ความจริงแล้วผมเป็นคนที่ชอบจินตนาการให้เห็นภาพ และผมยังชอบคณิตศาสตร์อีกด้วย สิ่งเหล่านี้จึงสำคัญมากสำหรับผมในการเรียนรู้หรือใช้อะไรบางอย่าง
ดังนั้นเมื่อผมเริ่มเรียนรู้เรื่อง hand range และการ exploit range ต่างๆ ผมได้สร้างโมเดลง่ายๆเพื่อช่วยให้ผมสามารถเห็นภาพสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น ในขณะที่หลายๆอย่างในเกม poker อาจเป็นเรื่องซับซ้อน ผมรู้ว่าโมเดลของผมจำเป็นต้องง่ายพอที่จะใช้งานได้จริง ดังนั้นผมจึงเริ่มมองภาพ poker range ด้วย pie chart
Pie Chart ในเกม Poker
Pie chart เป็นวงกลมง่ายๆที่มีหลายๆชิ้นส่วน (ซึ่งแต่ละชิ้นมีลักษณะเหมือนพาย) แล้วเมื่อเรารวมชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกันก็จะได้ 100% ของวงกลม ไอเดียของผมคือการมองชิ้นส่วนพายทั้งหมดเป็นเหมือน range โดยรวมของคู่ต่อสู้ จากนั้นก็จะแบ่งพายเป็นชิ้นเพื่อแสดงความแข็งของ hand ที่แตกต่างกัน
ลองมาดูตัวอย่างง่ายๆเมื่อเราได้ raise preflop และคู่ต่อสู้ call มาจาก BB และเราได้ HU ไปเจอ flop J43 เราไม่ติดอะไรเลย และคู่ต่อสู้ check มา ทำให้เราต้องตัดสินใจว่าจะ c-bet หรือไม่ โดยเราได้ตั้งสมมติฐานว่าคู่ต่อสู้ call preflop มาด้วย 22-TT, suited connect, AT-AQ, KJ และ AXs ลองมาใส่ทั้งหมดนี้ลงใน flopzilla

เราจะเห็นจากทางด้านขวาว่า 63% ของ range จะเป็น pair หรือ draw ดีๆ แล้วส่วนที่เหลือจะเป็นพวก range อ่อนๆ ถ้าเราใช้สมมติฐานเบื้องต้นว่า Villain จะ fold พวก range อ่อนๆ และจะเล่นต่อด้วย range ที่ดีพอ เราก็สามารถเห็นภาพของ range ได้ด้วย piechart ง่ายๆ

ความหนาแน่นภายใน Range
โมเดล pie chart นั้นเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลัง และยิ่งดีมากขึ้นเมื่อใช้ดูความหนาแน่น สมมุติว่าคู่ต่อสู้ call c-bet ของเรามาในจุดนี้ เราก็สามารถซูมเข้าไปดูใน “call a CB” range มองเป็นภาพ pie chart และดูว่าชิ้นส่วนไหนของ range ที่แข็งมากๆ
ตัวอย่างเช่น เราคิดว่า Villain จะ check-raise set และจะ check-call ด้วย pair และ draw และจาก calling range นั้น จะมี top pair อยู่ 30 combo นั่นหมายความว่าอีก 67 combo จะเป็นพวก pair และ draw ด้วยหลักการนี้…เราสามารถตั้ง 2 คำถามที่สำคัญมากๆกับตัวเองว่า:
1) คู่ต่อสู้จะ fold 67 combo ส่วนใหญ่ให้กับ double barrel หรือไม่?
2) คู่ต่อสู้จะ fold 30 top pair combo ให้กับ triple barrel หรือไม่?

วิธีการนี้จะบังคับให้เราต้องคิดล่วงหน้า เพื่อให้เข้าใจเกม poker ทางเทคนิค และเริ่มมองภาพ range ในอย่างที่มันควรจะเป็น และเมื่อเราสามารถเห็นภาพของ calling range ที่ flop เป็น 1/3 top pair และ 2/3 marginal/draw จะทำให้เรามีความได้เปรียบอย่างมากในเวลาที่ต้องตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ที่ควร barrel ใน street ต่อๆไป
วิธีใช้โมเดลนี้
โมเดลนี้ก็เหมือนกับโมเดลอื่นๆที่ต้องอาศัยการฝึกฝน เราต้องทำความคุ้นเคยกับ combo กับ Flopzilla (หรือ Combonator ใน Mac) และลงรายละเอียดของ range ในรูปแบบที่เราสามารถใช้งานได้จริง
ตอนนี้การมองภาพ range เป็นสิ่งสำคัญ การนับ combo ได้ใกล้เคียงพอนั้นสำคัญมาก แต่การนำมันมาใช้จริงเราจำเป็นต้องเปรียบเทียบกับสิ่งที่จับต้องได้ ต่อเนื่องจากตัวอย่างด้านบน ถ้า turn เป็น …. เราควรจะทำยังไง? เพียงแค่มองผ่านๆเราก็สามารถเห็นได้ว่าคู่ต่อสู้จะมี Jack หรืออะไรที่ดีกว่าอยู่ประมาณ 1/3 ของทุกครั้ง
ข้อแรก เข้าใจ breakeven % ของ bet ถ้าเรา bet full pot ก็หมายความว่าเราจะทำกำไรได้ถ้าคู่ต่อสู้ fold มากกว่า 50% ของทุกครั้ง ถ้าเรา bet 2/3 pot เราก็จะทำกำไรได้ถ้าคู่ต่อสู้ fold มากกว่า 40% ของทุกครั้ง ดังนั้นถ้าเราคิดว่าคู่ต่อสู้จะ fold ทุกอย่างยกเว้น Jackหรืออะไรที่ดีกว่าให้กับ double barrel เราก็สามารถทำกำไรได้ทันทีตราบใดที่เราไม่ bet เกิน pot มากเกินไป ยอดเยี่ยมไปเลย!
สูตรของ BE% นั้นก็ง่ายๆ Risk / (Risk+Reward) = BE% เมื่อ risk = ขนาดของ bet/raise และ reward คือ pot size ก่อนที่เราจะ bet/raise สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ สามารถดูได้จาก วีดีโอเรื่อง breakeven percentage
ถึงแม้เราคิดว่า Villain จะเล่นต่อด้วย Jack หรืออะไรที่ดีกว่า และด้วย fluah draw เราก็ยังได้ fold มากกว่าครึ่งเล็กน้อย ซึ่งดูเป็นโอกาส double barrel ที่ดีสำหรับผมเลยนะ!
เราสามารถทดสอบทางคณิตศาสตร์ได้ทันที
ตัวอย่าง Real Hand Reading
ลองมารีวิวสถานการณ์นี้กัน คู่ต่อสู้ open ใน MP2 และเรา 3bet จาก button ด้วย Q♥ 9♥ เราคิดว่าเขาน่าจะ open ด้วย 22+/AT+/KJ+/SC และนั่นทำให้มีโอกาสตอบโต้ 3bet แอคชั่นของเราด้วย 99+/AJ+/KQ ในจุดนี้เราสามารถสร้าง pie chart ได้ทันทีเพื่อหาว่าชิ้นส่วนของการ fold นั้นใหญ่แค่ไหน

เราสามารถทดสอบทางคณิตศาสตร์เพื่อดูว่าเราจะได้ fold จากการ 3bet มากแค่ไหน
ในการเล่น…คู่ต่อสู้ได้ call 3bet ของเรามา เราสามารถซูมเข้าไปที่ 99+/AJ+/KQ range และถามตัวเองว่า “โอเค hand ไหนของพวกนี้ที่จะ 4bet ได้?” เนื่องจากคู่ต่อสู้แค่ call มา เราสามารถถอด hand ที่คู่ต่อสู้น่าจะ re-raise ไปได้ ดังนั้นถ้าเขาจะ 4bet ด้วย QQ+/AK เราก็จะเห็นว่า calling range จะเป็นเพียง 99-JJ, AQ, AJ, KQ ค่อนข้างทรงพลังมากเลยใช่ไม๊ล่ะ?

ที่นี้เมื่อ flop เป็น T84 เราสามารถดูที่ range ของคู่ต่อสู้ และเพียงแค่มองผ่าน combo
- 99: 3 combos
- TT: 3 combos
- JJ: 6 combos
- AQ: 12 combo
- AK: 16 combos
- KQ: 12 combos
จากจุดนี้เราก็สังเกตได้แล้วว่า overcard เป็นส่วนที่หนาแน่นใน range ของ villain ดังนั้นถ้าผู้ต่อสู้ check มา และเรา bet ไป เราจะสามารถได้ fold มากหรือไม่? ผมคิดว่าได้…ถ้าเจอกับผู้เล่นที่ไม่ float OOP!
วิธีฝึก Hand Reading
ไม่ต้องกังวลว่าโมเดลนี้ดูจะซับซ้อนเกินไปในตอนนี้ เป้าหมายคือการฝึกฝนให้มากพอจนเรารู้สึกคุ้นเคยกับมัน และเมื่อถึงเวลานั้น เราจะเห็นโอกาสในการ bluff…โอกาสในการ value bet thiner…และสถานการณ์ที่สามารถเพิ่มความ aggressive ได้ง่ายขึ้นอีกล้านเท่า
Source:
How To Think About Ranges (Now With Pie!)
https://www.splitsuit.com/poker-ranges-in-pie-charts