TAG ที่ยังได้ผลใน Modern Game

TAG that win

หลักการของ Tight-Aggressive (TAG) Poker Strategy นั้นง่ายมาก…เล่นให้น้อย แต่เล่นอย่าง aggressive

TAG poker เคยใช้ได้ดีมากๆๆเมื่อ 10 ปีก่อน แต่น่าเสียดายที่เกม poker ไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว  การแข่งขันสูงขึ้น และคู่ต่อสู้จะไม่ยอมจ่ายเงินง่ายๆถ้าเห็นว่าเราเลือกเล่นหรือเลือกเสี่ยงเฉพาะเวลามี strong hand 

TAG poker เกือบจะสาปสูญไปแล้ว แต่สำหรับผู้เล่นที่ประสบการณ์ยังไม่มากพอ LAG poker strategy (loose-aggressive) ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะการเล่นไพ่กว้างมากเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย

วิธีแก้ปัญหาก็คือการทำให้ TAG poker ทันสมัยมากขึ้นโดยเน้นการ balance range และเล่น passive มากขึ้นในสถานการณ์ที่เหมาะสม

ในบทความนี้ เราจะมารีวิว session ของ Doug Polk ใน The Poker Lab ซึ่งเป็นเกม 100NL ที่ PokerStars  โดย Doug จะแสดงให้เห็นว่าเราจะ balance การเล่น aggressive postflop strategy โดยเพิ่มความ passive ได้อย่างไร

Aggression vs Passivity

แนวทางที่ดีที่สุดคือ aggressive poker เพราะการเป็น aggressor จะช่วยทำให้เราได้เปรียบ (โดยเฉพาะเมื่อเรามี position) 

การกดดันคู่ต่อสู้ด้วยแอคชั่นของเราอย่าง bet size..thin value bet และ over-bet bluff  จะทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสเล่นผิดพลาดได้มาก 

Caller มีเพียงทางเดียวที่จะชนะ..คือต้องมีไพ่ที่ดีที่สุด  ในขณะที่ aggressor มี 2 ทาง..คือมีไพ่ที่ดีที่สุด หรือกดดันให้คู่ต่อสู้หมอบ แต่แน่นอนว่าเราควรจะใช้มันอย่างระมัดระวัง เพราะการกดดันคู่ต่อสู้ด้วยการเล่นอย่าง aggressive มากเกินไปมันใช้ไม่ได้อีกแล้ว

Calling range ของผู้เล่นได้พัฒนาขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้แต่ในเกม lower stake ซึ่งเป็นผลจากเว็บ poker strategy และ high-level twitch stream ที่มีอยู่มากมาย Player มีการ trap มากขึ้น defend กว้างขึ้น และ call down มากขึ้น  ดังนั้นเราจำเป็นต้องหาสถานการณ์ของเกมที่จะ “เข้าหาเรา” มากกว่าที่จะพยายามไปบังคับให้เกิดแอคชั่น

เราลองมาดูตัวอย่างสถานการณ์จาก Dough ที่อธิบายความคิดนี้

TAG Poker เมื่อเจอกับ Nit

100NL ที่ PokerStars $81 Effective Stack
Doug อยู่ที่ big blind ด้วยไพ่:

ทุกคนหมอบ BTN raise $2..sb หมอบ..Doug call

Flop ($4.28)Doug check..BTN check

Turn ($4.28)Dough…

Dough เริ่มต้นปกป้อง big blind ของเขาด้วย ATo กับ button open  จากนั้นผู้เล่นทั้งสอง check ที่ flop Q43

Turn เป็น Th และนั่นทำให้ Doug มี second pair ที่ดี  และเริ่มวิเคราะห์การ bet ด้วยสัญชาตญาณ
แต่..ก่อนที่ Doug จะกดปุ่ม bet เขาสังเกตเห็นตัวเลข HUD ของคู่ต่อสู้ 

ตัวเลขจาก HUD บอกว่าคู่ต่อสู้เข้ามาเล่น preflop แค่ 9% จากทั้งหมด 22 hand (หมายความว่ามีโอกาสที่จะเป็นผู้เล่น tight passive poker) ข้อมูลนี้ทำให้ Doug ตัดสินใจที่จะ check turn ไปแทน และจะ flat bet ถ้า button stab มา  แต่ถ้า button check back ที่ turn เขาก็จะ value-bet ที่ river (ถ้ามันเป็น safe card นะ)

ถึงแม้ว่า 22 hand ยังเป็นจำนวนที่น้อยอยู่ แต่ก็มากพอที่จะตัดสินบางอย่างเกี่ยวกับการเล่นของคู่ต่อสู้  แล้วจะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้นถ้าแนวโน้มของคู่ต่อสู้เป็นพวกสุดโต่ง (ไม่ tight มากๆ ก็ loose มากๆ)

(จำไว้ว่า..มันสำคัญมากที่เราจะไม่ยึดกับตัวเลขมากเกินไป หรือเล่นผิดๆจากการ “อ่าน” ด้วยหลักฐานแย่ๆ) 

เมื่ออยู่ใน spot ที่ใกล้เคียงกัน เช่น การตัดสินใจว่าจะเล่น hand แบบ category1 หรือ category 2  เราสามารถเลือกแนวทางที่ปลอดภัยกว่าได้เลย  เหมือนที่ Dough บอกไว้ว่า “เมื่อเจอกับผู้เล่นที่ tight กว่าให้เราลดทุกอย่างลง value ให้น้อยลง เพราะโดยรวมแล้วพวกเขามักจะมี hand ที่แข็งกว่า”
 
เพราะสุดท้ายแล้ว..ไม่มีใครที่อยากจะ “value-owning” เมื่อเจอกับพวก nit

อย่าเล่น aggressive บน Ace-High flop ตลอดเวลา

อีกสถานการณ์นึงที่มักใช้วัดความ passive และผู้เล่น tight-aggressive มักจะทำมากเกินไป ก็คือ Axx flop ด้วยการเป็น preflop button raiser

100NL ที่ PokerStars $153 Effective Stack
Doug อยู่ที่ big blind ด้วยไพ่ Qd6h
ทุกคนหมอบ..Doug raise $2.25 และ blind call ทั้งสองคน

Flop ($6.41)
SB check..BB check..Dough…

Doug เปิดด้วย Q6o ที่ button และโดน call จาก blind ทั้งสอง
Flop เปิดมาเป็น Ace-high และ blind ทั้งสอง check มาให้ Doug  เขาอธิบายว่า..ถึงแม้ว่านี่จะเป็น dry board ที่ยากจะติด การ check back นั้นจะดีกว่าการยิง cbet ไป

Button open raise ของ Doug นั้นสามารถมี hand อย่าง 5..3 หรือ 2 spade ได้มาก  ซึ่งตอนนี้อยู่ใน category 3 ที่ใช้เป็น semi-bluffing hand ได้อย่างดี

ยิ่งไปกว่านั้น Dough ยังมี hand พวก JsTd ใน range ซึ่งจะเป็น backdoor ที่ดีกว่า Q6o  และด้วยเหตุผลนี้..การ bet ด้วย weak backdoor อย่างไพ่ที่มีอยู่ในมือนับว่าจะเป็นการ over-bluffing 

Doug บอกว่า:
เมื่อเรานึกถึง hand ใน category 3 เราไม่ควรจะคิดว่า “draw โอเค category3”  แต่เราควรจะคิดว่าเรามี category3 hand อยู่เท่าไหร่  ถ้า range ของเรามี category 3 hand อยู่มาก เราก็สามารถ check ไพ่ที่อ่อนๆที่สุดได้

พูดอีกอย่างก็คือ..อย่า semi-bluff กับทุกๆ draw และทุกๆครั้ง  ต้องทำการตรวจสอบ range ของเราใน spot นั้นๆเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ over- หรือ under-bluffing

Monotone Board? Tight Passive Poker ไม่ใช่คำตอบ

และสุดท้าย..สิ่งที่ตรงกันข้ามกับตัวอย่างข้างต้น Doug ได้แสดง spot ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เล่น passive อย่างผิดๆ และทำให้พวกเขาถูก exploit ในจุดนั้น

100NL ที่ PokerStars $100 Effective Stack
Doug อยู่ที่ CO ด้วยไพ่

ทุกคนหมอบ..Doug raise $2.25..BB call

Flop ($4.75)BB check..Dough bet $3.18..BB call

Turn ($10.79)BB check..Dough bet $6..BB call

หลังจากที่ open oreflop ด้วย pocket jack…Dough ได้ cbet กับไพ่ overpair และ flush draw ที่ flop

Dough อธิบายว่าเราควรที่จะ bet 4-flush turn ด้วยเช่นกัน แทนที่จะรอ bet ที่ river
ลองมาดูกันว่าทำไมการ bet ด้วย middle 1-card flush ที่ turn แบบนี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ดี:

การ balance turn range จะช่วยปกป้องเราจากการ check/raise
เราอาจสงสัยว่า “ทำไมต้อง bet hand พวกนี้ที่เราไม่อยากจะโดน check/raise ด้วย?”
นั่นเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากสำหรับคู่ต่อสู้ใน big blind  เราสามารถเล่น hand ได้มากมายที่มี Ah หรือ Kh ในแบบเดียวกับที่เล่นอยู่นี้  จึงเป็นเรื่องยากที่ big blind จะ check/raise ถ้าเขาไม่ถือไพ่ดีๆเช่นกัน
ถ้าเราถูก check/raise ด้วย middle flush ทางเลือกของเราคือ call turn ด้วยแผนที่จะ fold ที่ river  หรือไม่ก็ fold เมื่อถูก check/raise ที่ turn เลย

หลีกเลี่ยงที่จะเจอ river spot ที่ท้าทาย
ถ้าเรา check back ที่ turn และ bet ที่ river  คู่ต่อสู้ก็อาจสงสัยว่าเราไม่ได้มี top ของ range และอาจกดดันเราด้วยการ check-raise เพื่อ bluff ได้

Strongest hand จะได้ value มากขึ้น
ทางออกนึงที่เป็นไปได้สำหรับ river imbalance คือการเล่น strong flush ด้วยการ check turn และรักษา river range ให้แข็งที่สุด
แต่มันอาจเป็นทางเลือกที่แย่กว่าในระยะยาว เพราะการที่เรา check ทุกอย่าง รวมทั้ง Ah และ Kh จะทำให้เราได้ value น้อยลง

ได้ value จาก non-flush hand ด้วย equity
สุดท้าย..การ bet turn จะทำให้เราได้ value จาก 2-pair hand ที่อาจจะ call turn เพราะยังมีโอกาสติด full-house ที่ river

ดังนั้น ในการเล่น session ต่อไป อย่าเพียงแค่ยึดกับการเล่น TAG poker  แต่ต้องวิเคราะห์ทุกสถานการณ์แยกจากกัน และถามตัวเองว่า “spot นี้ควรจะ aggressive หรือ passive”?

Source:
How to Play a Tight-Aggressive Style That Wins in Modern Games
https://upswingpoker.com/tight-aggressive-tag-strategy-passive/

picture reference:
http://www.toplineslots.com/2018/02/involve-best-casino-sites-available-online/