4 เหตุผลที่ไม่ควร Straddle

poker straddle

4 เหตุผลที่ไม่ควร Straddle

ผู้เล่นบางคนรู้สึกว่า straddle เป็นความคิดที่แย่  ในบทความที่แล้วเราได้พูดถึงเหตุผลและประโยชน์ในการ straddle กันไปแล้ว  วันนี้เราจะมาดูเหตุผลที่ไม่ควร straddle กันบ้าง

  • มีโอกาสเสียเงินมากขึ้น  นักโป๊กเกอร์ที่มีประสบการณ์จะบอกว่าการ bet โดยที่ไม่ได้ดูไพ่ก่อนนั้นจะมี EV ที่เป็นลบ  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตำแหน่ง blind มักจะเสียเงินในเกม poker  และเวลาที่เรา straddle จาก UTG มันก็เหมือนกับเราใส่ blind ที่ 3 ซึ่งมันจะทำให้เราเสียเปรียบเหมือนกับในตำแหน่ง big และ small blind  ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะ straddle จากตำแหน่ง UTG  โปรโป๊กเกอร์สวนใหญ่จะมี winrate ที่ดีจากทุก position ยกเว้นตำแหน่ง blind 
  • มีความกดดันมากขึ้น ถ้าทุกคนบนโต๊ะ straddle กันหมด เกมก็จะใหญ่ขึ้นทันที  แล้วเช่นเดียวกับทุกๆเกม ยิ่ง stake ใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความกดดันที่จะชนะมากขึ้นเท่านั้น  ความกดดันนี้เองที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดและทำให้เราไม่สามารถอยู่ในเกมปกติของเราได้  นอกจากว่าเราได้วางแผนการเล่นไว้อย่างดีแล้ว ไม่อย่างนั้นการ straddle ก็อาจส่งผลเสียกับเราได้
  • ทำให้กลยุทธ์เปลี่ยนไป ในเกม $2/$5  การ straddle จะทำให้ blind เปลี่ยนเป็น $5/$10 หมายความว่า stack ของ player ที่เริ่มเกมด้วย 100bb stack ก็จะลดลงเหลือเพียง 50bb  และนี่อาจเป็นปัญหาถ้าเรามีกลยุทธ์การเล่น 100bb ที่ดี แต่อาจจะยังเล่นไม่ดีนักกับ 50bb stack

สูญเสียความได้เปรียบช่วง postflop การที่ straddle ทำให้ stack size ลดลงอาจเป็นเรื่องที่แย่ถ้าเราได้เปรียบผู้เล่นคนอื่นในช่วง postflop  เพราะถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังได้เปรียบ เราก็ควรจะมี stack size ใหญ่กว่าเพื่อที่จะกินให้คุ้ม  แต่การ straddle จะทำให้ SPR ลดลง และนั่นคงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ

ควรจะเล่นกับ Straddle อย่างไร

ถึงแม้เราจะตัดสินใจไม่ straddle แต่ก็อาจจะมีใครบางคนบนโต๊ะ straddle ขึ้นมา  และเราได้รู้ไปแล้วว่า การ straddle จะทำให้ stack size ลดลงซึ่งจะเปลี่ยนกลยุทธ์ preflop  และมันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องเรียนรู้การรับมือกับ straddle

การมี short stack นั้นหมายความว่าเราไม่มีความได้เปรียบของ SPR สูงๆช่วง postflop  ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เล่น drawing hand ยากขึ้นมาก  ดังนั้นเราจึงควรมีความรู้พื้นฐานในการใช้ leverage stack size ในการเล่นด้วย

  • อย่าสนใจ suited connector และ small pair เพราะเราจะไม่สามารถเล่นไพ่พวกนี้ได้กับ short stack  เราอาจจะลองดูก็ได้ แต่มันจะเป็นการเล่นที่ยากขึ้นมากเลย
  • อย่า Call การ Raise ถ้า 100bb ของเราลดลงเหลือเพียง 50bb จากการ straddle มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้อง call การ raise ช่วง preflop ถ้าไม่มีไพ่ที่ดีจริงๆ  เหตุผลเพราะ preflop raise จะทำให้เราเสียสัดส่วน stack มากเกินไปและไม่คุ้มที่จะ call การ raise 
  • อ่านคู่ต่อสู้ที่ Straddle ก่อนที่เราจะลงไปเล่น straddle เราต้องอ่านคู่ต่อสู้ที่ straddle ว่าเขาเป็น player แบบไหน  เขาจะทำยังไงถ้าเรา limp? หรือถ้าเรา open-limp หรือ open raise ล่ะ? นี่คือคำถามที่เราควรจะมีคำตอบไว้ เช่น Straddler บางคนจะปกป้องการ straddle ของตัวเองมากเกินไปและมักจะ call preflop raise เสมอ
    straddler บางคนจะ raise ทุกครั้งที่ถูก limp  และก็ยังมีบางส่วนที่จะเล่นเหมือนเป็น pot ปกติ  เราต้องคอยสังเกตเพื่อที่จะสามารถหลอกล่อ straddler ให้ raise ด้วยการ limp big hand เข้าไป  มันอาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่เมื่อมันเกิดก็ค่อนข้างจะคุ้มค่าเพราะเราได้ exploit ผู้เล่นที่ aggressive นี้ได้ง่ายๆ
  • Raise size ให้เหมาะสม ใน cash game ปกติ เราควรจะ raise ระหว่าง 2.2 ถึง 3 blind  เพราะเป็นขนาดการ raise ที่ดี  และทำให้ big blind ต้องป้องกันการ straddle ด้วย range ที่อ่อนและกว้างและยังต้องเล่น out of position อีกด้วย
    เมื่อมี straddle ในเกม นั่นหมายความว่าเรามี big blind ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก  ดังนั้นเราจึงควร bet โดยอ้างอิงกับ straddle เหมือนที่เวลาปกติเราอ้างอิงกับ big blind  ดังนั้นถ้าปกติเรา raise 3bb เมื่อมี straddle เกิดขึ้น เราก็ควรจะ raise 3x ของ straddle หรือ 6bb นั่นเอง  ถ้าเราอยู่ในเกม $2/$5 ด้วย stack $500 และผู้ต่อสู้ลง straddle $10 ถ้าเราจะ raise ก็ควรเป็น $30
  • ปรับกลยุทธ์ Postflop เราอาจจะมี 100bb ที่ preflop แต่การ straddle ทำให้ stack ของเราลดลงเหลือ 50bb และส่งผลให้ SPR ลดลงไปด้วย และทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ในการเล่น
    ในเกมปกติ ถ้าผู้เล่น raise preflop 2.5bb และมี 1 caller เราก็จะมี 6bb ใน pot และยังเหลืออีก 97.5bb กรณีนี้ SPR = 15.75 และนั่นค่อนข้างจะ deep
    คราวนี้ลองมาเปรียบเทียบในเกม straddle  ถ้าผู้เล่น raise preflop 2.5bb ของ straddle และมี 1 caller เราก็จะมี 12bb ใน pot และยังเหลืออีก 95bb กรณีนี้ SPR จะลดลงเหลือ 8  ทำให้ player ในเกม straddle มีพื้นที่ในการรบน้อยลงเมื่อเทียบกับการเล่นใน blind ปกติ
    อีกกรณีถ้าผู้เล่น raise preflop 2.5bb จากนั้นได้ call 3-bet ของคู่ต่อสู้ที่ 8.5bb  ทำให้มีประมาณ 18bb ใน pot และยังเหลืออีก 91.5bb  ในกรณีนี้ SPR จะมากกว่า 5 เพียงเล็กน้อย  สิ่งที่เราได้เห็นก็คือ สัดส่วนของ single-raise pot ในเกม straddle งั้นใกล้เคียงกับสัดส่วนของ 3-bet pot ในเกมปกติ  นั่นเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าเราควรจะใช้กลยุทธ์แบบไหน

สรุปว่าเราควรจะ Straddle ดีไม๊?

โปรโป๊กเกอร์หลายๆคนจะบอกว่า straddle เป็นสิ่งที่ไม่ดี…ซึ่งก็ถูกของพวกเขานะ!  จากที่เราได้พูดกันไปแล้วว่า สถิติการเล่นเสียที่ตำแหน่ง blind นั้นสูงกว่าในตำแหน่งอื่นๆบนโต๊ะ  ดังนั้นการตั้งใจใส่ blind bet ก็ดูจะเป็นไอเดียที่ไม่ฉลาดนัก  ถ้าเราจะ straddle ก็ต้องทำจาก button เพราะเป็นตำแหน่งที่มีโอกาสที่จะชนะมากที่สุด

Player หลายคนแค่ straddle เพื่อความสนุก และบางคนอาจแค่ต้องทำตามทุกคนบนโต๊ะ  แต่เราไม่ควรปล่อยให้แอคชั่นบนโต๊ะมาบังคับให้เราต้อง straddle ถ้าเราไม่ต้องการ เราก็ไม่ควรจะทำ 

Source:
4 Reasons to Straddle and 4 Reasons not to
https://pokerfortress.com/straddle-in-poker/