Block Bet คืออะไร แล้วเราควรใช้เมื่อไหร่?

block bet คือกลยุทธ์โป๊กเกอร์อย่างหนึ่งซึ่งใช้กันมาสักพักแล้ว

หลายปีมาแล้วที่ผู้เล่นต่างก็ถกเถียงถึงประสิทธิภาพของการนำมันมาใช้ แต่เมื่อตอนนี้เรามี solver ก็ทำให้เรามีหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่พิสูจน์ได้ว่า block bet คือการเล่นที่ถูกต้องในบางสถานการณ์

บทความนี้จะพูดถึงว่า block bet คืออะไร และเราควรใช้มันเมื่อไหร่

มาเริ่มกัน!

Block Bet คืออะไร?

block bet คือ การ bet ด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็ก (ประมาณ 20-40% ของ pot) จากผู้เล่นที่ out of position จุดประสงค์โดยทั่วไปของการ block bet คือเพื่อป้องกันไม่ให้เจอการ bet ใหญ่จากคู่แข่ง ถ้าเกิดเรา check ไป

แต่บางที บางคนก็เรียกว่า blocker bet ได้เหมือนกัน

เราควรใช้ Block Bet เมื่อไหร่?

เมื่อมีสถานการณ์ 4 อย่างนี้เกิดขึ้นขณะเล่น เราควรพิจารณาการใช้ block bet :

  1. เรา out of position ที่ river
  2. แฮนด์ของเรามีโอกาส (แต่ไม่ 100%) ที่จะชนะคู่แข่งได้ (มี equity >50% ในการสู้กับ range ของคู่แข่ง)
  3. ถ้าใช้ bet กลางหรือใหญ่ เราอาจจะโดน call กับแฮนด์ที่ดีกว่าบ่อยเกินไป
  4. ถ้าเรา check อาจจะเจอคู่แข่งกดดันหนักด้วยการใช้ bet กลางหรือใหญ่ได้

สถานการณ์โดยส่วนใหญ่ที่ใช้ Block Bet

สถานการณ์ไหนที่เหมาะกับกลยุทธ์นี้? เราลองมาดูตัวอย่างกัน

1. preflop raiser check มาติดกัน 2 ครั้ง

ตัวอย่าง : BTN raise และ BB call ด้วย 6♦ 6♣ flop ออกมาเป็น J♠ 7♥ 2♠ และทั้งคู่ check turn ตกมาเป็น 5♣ และทั้งคู่ก็ check อีกครั้ง แล้ว river ตกมาเป็น 3♠

ณ จุดนี้ BB อาจจะพิจารณาใช้ block bet เพื่อหวังจะให้แฮนด์อย่าง A-high, 2x หรือ 5x call มาได้

2. preflop raiser c-bet ที่ flop แล้ว check back ที่ turn

ตัวอย่าง : BTN raise และ BB call ด้วย A♠ 7♠ flop ออกมาเป็น 7♣ 5♠ 2♥ และ BTN check call bet ไป turn ตกมาเป็น J♣ และทั้งคู่ check แล้ว river ตกมาเป็น Q♦

ณ จุดนี้ BB อาจจะพิจารณาใช้ block bet เพื่อหวังจะให้แฮนด์อย่าง 5x และ 2x call มาได้

3. เรา check-raise ที่ flop และยิงต่อที่ turn แล้ว river ออกมา complete หลาย draw (แต่ไม่ทั้งหมด)

ตัวอย่าง : BTN raise และ BB call ด้วย 4♣ 4♥ flop ออกมาเป็น J♠ 4♠ 3♦ และ BB  check-raises เมื่อเจอ bet และ BTN call turn ตกมาเป็น T♦ และ BB bet ต่อ ซึ่ง BTN ก็ call ตาม แล้ว river ตกมาเป็น 7♠

BB อาจจะพิจารณา block bet ด้วย set* เพื่อหวังจะให้แฮนด์อย่าง Jx และ overpair (ที่ BTN อาจจะ fold ถ้าเจอ bet ใหญ่ๆ) call มาได้

*BB จำเป็นต้อง block bet กับแฮนด์ที่เป็น nut (เช่น flush) บ้าง เพื่อปกป้อง block bet ทั้ง range โดยรวม

4. เรา c-bet ที่ flop โดย out of position และ bet อีกที ที่ turn

ตัวอย่าง : CO raise ด้วย T♠ T♥ และ BTN call CO c-bet และโดน call บน flop 9♠ 8♣ 2♦ CO bet ต่อที่ turn ที่ตกมาเป็น 4♠ และ BTN ก็ยัง call ตาม แล้ว river ตกมาเป็น K♠

CO อาจจะพิจารณา block bet ณ จุดนี้ โดยหวังให้แฮนด์อย่าง 9x call มาได้ 

5. เรา c-bet ที่ flop โดย out of position และ check ทั้งคู่ที่ turn

ตัวอย่าง : CO raise ด้วย K♣ 8♣  และ BTN call flop ออกมาเป็น 8♠ 7♠ 2♦ ซึ่ง CO c-bet และ BTN call turn ตกมาเป็น Q♠ และทั้งคู่ check แล้ว river ตกมาเป็น 5♦

CO อาจจะพิจารณา block bet ณ จุดนี้ โดยหวังให้แฮนด์อย่าง J8 หรือ 7x call มาได้ 

โน้ตว่า วิธีการเล่นในสถานการณ์เหล่านี้ อาจจะปรับใช้กับการเล่น mutiway pot ด้วยได้เช่นกัน

ประโยชน์อย่างที่สองของ Block Bet

การใช้ block bet จะมีประโยชน์เพิ่มขึ้น ถ้าเรารู้จักใช้กลยุทธ์ block bet ที่สร้างขึ้นมาได้ดีพอ…

การ block bet บังคับให้คู่แข่งต้องเลือกวิธีการตอบโต้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำ ถ้าเขาไม่ได้ศึกษาการตอบโต้การ block bet มาดีพอ

นั่นทำให้ คู่แข่งของเราจะถูกจัดอยู่พวก 1 ใน 2 ประเภทนี้ เมื่อเจอ block bet คือพวกที่ bluff บ่อยเกินไป หรือ bluff น้อยเกินไป ถ้าเราสามารถจัดได้ว่าคู่แข่งของเราเป็นพวกไหน เราจะสามารถเรียก expected value (EV) ได้มากขึ้น จากการที่เราสามารถ hero call ยากๆ (เมื่อเจอกับพวก bluff บ่อยเกินไป) หรือจากที่เรา fold raise ใหญ่ๆ (เมื่อเจอกับพวก bluff น้อยเกินไป) ได้ 

ตัวอย่างการเล่นบน Single Raised Pot

ลองมาดูตัวอย่างพื้นๆกัน

สมมติว่าเรากำลัง defend BB เมื่อเจอกับ  preflop raise จาก BTN และเล่นต่อด้วยการ call c-bet 33% ของ pot ที่ flop และ check ทั้งคู่ที่ turn

board ทั้งหมดออกมาเป็น T♥ 4♣ 3♦ 7♠ Q♥. 

และนี่คือวิธีการเล่นที่ solver ถือว่า เป็นกลยุทธ์ที่จุดดุลยภาพ (GTO) ของผู้เล่นที่ตำแหน่ง BB :

single raised pot block bet example

สีน้ำตาลที่อ่อนที่สุด คือการ bet ที่ 25% ของ pot

เมื่อสังเกตให้ดีในตาราง เราจะเห็นว่า แฮนด์ที่ solver ชอบที่จะใช้ block bet ส่วนใหญ่คือ :

  • second pair (แฮนด์พวก Tx)
  • คู่ 99 และคู่ 88
  • middle pair (แฮนด์พวก 7x)
  • top pair หรือที่ดีกว่านั้น บางแฮนด์*

*รวมถึงแฮนด์กลุ่ม strong hand ที่อยู่ใน block bet range เพื่อปกป้องส่วนที่เหลือของ range (บทความที่เกี่ยวข้อ : วิธีใช้ประโยชน์จาก (และป้องป้อง) Capped Ranges)

แฮนด์กลางๆอย่าง second/third pair คือหัวใจของ range นี้ และแฮนด์เหล่านั้นจะมี equity อยู่ระหว่าง 60 and 70% กล่าวคือ มีโอกาสสูงที่แฮนด์เหล่านี้จะเป็น best hand ในตอนนี้

แต่ equity ของแฮนด์เหล่านั้น จะลดลงอย่างมาก เมื่อเจอกับ range ที่ call bet ขนาดกลาง หรือใหญ่มาได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเรา bet ครึ่ง pot หรือมากกว่านั้น range ที่จะ call มาได้ จะมี equity สูงกว่า 50% เมื่อเจอกับแฮนด์พวก 7x ของเรา

ประโยชน์เพิ่มเติมเล็กน้อย : แฮนด์พวก 88, 99 และ Tx จะยังคงมี equity สูงกว่า 50% เมื่อเจอกับ calling range ของคู่แข่ง เมื่อเราใช้ bet ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ถ้าเราแยก 7x ออกจากแฮนด์ที่ค่อนข้าง strong เล็กน้อยเหล่านั้น จะทำให้ BTN เริ่มที่จะ raise เพื่อเรียก value เล็กน้อย แบบง่ายๆ เมื่อเจอกับ block bet ของเราได้ ทำให้เขามีโอกาสชนะ pot ด้วยการ bluffs ได้มากขึ้น

ตัวอย่างการเล่นบน 3-Bet Pot

อีกตัวอย่างที่เจอบ่อยๆ คือเมื่อเรา 3-bet จาก SB เจอกับ BTN แล้วเขา call มา

สมมติเรา c-bet เล็กที่ flop A♦ J♦ 4♠ แล้วโดน call จากนั้น 7♥ ตกที่ turn แล้วทั้งคู่ check-check และ river ตกมาเป็น 6♠

และนี่คือวิธีการเล่นที่ solver ถือว่า เป็นกลยุทธ์ที่จุดดุลยภาพ ของผู้เล่นที่ตำแหน่ง SB :

3-bet pots block bet example

second pair บางแฮนด์ (เช่น KJ) จากใช้ block bet แต่ก็มี top pair หลายแฮนด์ที่ใช้ bet ขนาดนี้เช่นกัน ณ จุดนี้ top pair เหล่านั้นจะมี equity สูงกว่า 85% ซึ่งเป็นความแตกต่างที่สำคัญเมื่อเทียบกับตัวอย่างบน single raised pot

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?

เหตุผลก็เพราะ ใน 3-bet pots range จะแคบลงอย่างมาก ทำให้เรื่อง blocker/card removal effect มีผลมากขึ้น เมื่อเรามี top pair ที่มี A ในตัวอย่างนี้ ทำให้เรา block สัดส่วนของ range ที่คู่แข่งจะสามารถ call bet 75% ไปได้เยอะมากๆ

เมื่อเจอการ bet ที่ 75% ของ pot ในสถานการณ์ข้างต้น BTN สามารถ fold second pair ไปได้ครึ่งหนึ่ง โดยที่ยังเล่นได้บาลานซ์อยู่ ทำให้การ bet ใหญ่ที่มี A นั้น ค่อนข้างได้ประโยชน์มาก แต่ A นั้นไม่ได้ block range ที่ call มาเมื่อเจอการ bet 25% ของ pot ได้มากเท่าไหร่

KK และ QQ มี equity ประมาณ 65% แต่ไม่ค่อยอยากจะ value bet ด้วย bet กลางหรือใหญ่เท่าไหร่ ถ้า การ check แล้วเจอ bet กลับมา 75% ของ pot ก็เป็นสิ่งที่เราไม่อยากเจอ ขณะที่ ถ้าเรา bet ¼ ของ pot จะช่วยลดการเสียเงิน เมื่อเจอ top pair และยังได้ value จากแฮนด์อย่าง Jx ได้ดีกว่า

สรุปเนื้อหา

block bet คือเครื่องมือหนึ่งในกล่องเก็บเครื่องมือของผู้ชนะ ให้พิจารณาว่าการใช้ block bet เป็นทางเลือกที่เหมาะสมหรือไม่ เมื่อเราเล่นถึง river โดยที่เรา out of position แล้วอยากจะทำให้คู่แข่งกับเรายากๆ ได้บ่อยขึ้น

https://upswingpoker.com/block-bet/