Optimal Calling Range เมื่อถูก Bet

เมื่อไหร่ที่ไม่ควรใช้ MDF

ในบทความที่แล้วเราได้พูดกันไปแล้วว่า MDF จะใช้กันน้อยมาก

และในบทความนี้ เราจะพูดถึงสถานการณ์ที่ไม่ควรใช้ MDF อย่างแน่นอน ซึ่งมีอยู่ 3 สถานการณ์

1) เมื่อ defend flop c-bet OOP
มีความเข้าใจกันผิดๆว่าควรใช้ MDF กับ c-bet หลังจากที่ได้ defend มาแล้วจาก big blind  นี่คือสิ่งที่ผิดและได้พิสูจน์แล้วโดย solver!  การพยายาม defend ด้วย MDF ใน spot แบบนี้จะทำให้เป็นการเล่นด้วย -EV กับบาง range 

ความจริงคือเมื่อเรา flop ในตำแหน่ง BB ที่ได้ defend การ open-raise มา ส่วนใหญ่เรามักจะมี range และ position ที่เสียเปรียบเสมอ  จึงเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้เล่นอย่าง aggressive และ bluff ได้บ่อยๆ  ซึ่งเป็นโอกาสที่เขายอมจ่ายจากการเสี่ยง open pot ช่วง preflop

2) เมื่อคู่ต่อสู้ไม่มี Natural Bluff
ถ้า range ของคู่ต่อสู้เป็น made hand อย่างชัดเจน มันก็ไม่ฉลาดนักที่จะใช้ MDF  ทำไมจะต้องพยายามไม่ให้ถูก exploit จากการ bluff ถ้าไม่เห็นว่าคู่ต่อสู้จะมี hand ที่ใช้ bluff ได้?

ตัวอย่าง:

Online $2/$4. 6-Handed Effective Stacks $420

ในสถานการณ์นี้ คู่ต่อสู้จะไม่มี missed draw และ range ของเขาจะเป็น pair หรืออะไรที่ดีกว่า  ตรงนี้จึงไม่ใช่ spot ที่ควร call ด้วย MDF  เพราะ range ที่เขาจะเล่นมาถึง river ได้จะต้องแข็งมาก และคู่ต่อสู้ไม่น่าที่จะ bluff ด้วย made hand

หมายเหตุ: มีข้อโต้แย้งสำหรับการ fold hand นี้ที่ turn เพราะ player ส่วนใหญ่จะไม่ bluff ในสถานการณ์นี้

3) เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้อ่อนๆ
เมื่อเจอกับ player ที่อ่อนกว่าและไม่ balance range ได้ดี (ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆ) เราจะต้องเล่นด้วย exploitative strategy เพื่อจะชนะให้ได้มากที่สุด

ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้อง bluff อย่าง agressive หรือ call down light อยู่เสมอ  แต่ยังหมายถึงการ fold มากขึ้น ถ้าเห็นว่าคู่ต่อสู้ไม่ได้ bluff มากพอในบางสถานการณ์

คอยสังเกตุคู่ต่อสู้เสมอ และไม่เล่นแบบ robot ใช้ข้อมูลทุกอย่างที่มีและอย่าลืมว่าเรากำลังเล่นอยู่กับมนุษย์ไม่ใช่คอมพิวเตอร์

Pot Odds กับการ Bet – ใช้เมื่อไหร่และใช้อย่างไร

Pot Odds ไม่เหมือนกับการคำนวณ MDF เพราะเป็นสิ่งที่ควรจะคำนึงถึงเสมอกับทุกๆ hand 

Pot Odds คำนวณเป็นอัตราส่วน เช่น 2-ต่อ-1 ซึ่งสามารถแปลงเป็น % ได้  อย่างในกรณีนี้จะเท่ากับ 33%
 
สูตรในการคำนวณ pot odds:

(bet size) / (pot size + bet size + call size)

คุณด้วย 100 เพื่อให้เป็น %

ลองดูตัวอย่างแรกและคำนวณ pot odds ที่ river:

Online $1/$2. 6-Handed. Effective Stacks $200

Pot $75.00 และเราจะต้อง call $37.50 ทำให้ได้สูตรดังนี้:

37.50 / ( 75 + 37.50 + 37.50) = 37.50 / 150 = 0.25

คุณผลลัพธ์ด้วย 100 = 25%  เป็น % ที่เราต้องชนะเมื่อตัดสินใจ call เพื่อจะ break even 

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถ้าเรามี equity มากกว่า 25% ต่อ betting range ของ Villain  เราก็ควรจะ call ได้ทุกครั้ง

Pot odds สามารถใช้ได้หลายครั้งตั้งแต่ preflop ถึง postflop  pot odds ใช้ได้ดีกว่า MDP ในการหา optimal calling range เมื่อถูก bet 

เมื่อถูก bet ที่ river เราสามารถคำนวณ pot odds เพื่อดูว่าเราจะต้องถูกกี่ครั้งถ้าตัดสินใจ call (การใช้กับ street ก่อนหน้าจะซับซ้อนขึ้นเพราะ runouts อาจเปลี่ยนผู้ชนะได้)

ตารางแสดง pot odds ต่อ bet size โดยทั่วไป

บทสรุป

เมื่อนึกถึง MDF และ pot odds เราควรจะคำนึงถึงรูปแบบการเล่นและ range ของคู่ต่อสู้ก่อนที่จะตัดสินใจ

จากตัวอย่างที่แสดง เมื่อเจอกับ player ที่ไม่ค่อย bluff ไม่ว่าจะเป็นเพราะสถานการณ์นั้น หรือด้วยสไตล์การเล่น เราก็ควรจะลืม MDF ไปซะและ exploit ด้วยการ fold มากขึ้น  เราจะต้องคอยสังเกตสิ่งเหล่านี้เพื่อใช้ MDF และ pot odds ได้อย่างเหมาะสม

Source:
How to Make the Most Profitable Decision Against Any Bet Size
https://upswingpoker.com/minimum-defense-frequency-vs-pot-odds/