สรุปสั้นๆตรงนี้

                ถ้าหากพูดถึงแนวทางในการเล่นเมื่ออยู่ในตำแหน่ง small blind แบบง่ายๆนั้น ก็คงจะมีลักษณะดังนี้

-ขโมย blind ด้วยความก้าวร้าวซักหน่อย เมื่อผู้เล่นในตำแหน่ง big blind ไม่ค่อนป้องกัน blind

-โดยทั่วไป range ไพ่ที่จะ call ตามไปได้นั้นจะต้อง tight หน่อย

-3-bet อย่าง aggressive ถ้าเผชิญหน้ากับผู้เล่นในตำแหน่ง LP และเล่นให้ tight มากๆเมื่อเจอผู้เล่นในตำแหน่ง EP

-ใช้กลยุทธ์การ complete เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้

-เข้าใจหรือรู้ว่าจะต้อง overcall หรือ squeeze เมื่อไหร่

                ถ้าคุณทำตามแนวทางตามบทความนี้ คุณจะมีการเล่นที่สมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้นเมื่อคุณอยู่ในตำแหน่ง small blind คุณจะรู้แล้วว่าในสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่ คุณจะต้องทำอะไร

Source : https://www.pokervip.com/strategy-articles/texas-hold-em-no-limit-advanced/small-blind-poker-strategy