วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องสำคัญในการเล่น poker…
- Loss-limit การหยุดขาดทุน
- การหยุดขาดทุนช่วยให้เราไม่ tilt ได้ยังไง
- ทำไมถึงควรหยุดถ้าเสียถึง 5 buy-in หรือ 100 Big Bet
ในการเล่น poker นั้น เราจะต้องทำหน้าที่อยู่ 2 บทบาท อย่างแรกคือการเป็นผู้แข่งขันที่ลงไปท้าทายคู่ต่อสู้อื่นๆบนโต๊ะ และในขณะเดียวกันเราก็จะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งโค้ชและผู้จัดการของตัวเอง
การเป็นโค้ชหมายถึงความรับผิดชอบต่อการฝึกฝนและพัฒนา player โค้ชจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรจะเล่นและจะเป็นผู้บริหารจัดการ bankroll อาชีพของเราอยู่ในมือของโค้ช
การจัดการกับตัวเองในบทบาท poker player นั้นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของความอดทนและการมีวินัย แต่เราจะต้องมีการจัดการ bankroll อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อที่จะเป็น poker player ที่ดีได้
ตัวอย่างของการบริหารจัดการ bankroll คือการที่เราต้องรู้จักจำกัดการเล่นอยู่ในระดับที่เรายอมรับได้ เพราะถ้าเราเสียในจำนวนที่เราพร้อมจะเสียได้มันจะไม่ส่งผลร้ายต่อเรามากเท่าไหร่ และในเวลาที่เรากลับมาชนะเราจะสามารถเพิ่ม bankroll ของเราได้อย่างสวยงาม
การมี loss-limit เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการ bankroll ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการนี้เริ่มต้นมาจากตลาดหุ้น ในทุกครั้งที่หุ้นตกลงต่ำกว่าราคาต่ำสุดที่ตั้งไว้ เราก็ควรจะขายหุ้นทิ้งทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ความสูญเสียบานปลายมากยิ่งขึ้น
เวลาที่เราซื้อหุ้น แน่นอนว่าเราคาดหวังให้ราคาหุ้นขึ้นต่อไป แต่ในความจริงมันก็อาจจะลงได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่หุ้นมีความเสี่ยงมากเกินไป เราก็จะต้องจำกัดการขาดทุนโดยการขายหุ้นทิ้งไป
หลักการเดียวกันนี้ก็มาใช้กับ poker ได้เช่นกัน การจำกัดขาดทุนหมายถึงทุกครั้งที่เราเสียมากจนถึงจำนวนนึง เราจะหยุดเล่นทันที player อาจจะลุกจากโต๊ะทันทีเมื่อเสีย 3 buy-in ซึ่งถึงระดับ loss-limit ของเขา
ทำไมการจำกัดขาดทุนถึงสำคัญนัก?
จุดประสงค์ของ loss-limit คือการพาตัวเราออกจากสถานการณ์ที่จะเสียเงินต่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนที่เราไม่ถือหุ้นต่อเพื่อหวังลมๆแล้งๆว่าวันนึงหุ้นจะกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
การเลือกโต๊ะผิดอาจทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ บางทีเราอาจจะมองข้ามอะไรไป อาจจะเลือกที่นั่งผิด หรืออาจจะจับ fish บนโต๊ะไม่ได้สักที ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลอะไร สุดท้ายแล้วมันจะทำให้เราเล่นเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มันมีเหตุผลเสมอว่าทำไมเกมเราถึงไม่ดี แต่บางครั้งมันก็แค่เพียงเพราะเราเลือกโต๊ะผิด และการที่มี loss-limit จะช่วยให้เราออกจากโต๊ะนั้นได้
บางครั้งเราก็แค่โชคร้าย เพราะถึงแม้เราจะเล่นได้ดีแล้ว แต่ไพ่ draw ของเราก็ไม่ติดเอาซะเลย แถมยังโดนคู่ต่อสู้คอยกินเงินจาก made hand ไปได้อีก นั่นแหละความ tilt กำลังก่อตัวขึ้นแล้ว
ความ tilt ไม่ใช่สิ่งที่เราจะหยุดมันได้ง่ายๆ ทุกๆคนสามารถ tilt ได้ทั้งนั้น แต่เราสามารถควบคุมมันได้โดยการรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เรา tilt และก็ออกมาจากสิ่งเหล่านั้นซะก่อนที่จะเกิดสถานการณ์นั้นขึ้น
บางคนกลับคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะเล่นต่อไป แต่ทำไมเราควรจะเล่นต่อล่ะ? ในเมื่อเรารู้ถึงอันตรายของความ tilt ซึ่งมักจะจบลงที่การเสียเงินมากขึ้นไปอีก ในการเล่น poker ช่วงเวลาแห่งการ tilt สามารถทำให้เราเสียเงินได้ง่ายๆรวมแล้วมากกว่าที่เสียจากการตัดสินใจผิดทั้งหมดซะอีก
เราสามารถแก้ไขอันตรายหนีได้โดยการกดปุ่ม emergency brake เมื่อเราถึงจุด loss-limit
การจำกัดขาดทุนยังช่วย…
- …ควบคุมความเสียหายเวลาที่เราเลือกโต๊ะผิด ไม่ว่าจะเป็นเพราะคู่ต่อสู้เก่งเกินไป หรือเกมของเรารันไม่ดี
- ….พาตัวเราออกจากสถานการณ์ที่อาจจะทำให้เกิดความ tilt
การจำกัดขาดทุนไม่ใช่แค่เพียงความกลัวที่จะเสียมากขึ้น แต่ win rate และ bankroll จะดิ่งลงจากหลายปัจจัย ซึ่งเราสามารถที่จะหยุดมันได้ทันทีด้วยการลุกออกจากโต๊ะ
ปกป้องกำไรด้วยการจำกัดขาดทุน
บ่อยครั้งที่เราลงไปเล่นและเริ่มทำกำไรได้ในช่วงแรก เราควรจะปกป้องกำไรส่วนนี้ด้วยการ reset loss-limit
ยกตัวอย่างเช่น player ตั้ง loss-limit ไว้ที่ 3 buy-in แต่เริ่มมีกำไรถึง 4 buy-in อย่างรวดเร็ว หมายความว่าในตอนนี้เขาจะเสียได้ถึง 7 buy-in กว่าจะไปถึงจุด loss-limit ที่ตั้งไว้
คำถามก็คือ เราจำเป็นจะต้องเสีย 5-6 buy-in ก่อนที่จะรู้ตัวว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่? และเรายังจะเล่นได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่? หลังจากที่เสียติดต่อกันถึง 5-6 buy-in
เมื่อเราเริ่มทำกำไรได้แล้ว มันสำคัญมากที่เราจะต้อง reset loss-limit เช่น ถ้าเราตั้ง loss-limit ไว้ที่ $150 แต่เมื่อเริ่มทำกำไร $100 เราก็ควรจะเลื่อนจุด loss-limit มาที่ $50
แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องปรับ loss-limit หลังการเล่นทุก pot แต่เมื่อไหร่ที่เราเริ่มมีกำไรมากพอสมควรเราก็ควรที่จะทำการปรับ loss-limit อีกครั้ง
เพราะถ้าเราไม่ทำ…กว่าจะรู้ตัวว่าถึงเวลาในการกดปุ่ม emergency brake เราก็อาจจะจบลงด้วยการเสียกำไร $100 ที่ได้มาในตอนแรก และอีก $150 ตามจุด loss-limit ที่ได้ตั้งไว้ แล้วเราก็จะมาโทษตัวเองที่ไม่ลุกจากโต๊ะตั้งแต่แรก
ควรจะตั้ง loss-limit อย่างไร?
ควรจะต้องมี loss-limit สำหรับ table และสำหรับ session เพราะในหนึ่ง session เราอาจจะเจอโต๊ะแย่ๆแค่โต๊ะเดียว ในขณะที่โต๊ะอื่นก็ยังเล่นได้ดี ถ้าเป็นแบบนี้เราก็สามารถลุกจากโต๊ะแย่ๆนั้น และยังเล่นต่อไปได้
Table loss-limit จะต่ำกว่า session loss-limit ลองนึกย้อนกลับไปถึง session ที่เคยเล่นเสีย เราคิดว่า ณ จุดไหนที่คิดว่า “เราควรจะหยุดตั้งแต่ตอนนั้นนะ”?
โปร player บางคนจะลุกจากโต๊ะหลังจากเสีย 2 buy-in แต่จะยังไม่จบ session จนกว่าจะเสียถึง 9 buy-in ในทางปฏิบัติหลักการง่ายๆในการตั้ง loss-limit ที่ดีสำหรับเกม Holdem No Limit และ Pot Limit คือ 3 buy-in สำหรับ table loss-limit และ 5 buy-in สำหรับ session loss-limit หรือเราอาจตั้งไว้น้อยกว่านี้ก็ได้เวลาใช้กลยุทธ์ short-stack
ถ้าเราเล่น SNG ห้ามเริ่ม tournament ใหม่หลังจากที่เสียไปแล้ว 8 buy-in. ในเกม fixed limit เราควรมี table loss-limit ที่ประมาณ 50 Big bet และ 100 Big bet สำหรับ session loss-limit
หลักการเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ ประเด็นที่สำคัญคือการมีสติในการ cut loss และมีวินัยกับจุดตัดขาดทุนที่เราได้ตั้งไว้ ถ้าเราสามารถทำได้แบบนี้ จะช่วยให้เราไปได้ไกลและอยู่รอดในอาชีพ poker ได้อย่างยั่งยืน
การยึดในจุด stop-loss ไม่ได้ช่วยทำให้เราเล่น poker ดีขึ้น และก็ไม่ได้ทำให้ได้เงินที่เสียไปกลับคืนมาด้วย แต่…มันจะช่วยป้องกันไม่ให้เราเสียมากจนเกินไป และจะช่วยเพิ่ม win rate และ bankroll ของเราได้ในระยะยาว
สรุป Stop-Loss Limits
นัก poker ที่จริงจังจะเข้าใจถึงบทบาทในการเป็นโค้ชและผู้จัดการของตัวเอง player ในตัวเราอาจจะไม่รับผิดชอบหรือมีอีโก้อยู่บ่อยครั้ง เขาจะโฟกัสอยู่กับเกมที่เล่นและพยายามจะทำกำไรให้มากที่สุดในตอนนั้น โดยที่ไม่ได้สนใจผลในระยะยาว และในบางครั้ง เขาอาจพร้อมที่จะเสีย bankroll ไปครึ่งหนึ่งเพียงเพื่อพยายามที่จะพลิกสถานการณ์และแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาเก่งแค่ไหน
แต่สำหรับผู้จัดการนั้น จะมองภาพรวมของทุกเกมที่เราเล่น และไม่ได้สนใจกับการทำกำไรบนโต๊ะใดโต๊ะหนึ่ง แต่จะดูว่าสุดท้ายแล้ว bankroll เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ในเดือนนั้น
บางครั้งการ cut loss คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ หรือเราจะเล่นต่อและเสียไปเรื่อยๆก็ได้ หรือจะยอมรับความพ่ายแพ้เมื่อเรารู้สึกพอก็ได้ กษัตริย์ Tacitus เคยกล่าวว่า “ผู้ที่สู้รบและหนีรอด เพื่อรอวันมารบใหม่อีกครั้ง แต่ผู้ที่ถูกสังหารในสนามรบ ไม่สามารถลุกได้อีกต่อไป” เราสามารถจะทำกำไรกลับมาได้ แต่ไม่ใช่ในวันนี้
อย่าลืมตั้ง loss-limit ในครั้งต่อไปที่คุณจะลงเล่น คุณอาจจะเขียนและแปะมันไว้ข้างๆตัวเลยก็ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำตามได้ตลอด แต่ถ้าทำได้…คุณจะสามารถรักษาเงินได้อย่างมากมายในระยะยาว
Source:
Stop-Loss Limits – Pulling the Ripcord
https://www.pokerstrategy.com/strategy/poker-psychology/stop-loss-limits-pulling-ripcord/
Cover picture reference:https://www.gambling.com/online-poker/knowledge/avoiding-tilt-in-poker-1200