Balance Your Bluffs?
จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายคือเราจำเป็นต้อง balance หรือไม่ ดังนั้นไม่ใช่แค่คิดเกี่ยวกับคู่ต่อสู้…range และโอกาสที่เขาจะ fold ได้บ่อยแค่ไหน แต่ “ยังต้องคิดถึง hand ที่เรา represent และคู่ต่อสู้อาจจะตอบโต้อย่างไรบ้าง?”
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นพวก super aggressive bluffer เราก็ไม่ควรคาดหวังว่าพวก strong thinking player จะหมองไพ่คู่ให้เราบ่อยนัก (และอาจ bluff raise เรามากขึ้นอีกด้วยซ้ำ!!)
ในความเป็นจริงผู้เล่นส่วนมากมักจะโฟกัสกับไพ่ 2 ใบของตัวเองและความแข็งแกร่งของมันมากเกินไป นั่นไม่ใช่การ balance ที่ผมต้องกังวลเป็นหลัก ไม่ว่าจะ bluff บ่อยเกินไป…มากไปนิด หรือไม่เคยเลย player ที่โฟกัสแต่ไพ่ของตัวเองจะไม่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใดๆเลย ดังนั้นเมื่อเจอกับผู้เล่นพวกนี้ การ bluff ก็เป็นเหมือนแบบฝึกหัด และผมจะ bluff ทุกๆ weak hand ที่สามารถทำกำไรได้ทันที
สำหรับในเคสที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น เมื่อคู่ต่อสู้มีการคิดถึง range ของเราและจะทำการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเล่นตามได้อย่างถูกต้อง นั่นก็หมายความว่าผมไม่น่าจะมีโอกาสมากนักที่จะมี bluff ที่ทำกำไรได้ทันที และยังไม่น่ามีโอกาสที่จะทำกำไรจากการ bluff multi-street ได้ง่ายอีกด้วย
แต่ยังไงก็ตามผมก็ยังต้อง bluff อยู่บ้างเมื่อเจอกับผู้เล่นพวกนี้ ไม่งั้นก็จะเป็นการปล่อยให้คู่ต่อสู้ fold ได้ง่ายเกินไปเมื่อเจอกับ bet ของเรา แต่ผมจะ bluff ให้สมเหตุสมผลขึ้นอย่าง 1 value: 1 bluff combo ที่ river แต่ย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นสถานการณ์เฉพาะเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่ใช้ความคิดและสามารถปรับให้เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เล่นน้อยคนนักจะทำได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม lower stake
และนั่นก็คือสรุปการ bluff แบบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้
ย้ำอีกครั้งว่าเราต้องจดจำตัวเลข BE% พื้นฐานไว้บ้าง และต้องพัฒนาเรื่องการอ่าน hand เริ่มสังเกตว่าคู่ต่อสู้น่าจะ fold บ่อยแค่ไหนในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เราต้องคิดถึงการใช้ multi-street bluff และคิดถึงความสำคัญของการ balance และเลือกว่าเราจะยิงด้วยกี่ bluff combo
ในช่วงแรกอาจดูเยอะเกินไป แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณเรียนรู้เพียงวันละหนึ่ง bluff hand ตลอด 2-3 อาทิตย์ข้างหน้า การ bluff ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป
อย่าลืมว่าการ bluff ที่ทำกำไรได้ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง bluff ผ่าน 100% ของทุกครั้ง แต่มันหมายถึงการที่เราคิดว่าคู่ต่อสู้จะ fold มากพอที่จะทำให้เราสามารถทำเงินได้มากกว่าเวลาที่ bluff ผ่าน เทียบกับเงินที่เราต้องเสียไปเวลาที่ bluff ไม่สำเร็จ
Preflop Bluff Example
มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับการ bluff ด้วยตัวเลขที่ดูเป็นนามธรรมซึ่งอาจทำให้สับสน เพื่อให้ชัดเจนเราจะมาดูบางตัวอย่างของการ bluff กัน โดยจะเริ่มจาก preflop bluff เพราะมีผู้เล่นมากเกินไปที่ใช้ preflop strategy ในหลายสถานการณ์ที่ความ aggressive สามารถเพิ่มผลกำไรได้
Bluff Squeeze Preflop
ในความเป็นจริงคือเรามีโอกาสได้รับไพ่ขยะ 2 ใบมากกว่าที่จะเป็น KK และ AA แต่ข่าวดีก็คือเราสามารถเปลี่ยน starting hand แย่ๆเหล่านั้นให้เป็นกำไรได้ง่ายๆด้วยการใช้ bluff squeezing strategy ดีๆ
ข้อแรก squeeze คืออะไร? Squeeze คือ preflop 3bet แบบพิเศษหลังจากที่ raiser คนแรกมีอย่างน้อย 1 caller ถ้าเราดูกันที่ hand นี้เมื่อ EP open $3…MP call $3 และ CO fold…ก็เป็นโอกาสของ hero ที่จะ squeeze ได้
ถ้า CO ได้ call มาด้วย มันก็ยังนับเป็นโอกาสที่จะ squeeze เช่นกัน แต่ถ้า MP และ CO fold ทั้งคู่ แนนก็จะไม่นับว่าเป็นโอกาสในการ squeeze จุดประสงค์หลักของ squeeze คือการ 3bet และ squeeze dead money จาก caller ที่น่าจะมี weaker hand
ทำให้เราได้สรุปประเด็นที่ต้องวิเคราะห์ก่อนการ squeeze ซึ่งก็คือ:
- ใครคือ open raiser และเขามีแนวโน้มที่จะตอบโต้การ squeeze อย่างไร
- ใครคือ caller และพวกเขามีแนวโน้มที่จะตอบโต้การ squeeze อย่างไร
- ผู้เล่นที่ยังไม่ได้แอคชั่น และพวกเขามีแนวโน้มที่จะตอบโต้การ squeeze อย่างไร
- Squeeze size และผลกระทบต่อ BE% และโอกาสในการ fold
- Hole card ของเรา
เป็นลิสท์ที่อาจดูน่ากลัวในตอนแรก เพราะมีหลายอย่างที่ต้องวิเคราะห์ก่อนจะลงมือ squeeze ง่ายๆ แต่ในการเล่นจริงเราต้องคิดถึงสิ่งเหล่านี้ในทุกๆ hand เพราะฉะนั้นลิสท์นี้ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆและเป็นอะไรที่ต้องคำนึงถึงก่อน preflop แอคชั่นทุกครั้ง
ย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เราต้องวิเคราะห์และเริ่มกันจาก ooen-raiser เริ่มด้วยการคิดถึง hand ที่เขาน่าจะใช้ open-raise และ hand ไหนที่เขาจะเล่นต่อถ้าเรา squeeze ถ้าเขา open-raise อย่าง tight มากๆ เช่น 77+ / AQ+ ก็หมายความว่าเขามีโอกาสที่จะไม่ fold บ่อยนักเมื่อถูกเรา squeeze ถ้าเรากำลัง bluff squeeze จุดประสงค์หลักของเราคือทำให้คู่ต่อสู้ fold และดีที่สุดคือ preflop fold เพื่อที่เราจะได้กิน pot อย่างง่ายดายและเปลี่ยนเล่น hand ต่อไป
Open-raiser ที่เราควร squeeze คือผู้เล่นที่มักจะ fold open-raise range มากเกินไป เช่น ถ้า player open-raise 12% และถ้าถูก squeeze จะเล่นต่อด้วย JJ+ / AK (3% ของ hand) โดยจาก fold 75% ของทุกครั้งซึ่งถือว่าดีมากสำหรับเรา! แต่ถ้าคู่ต่อสู้จะ fold ให้กับ squeeze เพียง 50% ของทุกครั้งหรือน้อยกว่า ผมก็จะไม่ squeeze ด้วยไพ่แย่ๆ
ต่อไป…เราจะดูว่า caller เป็นใคร hand แบบไหนที่พวกเขาจะใช้ call open-raise มาได้ และมีโอกาสที่จะตอบโต้เมื่อถูก squeeze อย่างไร? ถ้าพวกเขา call open-raise ด้วย hand อย่างไพ่คู่เล็กๆและ suited connector เขามีโอกาสที่จะ fold หรือ call กับ squeeze ของเรา? แน่นอนว่าเราอยากจะให้ fold preflop มากกว่าเพราะจะทำให้เรากิน pot ได้ง่ายๆ
แต่ถ้าคู่ต่อสู้ตัดสินใจ call พวกเขาจะเล่น postflop ยังไง?
ถ้าพวกเขาจะ call open-raise และ squeeze ด้วย 33 แล้วล่ะก็ เขาจะแค่ check/fold flop ถ้าไม่ติด set รึเปล่า? หรือจะเป็นพวก fish ที่ไม่รู้จัก fold postflop?
เมื่อเจอกับ fishy caller ผมจะใช้ squeeze range แข็งๆและเน้น value เพราะพวก fish มักจะไม่ fold preflop หรือ postflop มากพอที่จะ bluff ได้
ตามหลักทั่วไปแนะนำว่า ยิ่งมี caller มากเท่าไหร่เราก็ยิ่งควรเลือกมากขึ้นเท่านั้น เพราะยิ่งมี caller มากขึ้น ก็หมายถึงผู้เล่นมากขึ้นที่จะต้อง fold ซึ่งอาจจะไม่ง่ายนัก ควรโฟกัสที่จะ squeeze player ที่ call preflop open-raise ด้วยการหวังติด set หรือพวกไพ่ draw ที่จะ fold เมื่อถูกกดดันด้วย squeeze ถ้าพวกเขา fold hand พวกนั้นให้กับ squeeze เราก็คาดหวังว่า % preflop fold ที่สูงมากได้…ซึ่งเป็นเป้าหมายของการ bluff ในลักษณะนี้
และเราจะยังดู player ที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์นี้จะเป็น SB และ BB ตามกฎทั่วไปผมจะไม่ชอบ squeeze ตรงจุดนี้ถ้ามี fish ตัวใหญ่ที่ blind เพราะถ้า fish ตัวนั้น call ข้อแรกคือเราไม่สามารถทําให้ทุกคน fold และกิน pot มาอย่างง่ายดาย และข้อสองคือจะทำให้มีโอกาสที่ EP และ MP จะ call มาด้วยทั้งคู่ เมื่อมี tight player และ unknown ผมอาจจะคาดว่าพวกเขาจะ fold ด้วย % ที่สูงมาก…แต่ต้องระวังเมื่อเจอกับพวก fish และ player ที่ไม่มีวินัยการเล่น preflop เลย การเช็ค player ที่ยังเหลืออยู่เป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิ่งที่เราควรทำอยู่เสมอไม่ว่ากำลังเล่น preflop แอคชั่นแบบไหน
Source:
Poker Bluffing 101 (Finding +EV Bluffs)
https://www.splitsuit.com/poker-bluffing-101