กลยุทธ์การเล่นโป๊กเกอร์ปี 2020

วีธีการเล่นและกลยุทธ์แบบไหนที่ควรเอาไปใช้ในช่วงปีนี้นะ

ถ้าคุณจะต้องเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้หนึ่งอย่างบนโต๊ะโป๊กเกอร์ คุณจะเลือกอะไรระหว่าง game theory หรือ หาข้อได้เปรียบจากกลยุทธ์พื้นฐาน ?

นี่เป็นหัวข้อที่เป็นที่ถกเถียงกันมากในปีนี้ ผู้เล่นที่เล่น stake สูงๆส่วนมากจะใช้เวลาไปกับการพัฒนากลยุทธ์ของทฤษฎี GTO ให้เข้าใกล้กับความเข้าใจของคนเรามากที่สุด แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันมากว่าถ้าใช้แต่ทฤษฎี GTO เนี่ย มันหมายถึงว่าคุณจะไม่ตักตวงผลประโยชน์จากความผิดพลาดของคู่ต่อสู้เลย ซึ่งมันจะทำให้คุณพลาดประโยชน์ไปมากทีเดียว

สิ่งที่คุณกำลังจะได้เรียนรู้ในบทความนี้คือ

-ทำไมคุณถึงไม่เลือกจุดตรงกลางระหว่างสองแนวทางนี้ล่ะ

-ต้นทุนที่ผู้เล่นจะต้องจ่าย เมื่อพยายามเล่นแบบเอารัดเอาเปรียบหรือหาผลประโยชน์

-คุณจะกำหนดกลยุทธ์การเล่นในปี 2020 ของคุณยังไง

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

GTO คืออะไร

                GTO ย่อมาจาก Game Theory Optimal คือ กลยุทธ์ที่คุณไม่สามารถใช้ประโยชน์จากคู่ต่อสู้ได้ หรืออีกทางนึงถ้าคุณเล่นกลยุทธ์ GTO ที่แท้จริงก็เป็นไปไม่ได้เลยที่คู่ต่อสู้ของคุณจะเอาเปรียบคุณได้ อาจจะอ่านดูแล้วไม่เห็นจะเข้าใจ ตัวอย่างที่อาจจะเห็นภาพชัดที่สุดก็คือ การเล่น ค้อน กรรไกร กระดาษ

                กลยุทธ์ GTO ของเกมนี้คือ สุ่มเลือก 1 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นค้อน กรรไกร หรือกระดาษ แล้วเล่นทางเลือกนั้น 1 ใน 3 ของการเล่นทั้งหมด ถ้าคุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจเลยว่าคู่ต่อสู้ของคุณออกอะไร ในระยะยาวแล้วคุณจะชนะ 1 ใน 3 เสมอ 1 ใน 3 และแพ้ 1 ใน 3 เช่นกัน

                ในขณะที่ GTO ของเกมนี้นั้นดูง่ายและเข้าใจได้ แต่มันจะซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อเป็นการเล่นโป๊กเกอร์ มีกลยุทธ์ GTO ในโป๊กเกอร์ No Limit Hold’em แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก โป๊กเกอร์ยังเป็นเกมที่ซับซ้อนมากเกินไปที่จะนำเอาเทคโนโลยีในปัจจุบันมาหาทางแก้ไข

                แต่ถึงยังไงตอนนี้คุณก็คงจะพอเข้าใจแนวคิดของ GTO กันแล้วบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นความถี่ที่น้อยที่สุดที่ควรจะป้องกัน อัตราส่วนของการบลัฟฟ์และการเพิ่มมูลค่า การผสมผสานกลยุทธ์ ซึ่งผู้เล่นที่มีประสบการณ์หลายๆคนมักจะเอาไปสร้างเป็นกลยุทธ์การเล่นของตัวเอง

กลยุทธ์การใช้ประโยชน์ คืออะไร

                กลยุทธ์นี้ เป็นกลยุทธ์ที่มีจุดมุ่งหมายที่จะใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาดและแนวโน้มของคู่ต่อสู้ของคุณนั่นเอง เราจะทำให้เห็นภาพโดยการใช้เกม ค้อน กรรไกร กระดาษ เหมือนเดิม

                สมมติว่าคุณรู้ว่าคู่ต่อสู้ของคุณชอบออกค้อน มักจะออกค้อน 40% ของทั้งหมด ส่วนที่เหลือก็ออกกรรไกรกับกระดาษอย่างละ 30% คุณสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้โดยการออกกระดาษให้บ่อยๆ คุณก็จะมีโอกาสชนะคู่ต่อสู้คนนี้ 40% จากทั้งหมด เสมออีก 30% และแพ้อีก 30% แต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณเล่นไปแบบนี้สักพักคู่ต่อสู้ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเล่นได้ เขาอาจจะหันมาออกกรรไกรเพื่อที่จะเอาชนะคุณจนกว่าคุณจะเริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเล่นเช่นเดียวกัน

                กลยุทธ์การใช้ประโยชน์หรือหาข้อได้เปรียบนั้นมักจะถูกเอาชนะด้วยกลยุทธ์ในทำนองเดียวกันแต่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป และจะเริ่มให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมทายใจอยู่ ซึ่งนี่ถือเป็นข้อเสียเปรียบหลักสำหรับกลยุทธ์นี้เลยก็ว่าได้

                โป๊กเกอร์เป็นเกมที่มีความซับซ้อนกว่าการเล่นค้อน กรรไกร กระดาษอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีแนวคิดแบบเดียวกันอยู่ในเกมเช่นกัน คุณอาจจะ fold ให้กับผู้เล่นคนนึง เมื่อเขาตัดสินใจเดิมพันในรอบ river อยู่เสมอ เพราะว่า “ผู้เล่นคนนี้ไม่เคยบลัฟฟ์เลย” นี่ก็อาจจะเป็นตัวอย่างนึง เมื่อเขาเริ่มจับทางคุณได้แล้วว่าคุณมักจะ fold ให้เขา และ ในรอบต่อไปเขาจะเดิมพันเหมือนเดิมอีก แต่เป็นการบลัฟฟ์เท่านั้นเอง เพราะเขาคิดว่ายังไงคุณก็น่าจะ fold ให้เขาเหมือนเดิม

GTO และ กลยุทธ์การใช้ประโยชน์

                แนวคิดที่สำคัญตรงนี้คือกลยุทธ์ GTO เพราะเป็นกลยุทธ์ที่มักจะทำให้เราชนะและได้เงินเสมอๆ แต่ ไม่ได้เป็นกลยุทธ์ที่ไม่สามารถทำให้เราทำกำไรได้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้

                ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้ว่าผู้เล่นคนนึงมักจะ fold อย่างแน่นอนต่อการ c-bet ในรอบ flop สิ่งที่คุณควรทำก็คือการเดิมพันเพิ่มเข้าไปมากกว่าการ check ผ่านไปเฉยๆถึงแม้ว่าถ้าเล่นตามหลัก GTO แล้ว จะถูกแนะนำให้ทำทั้งสองอย่าง อย่างละครึ่งครึ่งก็ตาม

                ตอนนี้แหละที่คุณจะมีคำถามเด้งเข้ามาในหัวแล้วว่า ถ้ากลยุทธ์การใช้ประโยชน์สามารถทำเงินได้มากกว่า แล้วจะศึกษาหลัก GTO เพิ่มทำไมกัน ?

คุณไม่ต้องเลือก !!

                ข่าวดีคือ คุณไม่ต้องจำกัดตัวเองหรือตีกรอบตัวเองให้เล่นกลยุทธ์ใดกลยุทธ์นึง คุณควรจะเลือกเอากลยุทธ์ที่มีหลักการ มีเหตุผลมาเป็นตัวพื้นฐานและอาจจะปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์จากคู่ต่อสู้ไปตามเกมที่คุณรู้สึกว่าจุดนี้ คนนี้ คุณสามารถที่จะสร้างกำไรด้วยได้ ถ้ามีโอกาสก็ใช้ซะ

                แต่เงื่อนไขก็คือ คุณจะต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน แม่นยำและเชื่อถือได้เพื่อให้การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการหาผลประโยชน์ของคุณนั้นมันมีประสิทธิภาพและแม่นยำ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่แม่นยำ คุณก็ควรจะถอยหลังกลับมาใช้กลยุทธ์พื้นฐานที่คุณวางเอาไว้

                จุดที่แตกต่างกันของผู้เล่นแต่ละคนก็คือ ความเร็วและวิธีการเปลี่ยนกลยุทธ์ที่จะใช้ ผู้เล่นบางคนเห็นการเล่นเพียงแค่รอบเดียว ก็อาจจะสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น รูปแบบกลยุทธ์ที่ตัวเองจะต้องเล่นได้แล้ว แต่ถ้าคุณตัดสินใจเร็วเกินไปโดยที่ไม่มั่นใจ ก็อาจจะทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากได้เช่นกัน

ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์ใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด

                Mark เห็นผู้เล่นคนนึง 3-bet ด้วยไพ่ K7o จากตำแหน่ง early position ทำให้ Mark เล็งผู้เล่นคนนี้ไว้เป็นพวก “Maniac”

                อีกสองสามรอบผ่านไป Mark ตัดสินใจ call ตามการ triple barrel ของผู้เล่นคนนี้ด้วยไพ่กลางๆซึ่งปกติเขามักจะ fold ไปแล้ว ความคิดของ Mark ก็คือ ผู้เล่นคนนี้เล่นไพ่ loose มากๆในรอบ preflop เพราะฉะนั้นก็ทำให้ตัวเขาเองสามารถเล่นไพ่ได้ loose มากกว่าปกติเช่นเดียวกัน ในท้ายที่สุด Mark ก็พ่ายแพ้ไปในรอบนั้นและเสียเงินเดิมพันจำนวนไม่น้อยไปอีกด้วย

                ในความเป็นจริงแล้ว ผู้เล่นบางคนอาจจะหยิบการเปิดไพ่ showdown บ้าๆบอๆมาเป็นกลยุทธ์ของเขา เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นๆเห็นและเข้ามาเล่นกับเขามากขึ้น ยอมจ่ายให้กับเขามากขึ้นก็ได้เช่นกัน

                เมื่อย้อนกลับไปดูการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แล้ว สิ่งที่ Mark ควรจะทำเมื่อเห็นผู้เล่น 3-bet ด้วยไพ่ K7o ก็คือ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เล็กๆน้อยๆในการเล่นรอบ preflop เมื่อเล่นกับผู้เล่นคนนี้เท่านั้นเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นของตัวเองทั้งหมดทุกรอบ อย่างเช่น

– 4 bet ให้บ่อยมากขึ้น (เอาไว้ลงโทษที่คู่ต่อสู้คนนี้เล่นไพ่กว้างมากเกินไป)

-4 bet ด้วยการเดิมพันเล็กๆ (เพื่อดึงให้คู่ต่อสู้คนนี้เอาไพ่ที่ไม่ดีมากนักเข้ามาเล่นยากขึ้น)

-ขยาย range ไพ่ที่จะสามารถ call ตามการ 3 bet ออกไปนิดนึง (มีไพ่อีกจำนวนนึงที่สามารถสร้างกำไรได้จาก range ไพ่ของผู้เล่นแบบนี้)

วิธีการที่เหมาะสมในการปรับกลยุทธ์

                ในการเล่น live คุณจะไม่มีข้อมูลการเล่นที่ผ่านๆมาของผู้เล่นนั้นๆแบบแน่นอน เป็นตัวเลขที่ชัดเจน ดังนั้นเวลาที่คุณจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใดๆก็ตามของคุณ คุณจะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ คุณอาจจะต้องให้ความสำคัญกับไพ่ showdown และดูแนวโน้มต่างๆของผู้เล่นคนนั้นๆ และคุณจะต้องเตรียมพร้อมเสมอ เตรียมพร้อมที่จะถอยหลังกลับไปเล่นตามกลยุทธ์เดิมที่คุณเล่นถ้าการคาดเดาของคุณดูเหมือนจะผิดไป

                แต่ในการเล่นออนไลน์จะแตกต่างออกไป เพราะคุณมีข้อมูลจาก database ให้ได้ดู ถ้าคุณเล่นใน stack นั้นเป็นประจำ คุณอาจจะมีคลังข้อมูลเป็นพันๆรอบของผู้เล่นคนนึงอยู่ในมือ แถมยังมีค่าสถิติต่างๆที่แม่นยำอีกต่างหาก ในกรณีนี้คุณควรจะใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณเอง (แต่ข้อมูลที่มีอยู่จะต้องเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือนะ)

สุดท้ายก่อนจบบทความ

                ผู้เล่นบางคนอาจจะคิดว่าหลยุทธ์ GTO เหมาะกับการเล่น stakes สูงๆเพียงอย่างเดียว เพราะการบาลานซ์การเดิมพันด้วย range ไพ่บลัฟฟ์และ range ไพ่เพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับ stakes เล็กๆมันไร้ประโยชน์ เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ก็มักจะ call และไม่ fold ให้

                อย่างที่คุณเห็นเส้นสีแดง (เงินที่ชนะโดยที่ไม่ showdown ) มีทิศทางที่ดีมากๆ โดยที่ผู้เล่นคนนี้ไม่ได้ยิง triple barrel ด้วยการบลัฟฟ์เพียงอย่างเดียว เขามักจะคิดถึงตัวเลขของไพ่ที่เขาเดิมพันเพื่อเพิ่มมูลค่าไปในตัวด้วย เพื่อที่จะได้หาตัวเลขที่เหมาะสมในการบลัฟฟ์ว่าจะต้องประมานกี่รอบถึงจะเหมาะสม และนี้ก็แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่าจะเป็น stakes ที่เล็กที่สุด แต่ก็สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างกำไรได้เช่นกัน

                หากคุณอยากจะประสบความสำเร็จในการเล่นโป๊กเกอร์ คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่ากลยุทธ์ไหนที่ใช้ได้ เวลาไหนควรจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ แต่คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าจะใช้อะไรและปรับตอนไหนถ้าหากว่าฐานคุณยังไม่แน่นพอ

Source : https://upswingpoker.com/combine-theory-and-exploit/