7 ความรู้พื้นฐาน : Bankroll Management

bankroll เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ถ้ายังไม่รู้ว่า bankroll คืออะไร เรามาเริ่มทำความรู้จักจากบทความนี้กันเลย

การบริหารและจัดการ bankroll

ทักษะการบริหารเงินที่ดีเป็นปัจจัยที่สำคัญปัจจัยนึงที่ทำให้ผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพประสบความสำเร็จ ถ้าเราไม่มีความสามารถในการบริหารเงินก็มีสิทธิที่จะทำให้เราเล่นแล้วหมดตัวได้ บทความนี้เราจะมาพูดถึงการบริหารเงินอย่างง่ายๆกัน

การจัดการ bankroll คืออะไร ?

bankroll คือ เงินจำนวนนึงที่เราแบ่งเอาไว้เพื่อใช้สำหรับการเล่นโป๊กเกอร์โดยเฉพาะ การจัดการ bankroll จึงหมายถึง การจัดการจำนวนเงินที่จะนำมาเล่นในแต่ละครั้งเพื่อป้องกันการสูญเสีย bankroll ทั้งหมด บางครั้งเราอาจจะเจอตัวย่อ BRM (Bankroll management) ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกันนั้นเอง

ทำไมการจัดการ bankroll จึงสำคัญ ?

ความผันผวนเป็นเรื่องปกติของการเล่นโป๊กเกอร์ที่ผู้เล่นทุกคนเข้าใจกันเป็นอย่างดี เราจะเจอทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่เลวร้ายปะปนกันไป การจัดการ bankroll จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการจัดการกับความแปรปรวนเหล่านั้นและทำให้เราสามารถเล่นต่อไปได้โดยไม่หมดตัว ถ้าเรามีการจัดการ bankroll ที่ดี ต่อให้เราเจอ bad beat ติดๆกัน หรือสถานการณ์เลวร้ายยังไง bankroll ของเราก็จะยังคงเหลือ เพราะเราจะรู้ลิมิตการเล่นของตัวเองว่าเล่นได้มากน้อยแค่ไหน

แล้วเท่าไหร่ถึงจะดีล่ะ ?

ถ้าจะเล่น no limit Hold’em แบบปลอดภัยไร้กังวล bankroll ทั้งหมดที่เราจะต้องมีคิดเป็น 20 เท่าของมูลค่าเต็มจากการ buy-in หมายความว่า ถ้าเราจะเล่นเกม $1/$2  buy-in สูงสุด $200 เราจะต้องมี bankroll ทั้งหมดอย่างน้อย $4000 นั้นเอง หรือจะใช้วิธีคำนวณ5% จากมูลค่า bankroll ทั้งหมดที่เรามีก็ได้ เช่น ถ้าเรามี bankroll ทั้งหมด $4000 ให้เราแบ่งเงิน 5% เพื่อเล่นในแต่ละครั้ง ซึ่งก็คือ $200  จะเห็นได้ว่ามูลค่าของทั้ง 2 วิธีนั้นเท่ากัน จะคำนวณแบบไหนก็อยู่ที่เราถนัดเลย

ถ้าชอบเล่น limit Hold’em เราจะต้องมีอย่างน้อย 300 big blind เป็นขั้นต่ำ สมมุติว่าเล่น  $1/$2 limit Hold’em เราจะต้องมี bankroll ทั้งหมดอย่างน้อย $600 นั้นเอง

การบริหาร bankroll ที่เราแนะนำสำหรับการแข่งขันนั้นก็คือ เราจะต้องมี bankroll เป็น 40 เท่าของราคา buy-in ในการแข่งขันนั้นๆ อย่างเช่น เราอยากจะเล่น $10+$1 Sit n Go’s เราจะต้องมี bankroll ทั้งหมดอย่างน้อย $440 นั้นเอง

เพื่อให้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนและเข้าใจมากยิ่งขึ้น ลองดูตามตารางด้านล่างนี้ เป็นการจัดการ bankroll โดยคำนวณจากวิธีด้านบนนั้นเอง

ถ้าเราอยากได้รับโอกาสที่จะสร้างกำไรให้ได้มากที่สุดในการเล่นโป๊กเกอร์ Texas Hold’em โดยไม่หมดตัวแล้วล่ะก็ เราจะต้องเริ่มฝึกการบริหาร bankroll ของเราให้เหมาะสมกันแล้วล่ะ

การจัดการ bankroll สำหรับผู้เล่นมืออาชีพ

ถ้าเราตั้งใจที่จะเล่นโป๊กเกอร์เพื่อยึดเป็นรายได้หลักในการดำรงชีวิตแล้วละก็ เราไม่สามารถใช้ตารางการจัดการ bankroll ตามด้านบนนั้นได้ เพราะว่าจำนวนเงินส่วนนึงจะต้องถูกดึงออกมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้เล่นมืออาชีพจำเป็นจะต้องมี bankroll ที่สูงกว่าผู้เล่นปกติ

การจัดการ bankroll บนโต๊ะที่มีผู้เล่นไม่มาก

เกมที่มีคนเล่นน้อยๆมักจะมีความแปรปรวนที่สูงกว่าปกติ เนื่องจากเราอาจจะมีส่วนร่วมใน pot มากกว่าปกติและเล่นมีโอกาสที่จะ range ไพ่กว้างกว่าเดิม ทำให้อัตราการแพ้ชนะมีความผันผวนมากกว่าเกมปกติ ทำให้เราต้องเพิ่มขนาด bankroll ให้สูงขึ้นเล็กน้อย อาจจะบวกขึ้นจากเดิม 2-3 buy-in

วิธีการเล่นและความแปรปรวน

สไตล์การเล่นมีส่วนช่วยในการจัดการ bankroll เช่นกัน อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นว่าการจัดการ bankroll เป็นตัวช่วยจัดการกับความแปรปรวนได้ ผู้เล่นแบบ tight จะมีความแปรปรวนในการเล่นต่ำกว่าผู้เล่นแบบ loose เนื่องจากมีเปอร์เซ็นต์ในการเล่นไพ่ที่น้อยกว่า ยิ่งเปอร์เซ็นต์ในการเล่นยิ่งสูง ความแปรปรวนก็จะสูงตามไปด้วย จึงทำให้ผู้เล่นแบบ tight สามารถลดจำนวน bankroll ลงได้นิดนึง และ ผู้เล่นแบบ loose ควรจะเพิ่มจำนวน bankroll ขึ้นอีกนิดนึงเช่นกัน

ยอมรับความสูญเสียและก้าวต่อไป

เวลาที่เราต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย จิตใจของเราจะรู้สึกไม่มั่นคง กลัว สูญเสียความมั่นใจในการเล่น ซึ่งการจัดการ bankroll มีส่วนช่วยบรรเทาอาการทางจิตใจที่จะเกิดขึ้นได้

สมมุติว่าเรามี bankroll ทั้งหมดอยู่ $2,000 หรือ 10 เท่าของการ buy-in ในเกม $1/$2 no limit Hold’em และเราเล่นเสียไป 4 buy-in ตอนนี้ bankroll ทั้งหมดของเราจาก $2,000 เหลืออยู่แค่ $1,200 เท่านั้นเอง ดูเหมือนจะหายไปเยอะพอสมควร ซึ่งส่งผลให้เราเริ่มรู้สึกกลัวที่จะเสียมากขึ้นและมีวิธีการเล่นที่เปลี่ยนไป ในเคสเดียวกัน แต่เรามีการจัดการ bankroll ตามข้อข้างต้น เราจะมี bankroll ทั้งหมดอยู่ที่ $4,000 หรือ 20 เท่าของการ buy-in และเมื่อเล่นเสียไป 4 buy-in bankroll ของเราก็ยังเหลืออยู่ $3,200 เราจะเห็นได้เลยว่าตัวเลขที่คงเหลืออยู่นั่นให้ความรู้สึกแตกต่างกันมาก ซึ่งทำให้เรารู้สึกสบายใจในการเล่นต่อไปได้ดีกว่าในกรณีแรก

ขยับลิมิตและเล่นเกมที่สูงขึ้น (take shot)

Bankroll ของเราจะขยับสูงขึ้นและลดต่ำลงตามการเล่นได้-เสียของเรา ถ้า bankroll ทั้งหมดของเรามีต่ำกว่า 20 เท่าของการ buy-in เราควรจะขยับไปเล่นเกมที่เล็กลง เพื่อสร้าง bankroll ของเราให้สูงขึ้นและสามารถกลับมาเล่นในเกมไซส์เดิมได้ ในทางกลับกัน ถ้า bankroll ทั้งหมดของเรามีมากกว่า 20 เท่าของการ buy-in และเรามีความมั่นใจในการเล่นเพิ่มมากขึ้น เราสามารถขยับขึ้นไปเล่นเกมที่ใหญ่ขึ้นได้ แต่ถ้าขยับขึ้นไปเล่นแล้วรู้สึกว่ามีโอกาสที่จะเสียมากกว่าได้ ก็ไม่ผิดอะไรถ้าจะลดลงมาเล่นเกมไซส์เดิม

เทคนิคนึงที่มีประโยชน์มากๆเวลาที่เราขยับขึ้นไปเล่นเกมที่สูงขึ้น คือ ไม่จำเป็นต้อง buy-in เข้าไปเต็มจำนวนในการเล่นแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเกมที่ใหญ่ขึ้นและป้องการ bankroll ของเรานั่นเอง

Source :: http://www.thepokerbank.com/strategy/basic/bankroll-management/