Game Theory ของ Board Texture: ตอนที่2 – Low Unpaired Flop

ในบทความที่แล้วเราได้พูดถึงการปะทะกันระหว่าง Button (BU) vs. Big Blind (BB) ใน single raised pot บน low paired texture  ซึ่งเราได้สังเกตว่าเนื่องจาก range ของ BU นั้นมี equity advantage จึงทำให้ BU ควรที่จะ bet ได้บ่อยมาก  และเรายังได้เรียนรู้อีกว่าตามธรรมชาติของ paired flop นั้นจะทำให้ range ของ BB มักจะไม่ติด flop แต่ในขณะเดียวกันก็จะติดใหญ่มากๆในจังหวะที่ติดขึ้นมา  นั่นหมายความว่า range ของ BU นั้นไม่มี nut advantage และจึงเป็นเหตุผลให้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ bet size ใหญ่ 

ถ้าคุณรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้ยังฟังดูประหลาดๆ ผมก็แนะนำให้กลับไปทบทวนจากตอนที่ 1 ก่อนที่จะอ่านต่อไปในตอนที่ 2 นี้

Flop – 862r 

เช่นเดียวกับในครั้งที่แล้ว เราจะยังวิเคราะห์กันที่ low rainbow board เพียงแต่ในครั้งนี้จะเป็น unpaired flop  เมื่อไม่ได้มี pair อยู่บน flop และมีไพ่อีกใบที่เพิ่มขึ้นมา  จะเกิดผลกระทบต่อกลยุทธ์การเล่นของ BU อย่างไรบ้าง?

Equity Advantage กับ 862r

ย้อนไปในช่วง pre-flop  BU raiser มี range advantage เหนือกว่าคู่ต่อสู้ที่ out-of-position อยู่พอสมควร   เพราะได้ open ด้วย range ที่มีได้ทั้ง starting hand ที่ดีที่สุดทั้งหมด  ในขณะที่ BB ได้เพียง call ด้วย capped range ที่ไม่มี pair ที่ดีที่สุด (โดยทั่วไปจะเป็น 99-AA) และพวก unpaired hand ใหญ่ๆ (AKs, AKo, AQs, AQo, AJs, KQs, KJs)  ด้วย range ที่ขาดพลังของ big blind นี้เองที่ทำให้ BU สามารถ bet ได้บ่อยบน flop ที่ไม่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์จาก pre-flop มากนัก  ใน flop 882r ก่อนหน้านั้นเป็นการยากที่จะติดอะไร ดังนั้น big blind จึงไม่ค่อยมีโอกาสตาม equity ได้ทันมากนัก  แต่สำหรับ flop 8♥6♦2♣ ในวันนี้…การที่มีไพ่เพิ่มขึ้นอีก 1 ใบที่ BB สามารถจะติด pair ได้  จะช่วยให้ range ของ big blind สามารถขยับจาก high card ไปเป็น one-pair และเอาชนะพวก big card ทั้งหมดของ BU (อย่าง KQo) ไปได้

นั่นหมายความว่า ถึงแม้ BB จะไม่มี nut ได้มากนักที่จุดนี้ และก็ไม่สามารถเอาชนะพวก overpair ได้  แต่ equity ของ BB ที่จุดนี้ก็สูงกว่าบน paired flop เพราะตอนนี้เขาสามารถเอาชนะ hand อย่าง AK ได้บ่อยขึ้น  แต่น่าเสียดายสำหรับ pre-flop caller ที่ pair 8 และ pair 6 ไม่ได้เป็นส่วนของ range ที่ใหญ่พอที่จะทำให้เขามี advantage และ BU ก็สามารถมี pair พวกนี้ได้มากเช่นกัน  จริงอยู่ที่ BB สามารถติด pair บน flop ได้มากกว่า BU เล็กน้อยถ้าพิจารณาจากเปอร์เซ็นต์ของ range –  เพราะ BU จะมีไพ่ใหญ่ๆที่ไม่ติดมากกว่า BB  แต่ range ของ BU ที่ยังมี overpair ได้อีกมากก็เพียงพอที่จะมั่นใจได้ว่า range ของเขายังมีความได้เปรียบทาง equity อยู่  

จริงๆแล้ว ณ จุดนี้ range ของ BU มี equity ประมาณ 53% ต่อ range ของ BB ที่ 47%  ซึ่งอาจดูไม่มากนัก แต่มันสะสมเพิ่มขึ้นได้มากในระยะยาว  ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณมีโอกาสชนะ 53% ในการทายโยนเหรียญครั้งละ 1 ดอลล่าร์ 1 ล้านครั้ง? โดยเฉลี่ยแล้วคุณจะรวยแค่ไหนโดยการโยนครั้งที่ล้าน?

BU bet ที่จุดนี้ 74% ของทุกครั้ง นับว่าเป็นเรื่องปกติเนื่องจาก equity ของเขานำอยู่และต้องการ deny equity กับ weak hand ของคู่ต่อสู้ ที่ควรจะ fold บ่อยมากขึ้นกว่ากรณีที่ range ของทั้งสองคนเท่าเทียมกัน

Nut Advantage บน 862r 

บน paired flop ที่เราได้ดูในครั้งที่แล้ว โอกาสที่ BB จะติด trip นั้นเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ลบล้างความได้เปรียบของ BU pre-flop nut advantage ที่มีโอกาสถือ pair ใหญ่ๆอยู่ฝ่ายเดียว  ทำให้ nut advantage นั้นเท่าเทียมกันบน paired flop   

แต่บน flop 8♥6♦2♣ มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ overpair นอกจากว่า BB จะ call open raise มาด้วยไพ่แย่ๆที่ควรจะ fold ไปมากกว่า  เขาจะมีได้แค่ 88 (บางครั้ง) 66, 22 และ 86s ที่จุดนี้  ซึ่งเป็น combination ที่น้อยมากจน BB แทบจะสามารถสรุปได้ว่า big pair ของเขายังเป็น nut อยู่ – อย่างน้อยก็ในตอนนี้

จำไว้ว่าเมื่อ range ของเรามี nut advantage  เราจะต้อง bet ใหญ่ๆบ่อยขึ้นเพื่อที่จะ build pot ให้ใหญ่มากๆ  ถ้า hand ของเราแทบไม่มีโอกาสแพ้ที่ showdown เราก็ควรจะใส่เงินลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  และ BU สามารถ balance value bet ใหญ่ๆพวกนี้ (เช่น 99) ด้วย bluff อย่าง JTo

ในทางทฤษฎีนั้นสามารถ bet อย่างน้อย 75% ของ pot ด้วย hand จำนวนมาก เวลาที่เรามี nut advantage

สร้าง Checking Range บน 862r 

BU ควรที่จะ check บาง hand ที่จุดนี้ (ตัวเลขที่ชัดเจนคือ 26%) ซึ่งตามปกติจะเป็น hand ที่มี showdown value อยู่บ้าง – หมายความว่า BU จะสามารถชนะได้โดยไม่ improve เลยที่ showdown ได้บ้างพอสมควร  ซึ่ง hand เหล่านั้นจะไม่สามารถ value bet ได้และไม่มีความจำเป็นที่ต้อง bluff  ตามทฤษฎีเกม hand ที่  BU จะ check บ่อยที่สุดที่จุดนี้คือ A9o ที่ไม่มี backdoor flush draw แต่ยังมี showdown value อยู่มาก  มันเป็น hand ที่อยู่ใน middle range มากๆจนทำให้การ check สามารถช่วยแก้ปัญหา เพราะถ้าเราเลือกที่จะ bet ก็จะถูก call จาก hand ที่ดีกว่าเท่านั้น  ตามที่กล่าวมาหมายความว่านี่คือจุดที่ดีมากสำหรับ range ของ ผู้เล่นที่มี position และสามารถ bet hand อย่าง A9o เพื่อปกป้องได้  เราได้เห็นในบทความที่แล้วว่าเมื่อคู่ต่อสู้จะต้อง fold บ่อยๆ  เราก็ต้องการที่จะ deny equity ของ live card ของเขาให้มาก  ดังนั้นการ bet ด้วย A9o ที่จุดนี้ก็ยังนับว่าดีทางทฤษฎีในบางครั้งเพราะว่า EV ที่ได้รับจากการ fold hand อย่าง QJo

เช่นเดียวกับการ check ด้วย ace-high ที่กลางๆบาง hand  BU สามารถที่จะ check behind ในบางครั้งด้วย hand อย่าง second pair ที่มี kicker ไม่ดีนัก เพราะพวกนี้จะไปอยู่ในกลุ่มเดี๋ยวกับ bluff-catcher  และสุดท้ายเราสามารถยอมแพ้ด้วย air hand อย่าง K♠3♠ ได้บ้าง แต่ก็สามารถใช้ bluff ได้ในบางโอกาสด้วยเช่นกัน  เมื่อ range ของเรามี equity advantage และเรายังมี position ก็ไม่มีอะไรที่จะบอกได้จริงๆว่า hand ไหนๆที่แย่เกินไปที่จะ bluff!

บทสรุป

ลองดูจาก range ด้านล่างนี้ และดูว่าเราสามารถใช้มันเพื่อเสริมความเข้าใจทางทฤษฎีของเราที่ได้พูดกันไปในบทความนี้ได้หรือไม่  

Dark Red = Big Bet (75% Pot)
Light Red/Pink = Small Bet 33% Pot)
Green = Check

Source:
https://www.pokerstarsschool.com/strategies/the-game-theory-of-board-texture-part-2-low-unpaired-flops/