10 ข้อแนะนำสำหรับ Hold’em: พื้นฐานของ Set Mining

Set เป็นมือที่ทรงพลัง เมื่อคุณรู้วิธีในการซื้อ Set คุณก็จะทำกำไรจากฝ่ายตรงข้ามได้มากมายเลย

Set Mining หมายถึงการที่เราเล่นไพ่คู่ที่ไม่ใหญ่แบบ Passive ตอน Preflop เพื่อหวังว่าจะติด Set ตอนเปิด Flop เราพูดถึงไพ่คู่ขนาดเล็ก (22-66) และคู่ขนาดกลาง (77-JJ) เป็นส่วนใหญ่ ไม่รวมถึงคู่ Queen, King หรือ Ace และเล่นแบบ Passive

เหมือนกับตอนเราเล่น Suited Connectors ด้วยการพยายามจะติด Set ด้วยไพ่คู่เหล่านั้น ก็เหมือนกับเสี่ยงน้อยเพื่อได้เยอะ การติด Set ที่ Flop หรือ Turn ด้วยไพ่คู่สามารถเป็นมือที่ทรงพลังอย่างยิ่งที่มีได้ใน No-Limit Hold’em เพราะว่ามือเหล่านั้นเหมือนซ่อนอยู่ และฝ่ายตรงข้ามยากที่จะสงสัยว่าคุณมีมือใหญ่

สมมติว่าคุณได้ 4♣4♥ ที่ Big Blind มีผู้เล่น Raise มาจาก Middle Position ผู้เล่นที่ Button Call และคุณ Call ไปเช่นกัน คุณ 3 คนเห็น Flop เป็น A♣K♦4♠ นี่เป็นสถานการณ์ที่วิเศษสำหรับคุณ และหนึ่งในฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะติดอย่างน้อยคู่ Ace หรือคู่ King และมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะพัฒนาพอที่จะชนะ Set 4 ของคุณ คุณอยู่ในจุดที่ดีมากที่จะชนะ Pot ใหญ่

แต่ก่อนที่เราจะตื่นเต้นเกินไปที่ติด Set ที่ Flop และชนะ Pot ใหญ่ เรามาคุยกันเล็กน้อยว่าสถานการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ในความเป็นจริงเมื่อเราจะพิจารณาพื้นฐานของ Set Mining มันคุ้มค่าที่จะจำข้อเท็จจริงไม่กี่อย่างเกี่ยวกับไพ่คู่และการติด Set เพื่อช่วยให้คุณคาดได้ว่าคุ้มค่าไหมที่คุณจะเลือกใช้กลยุทธ์ Set Mining

คุณจะได้ Set บ่อยแค่ไหน

ที่ Flop มีโอกาส 11.8% ที่คุณจะติดอย่างน้อย Set ที่ Flop (รวมถึงติด Full House และ Quad ด้วย) นั่นหมายความว่าสำหรับคนที่ซื้อ Set แบบคุณ Flop จะออกมาดีเพียงแค่ 1 ใน 8 ครั้ง ถ้าคุณได้เห็น Turn และ River โอกาสโดยรวมที่คุณจะติด Set จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มากนัก

จำไว้ว่าการติด Set ด้วยไพ่คู่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เกือบทุกครั้งไพ่คู่เล็กและคู่กลางของคุณไม่พัฒนา นี่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าทำไมได้เยอะเวลาคุณติด Set เพราะมันเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก และฝ่ายตรงข้ามก็ดูเหมือนจะไม่ได้สงสัยถึงมัน

พิจารณาที่ Stack ก่อน 

ลองคิดถึงอีกมือนึงที่มีผู้เล่น Raise มาจาก Middle Position และตอนนี้คุณอยู่ที่ Button ด้วย 4♣4♥ Call เพื่อไปเอา Set ก็ดูจะเป็นแนวคิดที่ดี แต่เราต้องพิจารณา Stack ก่อน

สังเกต Stack ที่เหลืออยู่ของผู้เล่นที่ Raise เช่นเดียวกับ Stack ของคุณ และคิดถึง Effective Stack ที่มีในสถานการณ์นี้

สมมติในกรณีที่ Blind เป็น 1,000/2,000 และมีผู้เล่น Raise Preflop เป็น 5,000 คุณมี Stack ที่ใหญ่อยู่เกือบๆ 70,000 แต่หลังจาก Raise แล้ว ผู้เล่นคนนั้นเหลือ Stack อยู่ 20,000 การซื้อ Set ด้วยไพ่คู่ 4 จะเป็นกลยุทธ์ที่ดีตอนนี้ไหม

ลองคิดดู คุณติด Set เพียงแค่ 1 ใน 8 ครั้ง แต่ถ้าคุณได้ Stack ของผู้เล่นคนนั้น คุณก็จะได้แค่ Pot เล็ก คุณ Call ไป 5,000 ด้วยความหวังที่จะชนะกองกลาง 8,000 รวมกับอีก 20,000 มันน้อยกว่า 6 เท่า ของจำนวนที่คุณ Call ไปอีก

Call ไปตรงนี้เพื่อหวังติด Set แน่นอนว่าเป็นการเล่นที่แย่ มันประมาณ 7-1 กับการติด Set และต่อให้มันไปได้สวยสำหรับคุณ คุณได้ Set และได้ Stack ของเขามา คุณได้เสี่ยง 5,000 เพื่อชนะรวม 28,000 นั่นหมายถึง Implied Pot Odds คือ 5.6-1 มันน้อยกว่า Odds ที่คุณจะติด Set ในกรณีนี้ ถ้าคุณ Raise ด้วยคู่ 4 (หรือ Fold มัน) จะดีกว่าการ Call กลยุทธ์ Set Mining ไม่แนะนำเมื่อ Effective Stack น้อยเกินไป

กฎข้อนึงที่ต้องทำตามเลยคือ Effective Stack ต้องมีอย่างน้อย 10 เท่าของจำนวนที่ต้อง Call ไปเพื่อใช้กลยุทธ์ Set Mining ถ้าคุณต้อง Call 5,000 ไปเพื่อซื้อ Set คุณต้องมีโอกาสที่จะได้อย่างน้อย 50,000 บางครั้งแนะนำว่าต้องมากกว่านั้นเช่น 12 หรือ 15 เท่าของจำนวนที่ต้อง Call (หรือมากกว่านี้อีก)

สุดท้าย อย่าลองซื้อ Set ถ้า Stack ของคุณไม่มากพอที่จะทำมัน ก่อนที่คุณจะ Call ด้วยไพ่คู่เล็กของคุณ ดูที่ Stack ถ้าคุณเล่น Online มันง่ายที่จะดูตัวเลขบนจอที่แสดงถึงจำนวน Stack ถ้าเล่น Live หยุดสักนิด ดู Stack ของคนที่ Raise แล้วค่อยตัดสินใจ และไม่ Call ถ้า Effective Stack น้อยเกินไป

Set Mining กลยุทธ์การเล่น Postflop

การติด Set ที่ Flop ดีที่สุด มันทำให้คุณ Bet ได้ 3 จังหวะ เพื่อที่จะสร้าง Pot ใหญ่กับฝ่ายตรงข้ามของคุณ ติดที่ Turn ก็ดีเหมือนกัน แต่มันไม่คุ้มที่จะจ่ายมากเกินไปที่ Flop เพื่อที่จะเห็นไพ่อีกใบ เมื่อคุณมีแค่ 2 Outs ถ้าคุณไม่ติดที่ Flop มีโอกาสที่คุณจะติดที่ Turn แค่ 4% ถ้าไม่ติดอีก มันก็จะมีอีกแค่ 4% ที่คุณจะติดที่ River

ทั้งหมดข้างบนหมายความว่าเมื่อใช้กลยุทธ Set Mining เกือบทั้งหมดก็เพื่อติด Set ที่ Flop ถ้าไม่ติด คุณก็ต้องทิ้งมือนั้นบ่อยๆ จนกว่าคุณจะรู้สึกว่าไพ่คู่ของคุณยังคงดีกว่าไพ่อีกฝ่ายเมื่อ Flop เปิด ลองคิดดู ไพ่คู่ 10 อาจจะยังนำใน Flop 7♦4♠2♣ แต่ไพ่คู่ 5 อาจจะไม่ใน Flop K♠J♦10♣ อย่าดื้อที่จะหมอบคู่เล็กเมื่อแพ้อย่างเห็นได้ชัด

เมื่อคุณติด Set แล้ว ลองคิดถึงมืออีกฝ่าย และคิดเกี่ยวกับวิธีที่คุณจะสร้าง Pot อย่างฉลาด ถ้าคุณมีไพ่คู่ 7 และ Flop เปิดมาเป็น 7♦4♠2♣ การ Bet ไปก่อนอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี เมื่อฝ่ายตรงข้ามของคุณที่ Raise Preflop ดูเหมือนจะไม่ติดอะไร Check และ Call แล้วอาจจะเริ่ม Bet หรือ Raise ตอน Turn แต่ถ้าคุณมีไพ่คู่ 7 และ Flop เป็น A♦K♣7♥ คุณไม่จำเป็นที่จะต้อง Slow Play โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะติดคู่ Ace หรือ King และสามารถให้ Action กับคุณได้

ปกติแล้วเมื่อติด Set ที่ Flop คุณอยากที่จะเริ่ม Bet หรือ Raise ที่ Turn เพื่อที่คุณไม่อยากพลาดโอกาสทองที่จะชนะ Pot ใหญ่ ในบางครั้งคุณอาจจะโชคดีมากที่อีกฝ่ายเล่นแบบ Aggressive ใส่คุณเมื่อคุณติด Set ที่ Flop ในกรณีนี้คุณอาจจะ Call ไปจนถึง River ก่อนที่จะ Bet หรือ Raise ใหญ่ๆ ในจังหวะสุดท้าย

แต่อย่าให้พิสดารเกินไปและพลาดโอกาสที่จะ Bet ด้วยมือที่ติด Set ของคุณ เมื่อซื้อ Set ผลตอบแทนที่ได้จะเยอะมาก แต่ไม่จนกว่าคุณจะทำได้ดีตอน Postflop เพื่อมั่นใจว่าคุณจะได้รางวัลเหล่านั้น

ที่มา https://www.pokernews.com/strategy/10-hold-em-tips-03-25344.htm