คำแนะนำในการเล่นแคชเกม 10 ข้อ ที่จะช่วยให้คุณเหนือกว่าทุกคนบนโต๊ะ

กำลังวางแผนจะเล่นแคชเกมอยู่เร็วๆนี้รึเปล่าครับ? คุณโชคดีแล้ว!

วันนี้เรามีคำแนะนำในเชิงพื้นฐานการเล่น 10 ข้อ ที่จะช่วยให้เราเหนือกว่าคนอื่นในการแข่งแคชเกม มานำเสนอ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการ bluff ที่ flop วิธีการเล่นเมื่อเจอคน limp และอีกมากมาย

และอย่าลืมที่จะตามอ่านจนถึงช่วงท้าย เราจะมีโบนัสคลิปเสียง 2 คลิปจากผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์โป๊กเกอร์อย่าง Doug Polk และ Ryan Fee มาให้ฟังกัน

แต่ก่อนอื่น ขออธิบายความหมายของแคชเกมกันก่อน เผื่อว่าใครที่อ่านอยากจะตามให้ทันได้เร็วๆ

แคชเกม คืออะไร?

แคชเกม คือรูปแบบหนึ่งของเกมโป๊กเกอร์ ที่ใช้จำนวนชิพแทนค่าของเงิน และผู้เล่นสามารถเข้าออกจากการเล่นได้ตามต้องการ ต่างจากทัวร์นาเมนต์ที่จำนวนชิพไม่ได้แทนค่าเงินโดยตรง และเงินรางวัลที่ได้จะจ่ายให้ผู้เล่นตามจำนวนที่กำหนด ขึ้นอยู่ตำแหน่งที่จบในทัวร์นาเมนต์นั้นๆ

คำแนะนำที่ 1 สำหรับแคชเกม : หลีกเลี่ยงการทำให้ pot ใหญ่ด้วยแฮนด์กลางๆ แต่ให้ใช้เพื่อจับ bluff เป็นหลัก

แฮนด์กลางๆ มักจะเป็นแฮนด์ที่เล่นได้ยาก เมื่อถือแฮนด์เหล่านี้ เราควรจะ check เป็นหลัก เพราะมันเล่นในดีใน pot เล็กที่ใช้เป็น bluff-catcher

ดังนั้นแฮนด์กลางๆเหล่านี้มักจะเป็นแฮนด์ที่เราจะใช้จับ bluff เป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น :

• J♦ T♦ บน flop J♠ 8♠ 6♥ 
• A♠ 4♠ บน flop A♣ 8♠ 5♣
• 8♥ 7♥ บน flop K♠ 8♣ 4♥

แม้แฮนด์พวกนี้จะค่อนข้างแข็ง แต่มันจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ถ้ามีการ bet และ/หรือ raise ต่อเนื่องหลายครั้งเพิ่มเข้าไปใน pot การ check อย่างน้อย 1 street (มักจะเป็นที่ flop) จึงเป็นแนวทางที่ดีกับการเล่นแฮนด์เหล่านี้

ทีนี้ก็ จำไว้ว่าถ้าคู่แข่งของเราแสดงความอ่อนแอโดยการ check back หรือ check ให้เรา 2 ครั้งติด value ของแฮนด์เหล่านี้ก็จะสูงขึ้น เพราะคู่แข่งมีแนวโน้มจะ bet กับแฮนด์ที่ strong มากกว่าแฮนด์พวกนี้ เราควรเริ่ม bet เพื่อจะเรียก value เพิ่มได้บ้าง

คำแนะนำที่ 2 สำหรับแคชเกม : ให้ bet เป็นส่วนใหญ่ถ้าเรามี strong hand

ถ้าเรามี strong top pair หรือดีกว่า เราควร bet เป็นส่วนใหญ่ แฮนด์เหล่านี้อยากปั้น pot ให้ใหญ่ขึ้น เพราะมันมีโอกาสสูงที่จะชนะได้

แฮนด์เหล่านี้คือตัวอย่างที่อยู่ใน value betting range เช่น :

• A♣ K♦ บน flop K♥ T♣ 5♦
• K♠ T♣ บน flop T♥ 8♦ 6♣
• Q♦ Q♠ บน flop J♣ T♥ 7♦

โน้ตว่า เราอาจจะต้องหาแฮนด์ที่สามารถ triple barrel (bet ต่อเนื่อง 3 street) ได้ในการรัน board ส่วนใหญ่ด้วย

คำแนะนำที่ 3 สำหรับแคชเกม : bluff ที่ flop กับแฮนด์ที่มี backdoor ที่ดี

เมื่อเรามีแฮนด์ที่มี backdoor (runner-runner) ที่ดี เราควรเอามา bet เป็น bluff  เราควรจะเลือกแฮนด์ที่สามารถกลายเป็น draw ที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสติด flush หรือ straight ที่ river ได้

แฮนด์ประเภทนี้เป็น bluff ที่ดี เพราะมันสามารถติดแฮนด์ที่ strong ที่สังเกตได้ยาก ตัวอย่างเช่น :

• 7♠ 6♠ บน flop A♣ 9♠ 3♣ – สามารถกลายเป็น strong draw ได้ถ้า 5, 8 หรือโพธิ์ดำตก และยังกลายเป็น gutshot ได้ ถ้า 4 หรือ T ตก

• J♦ 8♦ บน flop Q♦ 7♠ 5♠ – สามารถกลายเป็น strong draw ได้ถ้า 6 หรือ ข้าวหลามตัดตก และยังกลายเป็น gutshot ได้ ถ้า 4, 9, หรือ T ตก

• Q♣ 6♣ บน flop K♥ 7♥ 5♣ – สามารถกลายเป็น strong draw ได้ถ้า 4, 8, หรือดอกจิกตก และยังกลายเป็น gutshot ได้ ถ้า 3 หรือ 9 ตก

โน้ตว่า แฮนด์เหล่านี้จะยิงต่อที่ turn ถ้าเราพัฒนามามี draw บางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้น

คำแนะนำที่ 4 สำหรับแคชเกม : เราควรจะ 3-bet เกือบตลอดเมื่อเรามี premium hand

หลีกเลี่ยงการ trap ตอน preflop ถ้าเรามี QQ+ และ AK premium hand พวกนี้เล่นได้ดีใน pot ขนาดใหญ่ ดังนั้นเราจึงควรรีบปั้น pot ใหญ่ให้เร็วที่สุด โดยการ 3-bet

แต่เราก็ควรจะบาลานซ์ 3-bet range ของเราด้วยแฮนด์ที่เป็น bluff อย่างเช่น A2s–A5s และ suited connector เอาไว้บ้าง ตัวอย่าง range ดังกล่าว เช่น ตามตารางในภาพนี้ :

โน้ตว่า นี่คือ range ตัวอย่างของ early position เจอกับ early position 3-bet range ถ้าเจอกับ late position เราอาจจะควรขยาย 3-bet range ให้กว้างขึ้น โดยเพิ่มทั้ง value และ bluff เข้าไปให้มากขึ้น

ถ้าคู่แข่งคนใดคนหนึ่ง raise บ่อยมากๆตอน preflop และไม่คอย fold เมื่อเจอ 3-bet เราควรจะปรับ 3-bet range ของเราอย่างมาก ด้วยการเพิ่มสัดส่วนที่เป็น value เข้าไปให้มากขึ้น range ประมาณนี้น่าจะช่วยให้เราสู้กับคู่แข่งที่ loose ได้ดีขึ้น :

สังเกตว่า range นี้จะตัด bluff ที่เคยมีอยู่ก่อนออกไป นั่นก็เพราะมันบังคับให้คู่แข่ง fold ตอน preflop ไม่ได้ แต่มักจะถูก dominate จากหลายแฮนด์ที่คู่แข่งน่าจะเล่น (เช่น K7s, Q7s, A7s, ATo, ฯลฯ) และสังเกตว่า value range ที่กว้างขึ้นตอนนี้จะรวมแฮนด์อย่าง AJo, AQo, ATs, KQ, TT, และ JJ เข้ามาด้วย ซึ่งเราอาจจะสามารถ 3-bet ได้กว้างขึ้นจากนี้ด้วย QJs และ ATo ถ้าคู่แข่งของเรายิ่ง call มาได้กว้างขึ้นกว่าปกติ

ในทางตรงกันข้าม ถ้าคู่แข่งของเรา fold 3-bet บ่อยมากๆ เราก็ควรจะปรับในทางตรงข้าม คือ 3-bet ทั้ง bluff และ premium value hand ให้มากขึ้น

คำแนะนำที่ 5 สำหรับแคชเกม : check ที่ flop บ่อยๆ ใน multiway pot

เราต้องเลือกแฮนด์มา bet ที่ flop ใน multiway pot ให้ดีขึ้น ยิ่งมีผู้เล่นมาเห็น flop มากขึ้นเท่าไหร่ แฮนด์ที่เราจะ check จะต้องยิ่ง strong มากขึ้นเท่านั้น นั่นก็เพราะโอกาสที่คู่แข่งคนใดคนหนึ่งจะมีตั้งแต่ 2 pair ขึ้นไป จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ผลที่ตามมา เราจึงควร :

• check กับ strong top-pair และ overpair ถ้าใน pot มีคนเล่นตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป เพราะแฮนด์เหล่านี้จะมี equity ลดลงอย่างมากใน 4-way pot เทียบกับ heads-up pot

• bet เล็ก (1/4–1/3 pot) เมื่อเรามี 2 pair+ หรือ draw ที่ strong มากๆ การ bet ใหญ่ ทำให้เสี่ยงที่จะไปไล่คู่แข่ง ยกเว้นแต่แฮนด์ที่ strong กว่าเรา 

• fold กับพวก bluff-catcher ให้มากขึ้น แม้กระทั่งเจอแค่ bet เล็กๆก็ตาม เพราะโอกาสที่คู่จะ bluff มีน้อยลงในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยแบบนี้

คำแนะนำที่ 6 สำหรับแคชเกม : bet ให้บ่อยขึ้นเมื่อเล่น heads-up โดยที่เรา in position

ใน heads-up pot เราควรจะยิงใส่ pot ให้บ่อยขึ้น เมื่อเรา in position และเมื่อคู่แข่งแสดงความอ่อนแอออกมาด้วยการ check แทนที่จะ c-bet การ bet แบบนี้เรียกว่าการ ‘float bet’

bluff แบบนี้มักจะได้ผลเมื่อเจอกับคู่แข่งที่อ่อนกว่า เพราะพวกเขามักจะไม่ค่อยปกป้อง checking range ของตัวเองเท่าไหร่ โดยเลือกที่จะ check กับ weak hand เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จงระมัดระวังกับการ float เมื่อเจอกับผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ที่สามารถ check กับแฮนด์ดีๆได้ ถ้ากลยุทธ์นี้ไม่ได้ผล มันอาจจะจบลงด้วยการทำให้เราเสียเงินมากเกินไป

คำแนะนำที่ 7 สำหรับแคชเกม : check-raise ที่ flop กับแฮนด์ที่ strong มากๆ หลังจาก defend ที่ BB

หลังจากที่เรา defend ที่ BB เมื่อเจอกับการ steal จากผู้เล่นที่ in position เราควรจะ check-raise กับ hand ที่ strong ที่สุดของเราให้บ่อยขึ้น เพื่อสร้าง pot ให้ใหญ่ขึ้น ให้เรามีโอกาสได้ all-in ภายในช่วง river

แต่อย่าลืมที่จะต้องคอยสังเกม board texture เมื่อเรา check-raise เอาไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น bottom 2 pair สมควรจะ check-raise บน flop 9♥ 5♠ 4♣ แต่แฮนด์เดียวกัน อาจจะแค่ check-call บน board ที่มีโอกาสมี flush และ straight อย่างเช่น flop 6♥ 5♣ 4♠ หรือ 9♥ 5♥ 4♥ เป็นต้น 

คำแนะนำที่ 8 สำหรับแคชเกม : Aหมั่นเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเล่นใน session หรือแข่ง tournament

นี่เป็นคำแนะนำในเชิงจิตวิทยา แต่อย่างน้อยมันก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าในเชิงกลยุทธ์ตามที่ได้แนะนำไปในข้ออื่นๆ 

คุณเคยเห็นนักกีฬาอย่าง LeBron James ลงสนามโดยไม่ต้องวอร์มอัพไหมล่ะ? พนันได้ว่าถ้าคุณไปถามนักกีฬามืออาชีพทุกคน พวกเขาต้องตอบว่าจะต้องวอร์มอัพก่อนทุกครั้ง 100% อย่างแน่นอน

ทีนี้ คุณอาจจะคิดว่า โป๊กเกอรืไม่ใช่กีฬาไง แล้วการ “วอร์มอัพ” ในเกมนี้คือต้องทำยังไง?’ผมกำลังพูดถึงการวอร์มอัพทางจิตใจ ให้เตรียมตัวที่จะรับความอดทนทางจิตใจ ในการเล่นในแต่ละ session หรือ tournament ไว้ก่อนล่วงหน้า

แล้วการวอร์มอัพแบบนี้มันจะช่วยอะไร? ซึ่งคำตอบอาจจะมีความสัมพันธ์กับความผิดพลาดของกลยุทธ์ที่เราใช้ และเชิงจิตวิทยาอีกด้วย

ไล่หาข้อผิดพลาดที่เรามักทำบ่อยๆ (เช่น เล่นตอน preflop loose เกินไป, c-bet บ่อยเกินไป, tilt ง่าย ฯลฯ) และจดโน้ตว่าควรแก้ข้อผิดพลาดเหล่านั้นยังไง มันจะช่วยให้สมาธิเราดีขึ้นในการจดจ่อกับบางจุดเพื่อไม่ให้เราทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีก

บ่อยครั้งที่ข้อผิดพลาดเหล่านั้นจะลดลงด้วยการใช้วิธีนี้ แต่ปัจจุบันเกมก็ซับซ้อนขึ้น ดังนั้น จึงมีบางอย่างให้เราได้ทบทวนอยู่ตลอด จงพยายามอัพเดตกิจวัตรในการวอร์มอัพแบบนี้ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

สำหรับคำแนะนำในการวอร์มอัพก่อน session แบบมือโปร ศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความ 3 ขั้นตอนของกิจวัตรการเตรียมตัวก่อนเล่น

คำแนะนำที่ 9 สำหรับแคชเกม : ปรับความคิดให้ดีเมื่อเจอ session ที่เราเสียเยอะๆ

ไม่มีใครอยากเป็นผู้แพ้ โดยเฉพาะเมื่อเรามีใบเสร็จค่าใช้จ่าย แต่โชคร้ายที่ไม่ว่าเราจะเล่นโป๊กเกอร์เก่งแค่ไหน บางครั้งก็มีบาง session ที่เราต้องแพ้บ้าง ซึ่งเราก็ต้องจัดการกับมันให้ถูกวิธีเช่นกัน

นี่เป็นจุดที่น่าสนใจของการเล่นแคชเกม ซึ่งเราสามารถหยุดเล่นได้ตลอดเวลา Iถ้าเราเลิกเล่นบ่อยเกินไป หรือเร็วเกินไป เราอาจเจอปัญหาที่เกิดจากจำนวนการเล่นได้ ถ้าเราพยายามไล่ล่ากำไรกลับคืนมา เราจะต้องจมอยู่กับ session ที่น่าหงุดหงิดเป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจจะจบลงด้วยการติดลบมากกว่าเดิมโดยไม่จำเป็น

ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรจะหยุด หรือควรจะสู้ต่อดี?

Doug Polk ได้ให้คำถาม 3 ข้อเอาไว้ถามตัวเองในสถานการณ์แบบนี้ ครั้งหน้าที่เรามีปัญหาในการเล่นแคชเกม เราอาจจะลองใช้มันถามตัวเราเองดูว่า : 

1.  เรายังเล่นได้ดีอยู่ไหม? จงซื่อสัตย์กับตัวเอง และพยายามวิเคราะห์การเล่นของเราให้ชัด มันง่ายมากที่จะบอกว่าเราเล่นดีอยู่แล้ว แต่แพ้เพราะโชคร้าย แต่ส่วนมากเกมของเรามักจะแย่ลงเมื่อเราเริ่มที่จะแพ้บ่อยๆ 
2. เกมที่เล่นยังน่าเล่นอยู่ไหม? บางครั้งมันก็มีคนบนโต๊ะที่เราไม่อยากลุกหนีไปง่ายๆ ในสถานการณ์แบบนี้ เราก็แค่ต้องเล่นต่อไป แต่แน่นอนว่า ถ้าเราเล่นได้แย่จริงๆ ยังไงก็ควรกลับบ้านไปนอนพักมากกว่า  
3. เรารู้สึกว่าพร้อมที่จะรับมืออยู่ไหม? บางครั้งสติของเราอาจจะไม่อยู่ในเกมแล้ว ในกรณีนั้นการเดินจากไปดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การเล่นของเราอาจจะเริ่มแย่ลง และเราอาจจะเริ่มพลาดแบบเสียๆหายๆมากขึ้น ทำให้ยิ่งเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองให้ลึกลงกว่าเดิม

คำแนะนำที่ 10 สำหรับแคชเกม : หาประโยชน์จากพวก limper ให้ได้

ทุกครั้งที่เราเจอคน limp เราควรจะมองเห็นโอกาสที่จะกิน stack ทั้งหมดของเขา หรืออย่างน้อยก็กินได้เยอะ ภายในช่วงเวลาสั้นๆ

เนื่องจาก limper ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่ weak เราจึงควร isolate พวกนี้ ด้วยการ raise เมื่อเจอ limp ด้วย range ที่กว้างมากพอ Fเพื่อบีบให้ limper พวกนี้ call raise เราตอน preflop โดยที่ out of position และ มี range ที่อ่อนแอ เพื่อให้เรามีโอกาสทำกำไรได้มากที่สุด

ส่วนเรื่องของขนาดการ bet ให้เลือกไซส์ที่คู่แข่งต้องตัดสินใจยากๆ โดยที่ยังมีแฮนด์ที่อ่อนแอสุดๆอยู่ใน range อยู่ กฎง่ายๆคือใช้ขนาดการ raise ปกติ บวก 1 BB สำหรับทุกๆ limper ดังนั้น ถ้าปกติเรา raise 3bb และมี limper 1 คน เราก็ควรจะ rasie 44bb

สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำอ่าน แนวทางการจัดการกับพวก limper อย่างละเอียด

โบนัส : คำแนะนำการเล่นแคชเกมที่แสนมีค่าจาก Doug Polk และ Ryan Fee

ในการเตรียมตัวสำหรับบทความนี้ ผมได้ถามทั้ง Doug Polk และ Ryan Fee เพื่อขอคำแนะนำในการเล่นแคชเกมที่พวกเขาคิดว่าสำคัญที่สุดมากให้

คำแนะนำในการเล่นแคชเกมของ Doug : เล่นเกมในระดับที่เราเสียได้โดยไม่เดือดร้อน

เมื่อเราต้องเล่นแคชเกม สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเล่นภายใต้จำนวนเงินที่โอเคที่จะยอมเสียได้ ถ้าเราต้องเล่นในระดับ stack ที่เราอาจจะมีปัญหาทางการเงินถ้าเราต้องเสียมันไป แสดงว่า เราได้เสียเงินจาก buy-in ระดับนั้นไปเรียบร้อยแล้ว

ในเลือกจำนวนเงินที่จะ buy-in ที่เราพร้อมที่จะเสีย ในเกมระดับที่เรามีจำนวน buy-in เพียงพอ วิธีนี้จะทำให้เราสามารถกดดันคู่แข่งให้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ที่เราพร้อมจะวัดได้เสียได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

คำแนะนำในการเล่นแคชเกมของ Ryan : พยายามเป็นคนที่ aggressive ที่สุดบนโต๊ะ

เราควรจะต้องเป็นผู้เล่นที่ aggressive ที่สุดบนโต๊ะเวลาเล่นแคชเกม โดยเฉพาะเมื่อเล่นเกมแบบ low stake หรือแบบไลฟ์ เราจะต้องเป็นคนที่เล่นด้วยการ bet และ raise เป็นหลัก ทุกครั้งที่ผมเล่นแคชเกม ผมจะเป็นคนที่ aggressive ที่สุดบนโต๊ะ เพราะมันทำให้ผมมีโอกาสชนะและกินเงินได้มากที่สุด

แต่การเล่นสไตล์ aggressive ย่อมมาพร้อมกับโอกาสที่จะมี ดาวน์สวิงที่มากขึ้น เมื่อมันเกิดขึ้น เราจำเป็นที่จะต้องลดขนาดเกมลงมา หาเวลาพักเพื่อคลายความ tilt และเตรียมตัวใหม่ เมื่อสิ้นสุดวัน ความ aggressive คือส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้เราชนะ และเราต้องรู้สึกสบายใจที่จะกลับมาเล่นแบบนั้น แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะมีผลลัพธ์ที่ไม่ได้ดั่งใจเราบ้างก็ตาม

คำแนะนำของผู้เขียน : ถ้าเรารู้สึกไม่สบายใจที่จะเล่นสไตล์ aggressive ลองพยายามเพิ่มความ aggressive ทีละนิดๆ ในแต่ละ session จนกระทั่งเราเริ่มเคยชินมากขึ้น

เอาคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้กับการเล่นแคชเกมของคุณ

ไม่ว่าเราจะเล่นโป๊กเกอร์เพื่อคลายเครียด หรืออยากจะหารายได้พิเศษ นี่คือคำแนะนำ 10 ข้อ ที่จะช่วยให้เราเล่นได้แข็งแกร่งขึ้นและทำเงินได้มากขึ้น : 

1. จับ bluff ด้วยแฮนด์กลางๆ
2. bet ที่ flop ให้บ่อยถ้ามี strong hand
3. bluff ที่ flop เมื่อเรามี backdoor draw
4. 3-bet กับ premium hands (QQ+, AK).
5. check ที่ flop เมื่อต้องเล่น multiway pot หลายคน
6. bet ให้บ่อยเมื่อเล่น heads-up โดยที่เรา in position
7. หลัง defend ที่ BB ให้ check-raise ที่ flop บ่อยๆทุกครั้งที่มี hand ที่ strong มากๆ
8. วอร์มอัพก่อนจะเล่นแต่ละ session หรือทัวร์นาเมนต์
9. ปรับความคิดให้ดีเมื่อเจอ session ที่เสียเยอะ
10. หาประโยชน์จากพวก limper ให้ได้

และอย่าลืมคำแนะนำจาก Doug และ Ryan :

1. เล่นในเกมที่เราพร้อมจะเสีย
2. พยายามเป็นผู้เล่นที่ aggressive ที่สุดบนโต๊ะ โดยเฉพาะเมื่อเล่นเกม low stake

https://upswingpoker.com/cash-game-poker-tips/