วิธีการอ่านบอร์ด

เรื่องสุดแสนจะเบสิคที่ผู้เล่นหลายคนมองข้ามไป.....

โป๊กเกอร์เป็นเกมที่เรามีข้อมูลไม่ครบถ้วน เราจะต้องมองหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา จาก rangeไพ่ ดูแพทเทิร์นการเล่น metagame และยังต้องค้นหาสิ่งที่ตาเรามองไม่เห็นอีกต่างหาก น่าเสียดายที่พอเรามีแนวความคิดแบบนี้ปุ๊ป เรื่องเบสิคพื้นฐานก็มักจะถูกลืมเลือนไป เช่นสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าอย่าง ไพ่บนบอร์ด

ไพ่บนบอร์ด มักจะได้รับความสนใจน้อยกว่าความเป็นจริงและทำให้เราได้รับข้อมูลจากบอร์ดน้อยเกินไปมาก ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาย้อนไปตอบคำถามสุดคลาสสิคอย่าง “อ่านบอร์ดยังไง?” กัน

ประเภทของบอร์ด

บอร์ด rainbow
ตัวอย่างบอร์ด K♥  7♣  2♦
บอร์ดสุดแสนจะคลาสสิค ไม่มีการรอ flush อย่างแน่นอนในบอร์ดลักษะณะนี้ ทำให้ทั้งเราและคู่ต่อสู้สูญเสียโอกาสที่จะเล่น aggressive มากขึ้นหรือความสามารถในการ call ตามการเดิมพันสูงๆ เพราะไพ่ที่จะสามารถเล่นได้ในบอร์ดลักษณะนี้นั้นแคบมาก และการเล่นในบอร์ดแบบนี้มักจะจบที่การ c-bet และหมอบ

บอร์ด two tone
ตัวอย่างบอร์ด 9♠  7♠  3♣
บอร์ดแบบนี้จะทำให้การเล่นมีทริคมากขึ้นกว่าเดิม ไพ่ที่สามารถ call ตามมาได้ก็มีความเป็นไปได้มากขึ้นมากกว่าบอร์ด rainbow นอกจากนี้ประสิทธิภาพของการ c-bet จะเพิ่มสูงขึ้น หรือการ check/raise จะถูกนำมาใช้บนบอร์ดแบบนี้มากยิ่งขึ้น

บอร์ด monotone
ตัวอย่างบอร์ด A♠  K♠  8♠
บอร์ดลักษณะนี้จะทำให้ความแข็งแกร่งแก่ผู้เล่นที่ถือไพ่คู่สูง คู่กลาง หรือแม้กระทั่งสองคู่หรือ set ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะลักษณะบอร์ดแบบนี้ง่ายต่อการติด flush มากๆ และถึงแม้เราจะติด flush บนบอร์ดก็อาจจะไม่สามารถทำกำไรได้มากนักในสถานการณ์นี้ เพราะผู้เล่นคนอื่นจะคาดเดาได้ว่าเราอาจจะติด flush นั้นเอง

บอร์ดคู่
ตัวอย่างบอร์ด J♥  J♦  6♣
บอร์ดแบบนี้จะคล้ายๆบอร์ด rainbow เพราะ range ไพ่ที่จะสามารถเล่น aggressive ได้หรือสามารถไปต่อได้แคบลงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นที่เล่นตามตำหรับตำรามักจะแสดงท่าทางบางอย่างออกมาชัดเจนว่าติดอะไรบนบอร์ดหรือไม่

ไพ่บนบอร์ดและ implied odds

                ไพ่บนบอร์ดถือว่าเป็นส่วนสำคัญเวลาที่เราจะคำนวณหา implied odds ทีเดียว

                ถ้าเราถือ A♥ Q♥ มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่เราจะสร้างกำไรเยอะๆจากบอร์ด K♥ 7♥ 2♥ 4♥ 5♦ เพราะตอนนี้บนบอร์ดกัน second nut ไปแล้วด้วยไพ่ K♥ และยังทำให้ผู้เล่นที่ติด straight ถอดใจไปได้เช่นกันเพราะโอกาสที่ผู้เล่นคนอื่นจะติด flush มีสูงมาก(ใช้ เพียงใบเดียว) แต่ถ้าบอร์ดออกเป็น 7♥ 3♥ 2♥ 9♣ 8♣ บอร์ดแบบนี้เราสามารถสร้างกำไรได้มากกว่าบอร์ดแรก เพราะมันทำให้คู่ต่อสู้เดาไพ่ในมือเราได้ยากขึ้น เนื่องจากมีไพ่แข็งๆมากมายที่สามารถเป็นไปได้ในบอร์ดนี้ (99,88,77, JJ+, 56s, JT, K-high หรือ flush ต่างๆ) บอร์ดที่มีทางออกน้อยๆจะทำให้ range ไพ่แคบลงและทำให้คู่ต่อสู้คาดเดาไพ่ได้ง่ายขึ้น อาจจะทำให้เราไม่สามารถเดิมพันเพื่อสร้างมูลค่าให้กับไพ่ในมือได้มากเท่าที่ควร และยังทำให้คู่ต่อสู้ของเราไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงเดิมพันอีกด้วยเพราะรู้สึกว่าความเป็นไปได้ที่จะชนะนั้นมีน้อยมากและไม่คุ้มค่าสุดๆ

Blockers

                เมื่อเราพูดถึง blockers เรากำลังพูดถึงความน่าจะเป็นที่คู่ต่อสู้ของเราจะถือไพ่ใบนั้นลดลง เนื่องจากเรามีไพ่ใบนั้นอยู่ในมือ แต่สิ่งที่เรามักจะลืมนับไปก็คือบอร์ดที่ออกมาดูเหมือนจะดี ก็อาจจะกำลังบล็อคไพ่ของเราอยู่ด้วย ตัวอย่างที่จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนเลยก็คือสถานการณ์ที่บอร์ดออกมาแบบสามารถรอ flush ได้ แต่กลับมี A หน้าไพ่นั้นหล่นมาอยู่ในบอร์ดด้วย

                บอร์ด A♣ 2♥ 5♣ สามารถบล็อคความน่าจะเป็นที่คู่ต่อสู้ของเราจะถือไพ่ไว้จำนวนนึง อย่างน้อยความน่าจะเป็นที่จะถือ AA ก็น้อยลง อาจจะเป็น Ax แทนมากกว่า บางครั้งบอร์ดที่ออกสามารถลดความน่าจะเป็นต่างๆลงไปได้เยอะมากๆ อย่างเช่นถ้าผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง UTG เปิดการเดิมพันบนบอร์ด J♣ 2♥ 5♣ โอกาสที่เขาจะถือไพ่สูง หน้าไพ่เดียวกันอย่าง A♣ เพื่อรอ flush นั้นมีสูงมาก ถ้าเทียบกับบอร์ด  A♣ 2♥ 5♣ ไพ่ในมือเขาไม่น่าจะรอ flush อยู่

                บอร์ดคู่เป็นบอร์ดที่สามารถบล็อคไพ่ได้มากพอสมควร การติด trip บนบอร์ดก็ยากแล้ว การมีคู่เพื่อติด quads ก็ยากเข้าไปอีก หรือความน่าจะเป็นที่จะติดคู่กับไพ่อีกใบนึงที่เหลือก็ลดน้อยลง

                blocker ในรอบ turn สามารถเผยไพ่ที่ผู้เล่นบางคนพยายามปิดบังอยู่ได้ด้วย อย่างเช่น A อีกตัวมาตกในรอบ turn ทำให้ตอนนี้มี A บนบอร์ดอยู่สองใบแล้ว ผู้เล่นที่ c-bet มาในรอบ flop จะต้องเล่นให้ช้าลงเพราะไพ่ที่เขาพยายามแสดงออกมาว่าเขาถือมันอยู่นะ มันมาออกบนบอร์ดเพิ่มอีกใบนึง ในทางเดียวกันถ้าไพ่ที่สูงเป็นอันดับสองใน flop ไปติดคู่ในรอบ turn มันกำลังบอกเราว่าผู้เล่นที่ call เข้ามาในรอบ flop กำลังรอสีหรือเรียงมากกว่าการรอติดคู่ในมือ

ความแข็งแกร่งของไพ่ในมือ

                หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบมากๆในผู้เล่นที่มาเล่นแบบชั่วครู่ชั่วคร่าวหรือแม้กระทั่งผู้เล่นที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากนักก็คือ คิดว่าไพ่ที่ตัวเองถืออยู่นั้นสูงมากแล้ว โดยที่ไม่สนใจไพ่บนบอร์ดอื่นๆ แน่นอนว่าการติดคู่สูงบนบอร์ด A♣ 4♠ 9♦ ด้วยไพ่ A♥ K♥ เป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าการติดคู่สูงบนบอร์ด 9♠ 7♠ 6♥ ด้วยไพ่ J♥ 9♣ ถึงแม้ว่าทั้งสองบอร์ดเราจะติดคู่สูงที่สุดเหมือนกัน แต่ถ้าดูจริงๆความแข็งแกร่งของทั้งสองบอร์ดนั้นไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไพ่บนบอร์ดก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เป็นตัวแปรนึงที่จะบอกว่าไพ่ที่เราถืออยู่นั้นแข็งแกร่งจริงๆมากน้อยเพียงใด

                ลองมาดูตัวอย่างอื่นๆกันเพิ่ม บอร์ดออก 9♥ 3♦ 2♣ เราถือ 9♠ 9♣ ติด set อยู่ ตอนนี้เรากำลังถือไพ่ที่ดีที่สุดอยู่จริงๆ โอกาสที่จะเสียนั้นน้อยมาก แต่ถ้าบนบอร์ดเป็น 9♥ 8♥ 4♦ เราก็ยังติด set สูงสุดอยู่ แต่อาจจะเล่นยากขึ้นเพราะอาจจะมีผู้เล่นคนอื่นรอ flush อยู่ หรือบนบอร์ด 9♦ J♦ T♦ ตอนนี้เรามี set ก็จริง แต่ไม่ได้เป็นไพ่ที่ดีที่สุดอีกต่อไป จุดยืนตรงนี้อาจจะทำให้เราปวดหัวได้ เพราะผู้เล่นคนอื่นอาจจะมีไพ่ที่ดีกว่าเราอยู่ในมือ

                การให้ความสำคัญกับไพ่บนบอร์ดอาจจะเป็นสิ่งแรกๆที่เราควรจะคำนึงถึง สิ่งเล็กๆนี้อาจจะเป็นตัวตัดสิน แยกแยะระหว่างผู้เล่นมือสมัครเล่นออกจากผู้เล่นที่มีทักษะ และยังถือว่าเป็นทักษะที่ควรค่าแก่การเรียนรู้เพื่อการเล่นโป๊กเกอร์ตลอดเส้นทางชีวิตของคุณ

Source : https://www.pokervip.com/strategy-articles/texas-hold-em-no-limit-advanced/how-to-read-board-texture