วิธีการเล่น 2 pair บน flop ในแคชเกม

ในที่สุด เราก็ flop ติด 2 pair ซักที หลักจากรอมานาน!

เราอาจจะกำลังยิ้มอยู่ในใจ คิดว่าจะกิน pot นี้ยังไงให้เยอะดี แต่จริงๆแล้วเราควรเล่นยังไง เพื่อให้ชนะ pot ได้ใหญ่ที่สุด?

นั้นคือเรื่องที่ผมกำลังจะพูดถึงในบทความนี้ เพราะอย่างที่เราเห็นว่า บางทีเราก็ไม่ควร fast play กับ 2 pair เสมอไป

ไม่ใช่ทุก 2 pair จะมีค่าเท่ากันเสมอไป

2 pair บาง hand จะมีค่ามากกว่า hand อื่นๆ value ที่แท้จริงของ 2 pair hand จะแบ่งได้ตามปัจจัย 3 อย่างนี้

  1. flop texture
  2. ความสอดคล้องระหว่าง flop กับ range ของคู่แข่ง
  3. 2 pair hand อะไรที่เราถือ

มาพูดถึงเรื่อง flop texture กับความสอดคล้องของ flop กับ range ของคู่แข่งกันก่อน ให้รู้ไว้ว่า แต่ละ flop จะมี nut และ hand ที่เกือบจะเป็น nut ที่เป็นไปได้ทั้งหมดอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่ละ board ก็จะมีเพดานความใหญ่ของ hand ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น :

  • บาง board hand ที่ใหญ่ที่สุดอาจจะเป็น set (เช่น K♦ 8♥ 5♣ )
  • บาง board อาจจะมีโอกาสติด straight (เช่น 9♣ 7♦ 5♥ )
  • เพดานความใหญ่อาจจะเป็น flush สำหรับ monotone board (เช่น 8♠ 6♠ 3♠ )
  • เพดานความใหญ่อาจจะสูงได้ถึง straight flush (เช่น 9♥ 8♥ 7♥ ) หรือแม้แต่ royal flush ( Q♠ J♠ T♠ )

ลองนึกถึง value ของ 2 pair ในแต่ละ board เหล่านั้นดู 2 pair อาจจะค่อนข้างดีมากใน flop อย่าง K♦ 8♥ 5♣ แต่ความแข็งแกร่งของ 2 pair จะลดลงพอสมควรใน flop 8♠ 6♠ 3♠ และยิ่งลดลงอย่างมากใน flop 9♥ 8♥ 7♥ มันจึงค่อนข้างชัดเจนว่า value ของ 2 pair จะต่างกันมากใน flop texture แต่ละแบบ 

โน้ตไว้ว่า hand ที่ใหญ่ที่สุดที่จะเป็นไปได้ใน board หนึ่งๆนั้น อาจจะไม่ใช่ nut เสมอไป ตัวอย่างเช่น ถ้าเรา open raise จาก early position แล้วเจอ middle position 3bet แล้วเรา call flop ออกมาเป็น 7♠ 5♠ 3♥ เพดานความใหญ่สูงสุดที่น่าจะเป็นไปได้ อาจจะเป็น set มากกว่า straight เพราะไม่น่าจะมีใครมี 64 ที่ทำให้เป็น nut อยู่ใน range ของแต่ละคนเลย

และอย่างสุดท้ายก็คือ เราถือ 2 pair hand อะไรอยู่ในมือ แม้การที่เราถือ 98 บน flop 9-8-4 กับการที่เราถือ 5-4 บน flop K-5-4 จะทำให้เราติด 2 pair เหมือนกัน แต่ก็ควรจะมีวิธีการเล่นที่ต่างกัน แม้จะเป็น 2 pair hand เหมือนกันก็ตาม

มาลองดูตัวอย่างเพิ่มเติม เพื่อที่เราจได้เข้าใจว่า 2 pair hand ที่แตกต่างกันควรจะเล่นแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุดกัน

การเล่นเมื่อเป็น Big Blind Defend

อย่างแรกที่เราควรทำเมื่อ flop 2 pair คือการวิเคราะห์ flop เพื่อประเมินว่าเพดานความใหญ่สูงสุดที่จะเป็นไปได้คืออะไร

เราควรเล่น 2 pair hand ให้ค่อนข้างระมัดระวัง บน board ที่มีโอกาสมีเพดานความใหญ่สูงๆ ถ้า board ที่เพดานความใหญ่ไม่สูงมากนัก เราถึงจะเล่นให้ดุดันขึ้นได้

ลองประเมินตัวอย่าง 2 อย่างนี้ดู :

hand 8♦ 6♦ บน flop 8♣ 6♣ 3♥ ถือว่าแข็งแกร่งมาก เพราะมีความแข็งแกร่งห่างจากเพดานความใหญ่สูงสุดแค่ระดับเดียว (คือ set)

hand เรามีไพ่ที่ block set 2 ใน 3 ใบ แถมยังเป็น top 2 pair เราจึงควร raise หรือ check-raise ให้บ่อยกับ hand แบบนี้ เพื่อเรียก value และสร้าง pot ให้ได้มากที่สุด

hand T♠ 8♠ บน flop J♥ T♣ 8♣ ถือเป็น 2 pair ที่ค่อนข้างอ่อนแอ เพราะมีเพดานความใหญ่สูงสุดค่อนข้างสูงกว่ามาก คือ straight   

คู่แข่งเรามีโอกาสที่จะติด straight ได้ทั้ง 2 แบบ (ถือ Q9 หรือ 97) ขึ้นอยู่กับวิธีการเล่น preflop ของเขา ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรามีแค่ bottom 2 pair เราจึงควร call หรือ check-call มากกว่ากับ hand นี้ โดยเฉพาะเมื่อเรามี deep stack อยู่

การเล่นเมื่อเป็น preflop aggressor (คนที่ raise/reraise ขึ้นมาก่อน) ที่ IP (In Position)

คำแนะนำง่ายๆคือให้ bet เสมอ เมื่อคู่แข่ง check มาให้

เราไม่ควรจะเสีย value จาก 2 pair จากการพยายามหลอกล่อด้วยวิธีการเล่นแบบ slow play เท่าไหร่

ในทางทฤษฏีแล้ว เราควรจะ check back ในบาง spot บ้างไหม? แน่นอน แต่การเล่นแบบนี้จะทำให้เราได้กำไรมากขึ้นไหม ในทางปฏิบัติ? ก็อาจจะไม่ พยายามเล่นให้แข็งแกร่งและ รีบกิน pot ให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ไว้ก่อนจะดีกว่า 

สำหรับ single raise pot และ 3bet pot ผมแนะนำให้เล่นดังนี้ :

การเล่นเมื่อเป็น preflop aggressor ที่ OOP (Out of Position)

เรื่องตำแหน่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลทำให้ต้องคิดวิเคราะห์และมีการเล่นที่ต่างกัน

ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเล่นจาก early position เจอกับ cutoff ที่ cold-call มา เราควรจะ check 2 pair ให้บ่อยขึ้น เพราะเราไม่มี range advantage และ/หรือ nut advantage ใน flop texture หลายๆแบบ เราจึงต้องปกป้อง range ของเรา ด้วยการเล่นแบบระมัดระวัง กับ hand ที่ strong (ร่วมกับ hand ที่ weak เพื่อให้ range ของเราไม่อ่อนแอจนเกินไป)

หรือถ้าเราเล่นจากตำแหน่ง SB เจอกับ BB จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะ range ของ BB จะกว้างมากๆ ทำให้ range จะค่อนข้าง weak ใน flop ส่วนใหญ่ แปลว่า โดยเฉลี่ยแล้ว เราควรจะ bet เมื่อมี 2 pair มากกว่า

การเล่น Multiway (เจอกับผู้เล่นหลายคน)

สถานการณ์นี้สำคัญมากสำหรับผู้เล่นไลฟ์ จำไว้ว่า เราควรใช้คำแนะนำนี้อย่างระมัดระวัง เพราะวิธีการเล่น multiway ที่ถูกต้อง 100% นั้นไม่มี นอกจากนั้น กลยุทธ์การเล่นแบบ cold-call ของแต่ละคนก็ต่างกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีแผนการเล่นที่แน่นอนที่ได้ผลเมื่อต้องเล่นกับคนอื่นทุกๆคน

ผมแนะนำว่า เราควรเล่นแบบระมัดระวังกับ 2 pair hand ใน multiway pot ไว้ก่อน ในฐานะที่เป็น preflop aggressor เราควรเลือกที่จะ check ไว้ก่อน แม้จะเจอ board ที่เหมาะจะ bet มากกว่าก็ตาม

เหตุผลที่เราควรเล่นแบบระมัดระวังมากกว่า เมื่อเจอกับผู้เล่นหลายคน ก็เพราะ :

  • มีโอกาสที่บางคนอาจจะมี hand ที่ strong มากๆเพิ่มขึ้น
  • ผู้เล่นมีภาระที่จะต้อง defend มากขึ้น (แปลว่า คู่แข่งของเราถูกบังคับให้ต้อง call กับ range ที่ tight มากขึ้น เมื่อโดน bet ใส่ เพราะเขาต้องรับผิดชอบการเล่นต่อแทนที่คนอื่นๆ (เป็น concept ของ minimum defend frequency)

สรุป

โปรดจำคำแนะนำในบทความนี้เอาไว้ และระวังอย่าเสี่ยงกับ stack จำนวนมากเมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่คู่แข่งมีโอกาสติด straight หรือ flush! 

https://upswingpoker.com/flopped-two-pair/