Poker เป็นเกมระยะยาว ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะมีทั้งช่วงเวลา upswing และ downswing ใหญ่ๆในทุกช่วงอาชีพของทุกคน จริงๆแล้วเป็นเรื่องค่อนข้างปกติที่จะเจอกับ downswing ใน poker เหมือนขึ้นรถไฟเหาะตีลังกาไปกับ bankroll ของเรา
Poker downswing หนักได้แค่ไหน? ค่อนข้างใหญ่และเสียหายได้หนัก ไม่ใช่แค่เพียงกับ bankroll แต่ยังส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจของผู้เล่นอีกด้วย การฟื้นตัวจาก downswing หนักๆเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และอาจจะยากที่จะเล่น A-game ต่อและยังสามารถตัดสินใจได้ดีในช่วงนั้น
สิ่งที่เราจะพูดถึงในบทความนี้:
- ทำความเข้าใจ Poker Win Rate
- Standard Deviation ใน Poker Win Rate
- วิธีหยุด Poker Downswing?
- Poker Downswing ยาวนานแค่ไหน?
- สิ่งที่เรามักเข้าใจผิด
- Poker Downswing ในเกมต่างๆ
- 5 เทคนิคพิชิต Downswing และความ Tilt
- สรุป Poker Downswing
ทำความเข้าใจ Poker Win Rate
ก่อนที่จะลงรายละเอียด เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ win rate ในเกม poker…มันคืออะไร / วิธีคำนวณและการแสดงผล / และความเบี่ยงเบนปกติอยู่ที่เท่าไหร่
สำหรับ online poker ตามปกติแล้วจะคำนวณ win rate ด้วย big blind ต่อ 100 hand ซึ่งสามารถเขียนย่อเป็น “bb/100” win rate ที่ใช้ได้ควรอยู่ระหว่าง 2bb/100 และ 8bb/100 ขึ้นอยู่กับ stake ที่เราเล่น
ถ้าขยับไปอีกขั้นก็จะเป็น “all-in adj bb/100” ซึ่งย่อมาจาก all-in adjusted big blind ต่อ 100 hand นี่เป็นตัวเลขสถิติที่เราควรต้องใส่ใจและอยากให้เป็นบวกมากกว่าตัว bb/100 ปกติ เป็นตัวเลขที่คำนวณเงินที่เรา ควรจะ มีมากกว่า เมื่อดูจาก hand equity ที่ player all-in (ถ้าใช้ได้) หรือถ้า “โชค” เป็นปัจจัยในเกมนั้น
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเล่น 100NL และ all-in preflop ด้วย AA และถูก call ด้วย KK หมายความว่าเรามี equity นำอยู่ประมาณ 81% ตัวเลข “all-in adj bb/100” ของเราจะเป็น +81bb ในขณะที่ bb/100 จะเป็น 100bb / 0bb หรือ -10bb ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ว่าเราชนะ เสมอ หรือแพ้ใน hand นั้น
สำหรับ live poker…win rate จะคำนวณเป็น bb/hour หรือ $/hour ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้มาง่ายๆจากค่าเฉลี่ยของ win/loss ทั้งหมด หารด้วยจำนวนชั่วโมงทั้งหมดที่เล่น โดยไม่ต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อนอะไรในคอมพิวเตอร์เลย
แต่มันไม่ช่วยให้เราได้เห็นว่ากำลังเล่นดีหรือแย่แค่ไหน “ในความเป็นจริง” เมื่อเปรียบเทียบกับ “สิ่งที่ควรจะเป็น”
Standard Deviation ใน Poker Win Rate
ตัวเลขที่มีประโยชน์ต่อไปที่ใช้คู่กับ win rate ก็คือ “standard deviation” (SD) เป็นการคำนวณที่จะบอกว่าเราเบี่ยงเบนออกจาก win rate บ่อยแค่ไหนในทุก 100 hand ที่เล่น ยิ่งเล่น loose เท่าไหร่ standard deviation ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น และ variance ของเราก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้ามถ้าเรายิ่งเล่น tight… standard deviation ก็จะยิ่งต่ำลงและ variance ก็ต่ำลงด้วยเช่นกัน
โดยทั่วไป standard deviation ของ poker player อยู่ระหว่าง 70bb/100 และ 100bb/100 ด้วย win rate เฉลี่ย 5bb/100 hand สมมุติว่า standard deviation เท่ากับ 100bb/100 ก็มีโอกาสมากที่เราจะมีตัวเลขระหว่าง -95bb/100 และ 105bb/100
ด้วยผลลัพธ์นี้เพียงอย่างเดียวก็แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายของการเล่น poker ในทุกๆ bell curve (กราฟระฆังคว่ำ) ของกราฟ SD เราจะสังเกตได้ว่า upswing หรือ downswing ที่ยืดเยื้อยาวนานจาก win rate โดยเฉลี่ยมากๆนั้นแทบไม่น่าเป็นไปได้ แต่แน่นอนว่ายังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่บ้าง!
ดังนั้นถ้าเราเคยสงสัยว่า “poker downswing นี้มันเป็นไปได้ยังไงนะ?” ก็อยากให้คิดย้อนมาถึงเรื่อง standard deviation นี้ ซึ่งนำเราไปสู่หัวข้อหลักของบทความนี้
วิธีหยุด Poker Downswing?
ไม่ว่าจะเป็น online downswing หรือ live poker downswing วิธีแก้ poker downswing เพียงอย่างเดียวก็คือ: volume (เพิ่มจำนวน hand และข้อมูลการเล่นให้มากขึ้น!)
Volume จะทำให้ทุกอย่างชัดเจน! Volume ทำให้ตัวเลขสถิติมีความแม่นยำขึ้นตามค่าเฉลี่ยจาก win rate และอื่นๆของเรา ยิ่งเราใส่ข้อมูลของ hand และ session มากเท่าไหร่ ก็หมายถึงข้อมูลที่จะทำให้ค่าเฉลี่ยของเราแม่นยำและเชื่อถือได้มากเท่านั้น
สำหรับการเล่น online เราอาจเห็นว่า win rate ของเราสูงหรือต่ำกว่า “all-in adjusted bb/100” ของเรามาก ซึ่งเราจะรู้ว่า เป็นจุดที่เราแค่โชคดีหรือโชคร้ายมากๆเท่านั้นเอง
ยิ่งเรายังคงเล่นนานขึ้นต่อไปเรื่อยๆและใส่ข้อมูลของ hand มากขึ้น เราก็จะยิ่งได้ตัวเลข win/loss ที่ใกล้เคียงความจริง ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะใกล้เคียงกับ all-in adjusted bb/100
Poker Downswing ยาวนานแค่ไหน?
เป็นคำถามที่ไม่สามารถมีคำตอบได้ชัดเจน แต่จากที่ได้กล่าวไว้ ยิ่งเราใส่ volume ได้มากแค่ไหน เราก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่มันควรจะเป็นเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเป็น standard deviation และเคสที่แย่ที่สุด แต่ถ้ายิ่งใส่ volume เข้าไปมากขึ้น เราก็จะยิ่งการันตีกำไรได้มากขึ้น (กรณีที่เราเป็น winning player แล้ว) นี่จะเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าผลกำไรในตอนนี้จะค่อนข้างต่ำกว่าสิ่งที่มันควรจะเป็นอยู่มาก
เพื่อให้เห็นภาพเราจะใช้ Poker Variance Calculator ที่ดูได้จากที่นี่
3 ตัวแปรที่ต้องใส่ค่า:
- Winrate BB/100
- Standard deviation BB/100
- จำนวนของ hand ที่จะใช้ทดลอง
หลังจากใส่ตัวแปรทั้งหมดแล้ว เราจะเห็นกราฟแสดงความเป็นไปได้ทั้งหมดของผลการเล่นภายใน SD และตัวอย่างข้อมูล
และเพื่อให้เห็นว่า volume ทำให้ทุกอย่างชัดเจนอย่างไร เราจะลองใส่ตัวแปรด้านล่างนี้:
- 2.5bb/100 winrate (พอประมาณ)
- 100bb/100 SD (รุนแรง)
- 100,000 hands (ขนาดของตัวอย่างข้อมูลต่ำถึงปานกลาง)
ข้อสังเกตจากกราฟนี้:
- เส้นสีดำแสดงจุดที่เราควรจะเป็นสำหรับ 2.5bb/100 win rate
- เส้นสีเขียวอ่อนด้านบนและล่างของเส้นสีดำเข้มแสดงผลการเล่นที่เป็นไปได้ 70% จากข้อมูล 100,000 hand
- เส้นสีเขียวเข้มด้านบนและล่างของเส้นสีดำเข้มแสดงผลการเล่นที่เป็นไปได้ 95% จากข้อมูล 100,000 hand
- นอกจากนั้นเราจะเห็นว่ามีเส้นสีฟ้าซึ่งแสดงผลการเล่นที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ (ประมาณ +13,191bb) และเส้นแดงเข้มแสดงผลการเล่นที่แย่ที่สุดที่จะเป็นไปได้ (ประมาณ -6,836bb)
- ในกราฟด้านล่างของกราฟบนเว็บไซต์ เรายังได้เห็นรายละเอียดเพิ่มขึ้น ซึ่งมีทั้ง 78.54% ของทุกครั้งที่เราจะชนะด้วย win rate 2.5bb/100 หรือดีกว่า และ 21.46% ของทุกครั้งที่เราจากรันแย่กว่าเป้าหมาย
- กราฟด้านล่างแสดง “bankroll ขั้นต่ำ” สำหรับความเสี่ยง 5% ที่ bankroll จะแตก ซึ่งในกรณีเท่ากับ 5991bb หรือประมาณ 60 x 100bb buy-ins! ยิ่ง win rate สูงแค่ไหน SD ก็ยิ่งต่ำลง และ bankroll ที่ต้องเตรียมไว้ในการเล่นก็ต่ำลงด้วย
ตอนนี้ลองมาเปรียบเทียบกราฟด้านบนกลับกราฟด้านล่างนี้ดูกัน ตัวแปรเดียวที่เปลี่ยนแปลงคือจำนวนของ hand ซึ่งในตอนนี้เท่ากับ 2,000,000 แทนที่จะเป็น 100,000 ในกราฟด้านบน
สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ แม้จะเป็นผลการเล่นที่แย่ที่สุด ก็ยัง มากกว่า +$0 ถ้าดูจากผลกำไร! ในขณะที่มีชัยชนะเพียงประมาณ +10,505bb (vs การเล่นที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ +91,472bb โดยประมาณ และโดยเฉลี่ย +50,000)
เราจะเห็นว่าแค่เพียงเพิ่ม volume ก็สามารถการันตีผลกำไรได้แล้ว ขอเพียงเราเป็น winning player!
Source:
https://www.888poker.com/magazine/strategy/how-to-deal-with-downswing-in-poker