Top Pair / Weak Kicker เล่นยังไงดี?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนึ่งใน hand ที่น่ากังวลและเล่นผิดพลาดกันมากที่สุดก็คือเมื่อเราติด top pair แต่มี kicker แย่ๆ

เราจะเล่น A6o ยังไงดีเมื่อติด ace บน flop? เมื่อไหร่ที่เราควรเร่งสปีดในการเล่น hand พวกนี้และเมื่อไหร่ที่ควรจะเล่นช้าลง?  เมื่อไหร่ที่เราจะ call river bet ใหญ่ๆได้? และวันนี้เราจะมาหาคำตอบจากในบทความนี้กัน

ปกป้อง Checking Range

บางครั้ง ความแตกต่างระหว่าง top pair ดีๆกับ top pair แย่ๆก็คือ top pair ที่มี kicker ดีกว่าจะเล่นได้ดีเมื่อเจอกับ top pair ที่พอใช้ได้ของคู่ต่อสู้   ในขณะที่ top pair ที่มี kicker ต่ำๆจะเล่นได้ดีเมื่อเจอกับ bluff ของคู่ต่อสู้

ดังนั้น ในสถานการณ์ที่เราต้องการ bet บาง hand และ check กับบาง hand ใน range ของเรา  เราอาจใส่พวก top pair weak kicker ลงใน checking range เพื่อปล่อยให้ pot โตได้กับ air hand ของคู่ต่อสู้ที่ต้องชนะด้วย fold equity  หรือพูดอีกอย่างก็คือ เรา check เพื่อ catch bluff ของคู่ต่อสู้  มาดูจากตัวอย่างกัน

สมมุติว่าเราถือ Kh6h อยู่ที่ SB ใน 6-max cash game และได้ raise ไป 3bb  คู่ต่อสู้ที่ BB ซึ่งเป็นพวก aggressive regular call มา  และ flop เป็น Ks9c4c

ถึงแม้ว่าเราอาจจะ value-bet ที่จุดนี้และเพิ่ม pot size ได้ 1 หรือ 2 street แต่เราก็จะต้องเล่นช้าลง ณ จุดใดจุดนึงอยู่ดี  ไพ่ของเราไม่ดีพอที่จะ bet ได้ตลอดทั้ง 3 street   ในขณะเดียวกัน range ของเราก็มีบาง hand ที่มักจะ check ในจุดนี้: ไพ่กลางๆอย่าง TT-QQ และ 9x นั้นชอบที่จะ check/call มากๆ  และเราอาจยินดีที่จะยอมแพ้เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้เก่งๆด้วยไพ่ที่เล่นได้แย่มากๆอย่าง Q8o ดังนั้นจึงมีเหตุผลมากพอที่เราควรสร้าง checking range ที่จุดนี้

เพราะ Kh6h ของเราเป็น bluff catcher ที่ดีเยี่ยมและไม่ต้องการสร้าง pot ใหญ่ๆด้วยการ bet หลายๆครั้ง ดังนั้นการ check จึงเป็นสิ่งที่ดี  การใส่ hand พวกนี้ใน checking range จะเป็นการปกป้อง range ของเราจากคู่ต่อสู้ aggressive ที่อาจพยายามกดดันให้เราหมอบจากการที่เราแสดงว่ามี capped range

เราจำเป็นต้องมี pair ที่แข็งๆอยู่ใน checking range บ้าง  และ top pair bad kicker ก็เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบเพราะมันไม่สามารถ bet ได้ตลอดทั้ง 3 street อยู่แล้ว

เรียก Value อย่างเร่งด่วน

บางครั้งเราก็ต้องเล่น weak top pair อย่างรวดเร็ว  โดยเฉพาะเมื่อไพ่ของเราเป็น pair เล็กที่ไม่แข็งแรงและอาจถูกแซงได้ง่าย  และถ้าคู่ต่อสู้เป็นพวก passive ที่ไม่ค่อย bluff มากนัก ถึงแม้เราจะให้โอกาสพวกเค้าก็ตาม

Player พวกนี้มักชอบ free card แทนที่จะพยายามทำให้เรา fold และนี่คือสิ่งที่เราจะต้องหลีกเลี่ยงเมื่อไพ่ของเราเป็น pair เล็กๆและมีโอกาสมากมายที่ board จะเป็น overcard ของคู่ต่อสู้

ในตัวอย่างต่อไป เรา open 8c7c จาก CO และถูก call โดยคู่ต่อสู้ที่ passive ใน BB  flop เปิด 8h6d2s และคู่ต่อสู้ check

ถ้าเราไม่ bet ที่จุดนี้ก็นับว่าเป็นข้อผิดพลาดมากๆ  ไม่เพียงเพราะนี่เป็น flop ที่เราจำเป็นต้องปกป้อง แต่เราจะถูก call ด้วย hand ที่แย่กว่าอย่าง pair ต่ำๆหรือ ace-high  ดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาที่ควร bet ในขณะที่ board ยังไม่มีอันตรายเท่าไหร่นักสำหรับ hand ที่อ่อนกว่าจะเล่นต่อได้

ถ้าเรา check ที่จุดนี้แล้ว king เปิดออกมาที่ turn ก็คงเป็นเรื่องยากมากที่เราจะเรียก value ได้อีกครั้งใน street นี้  ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเรารู้ว่าคู่ต่อสู้เป็นพวก passive การที่จะ check behind เพื่อพยายามจะหลอกล่อ turn bluff ก็เป็นแนวทางการเล่นที่ผิด  เพราะส่วนใหญ่คู่ต่อสู้จะไม่จู่โจมแต่พวกเขาจะรอได้ free card เพื่อ outdraw เรา

ถึงแม้ว่า bet ของเราจะทำให้ hand ที่แย่กว่า fold ได้เท่านั้น แต่ fold equity นี้ก็ยังมีประโยชน์มากๆถ้าหลายๆ hand เหล่านี้ก็ยังเล่นต่อ

เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่ weak-passive อย่าพลาดโอกาสที่จะ value bet

Bluff Catching ที่ River 

ในบางสถานการณ์ top pair bad kicker กลับเป็น bluff catcher ได้ดีกว่า top pair good kicker  คุณว่ามันเป็นเรื่องบ้าไม๊ล่ะ? ลองอ่านต่อไปดูก่อน…

สมมุติว่าเรา open จาก BTN ด้วย Ks7s และ call 3-bet จาก BB กับคู่ต่อสู้ที่เป็นพวก regular เก่งๆ  นี่เป็น hand ที่เกือบจะเป็น bottom calling range ของเรา  ทางเลือกในการ call, fold และแม้แต่ 4-bet bluff ก็ไม่แตกต่างกันนักเมื่อเจอกับ player ที่ balance ดังนั้นเราสามารถเล่นได้ทุกแบบตอน pre-flop 

Flop เปิด KdJd4c และคู่ต่อสู้ c-bet 1/3 pot เรา call

Turn เป็น 2h และเรา check/call ไปอีกครั้ง ครั้งนี้เป็น bet ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่า range ของคู่ต่อสู้เป็น polarise ระหว่าง Kx ที่ดีกว่าหรือเป็น bluff  ไพ่ของเราจึงน่าจะเป็น bluff catcher ได้มากกว่าที่จุดนี้

River เป็น 2c และคู่ต่อสู้ shove 80% pot  ภาพรวมง่ายๆคือ ถ้าคู่ต่อสู้ bluff เราชนะ แต่ถ้าเขา value bet เราก็จะแพ้  ปัญหาก็คือเราไม่รู้ว่าเขา bluff บ่อยแค่ไหนและเราไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่าการ call หรือ fold จะดีกว่ากัน หรือจริงๆแล้ว value ของมันทั้งสองไม่ได้แตกต่างกัน

แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถคาดการณ์ได้คือ เรายินดีที่จะ call ด้วย K7 มากกว่า KT เพราะอะไรล่ะ? มันเกี่ยวกับ card removal ซึ่งก็คืออะไรที่คู่ต่อสู้จะใช้ในการ bluff

Bluff ส่วนใหญ่บน run out นี้จะเป็น missed draw  คู่ต่อสู้น่าจะ bet turn ด้วย T9s มากกว่าด้วย 97s  เพราะ T9s ยังพอมี equity อยู่บ้าง แต่ 97s นั้นไม่มีอะไรเลย  คู่ต่อสู้ไม่น่าจะ shove ได้กว้างด้วย KT หรือ K9 เพื่อ value ดังนั้นความแข็งของ kicker ของเราจึงไม่เกี่ยวข้องนัก card removal จึงเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า  

เมื่อเราถือ 7s ก็หมายความว่า Ts ยังคงอยู่ในสำรับและอาจอยู่ในมือของคู่ต่อสู้ (ซึ่งเราอยากให้มันอยู่ที่นั่น!)  แต่ถ้าเราถือ Ts ก็หมายความว่าคู่ต่อสู้จะไม่มี hand อย่าง QsTs, Ts9s, และ AsTs ทำให้ equity ของเราลดลง  ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเราถือ Ks7s เพราะคู่ต่อสู้จะไม่ bluff ด้วยไพ่ที่มี 7s มากนักที่ turn ดังนั้นจะไม่มาถึง river ด้วยไพ่นี้

Top pair/weak-kicker สามารถเป็น bluff-catcher ได้ดี เมื่อ kicker ของเราไม่ได้ block straight หรือ flush draw ที่ไม่ติด

source: https://www.pokerstarsschool.com/strategies/when-to-ignore-poker-theory/