4 ปัจจัยที่ควรคิดก่อน Hero Call

เวลาที่ถูก bet โดยที่เราถือ marginal hand เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่อึดอัดที่สุดในเกม poker  และบอกได้เลยว่าไม่ใช่มีแต่เราที่เคยรู้สึกไม่แน่ใจ spot แบบนี้  เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะ “hero call” ด้วย “bluff-catcher” อย่างถูกต้อง

แทนที่จะคิดตัดสินใจไปเองว่าคู่ต่อสู้ “มีหรือไม่”  เราควรตั้งเป้าหมายที่จะใช้หลักการในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จากข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่

บทความนี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นในสถานการณ์เหล่านี้ด้วยการโฟกัสที่สิ่งสำคัญที่สุด 4 อย่างในการ bluff-catching:

  • Bet size
  • Betting Range ของคู่ต่อสู้
  • Blockers
  • Backup equity

เริ่มต้นกันด้วยตัวอย่าง hand ที่เล่นโดย Jason McConnon (cash game crusher) ในเกม Zoom  $2/$5 ของ PokerStars จากนั้นเราจะลงรายละเอียดของ hand ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ Jadon ตัดสินใจลำบากที่ river

The Hero Call

6-Handed Zoom $2/$5 Online Zoom Effective Stack $530.71
Jason ถือ K♦ Q♠ on ที่ button.
Jason raise $12.00 จากนั้น big blind re-raise $51.75 และ Jason call
Flop ($103.00): 8♣ 5♠ A♦
Big blind bets $27.99 และ Jason calls
Turn ($158.98): 3♥
Big blind check และ Jason check
River ($158.98): 4♠
Big blind bets $61.77 และ Jason calls

มาเริ่มกันด้วยปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการ bet (ในทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่กับ hero call)

Bet Size เป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะ Call บ่อยแค่ไหน

Poker player จะพูดถึง pot odds กันมาก ด้วยเหตุผลที่ดีบางอย่าง  odds ในการ call ควรเป็นสิ่งสำคัญแรกที่ต้องคำนึงถึงทุกครั้งที่ถูก bet  ถ้าเจอกับ bet เล็กๆ เราจะสามารถ call ด้วย range ที่กว้างขึ้นกว่าการเจอ bet ใหญ่ๆ  นี่คือหนึ่งในพื้นฐานที่สุดของ poker strategy 

Pot odds ไม่มีความสำคัญที่ turn เพราะ player ทั้งสองคนเลือกที่จะ check  แต่ก็กลับมามีความสำคัญอีกครั้งที่ river เมื่อ Jason ถูก bet มา $61.77 ใน pot $158.98  ซึ่งเป็น bet size ที่เขาต้องชนะได้ 21.9% เพื่อให้การ call ของเขาทำกำไรได้ เพราะคู่ต่อสู้เลือกที่จะใช้ bet size เล็กๆทั้งที่ flop และ turn  ทำให้ Jason ต้องชนะได้เพียง 1/5 เพื่อให้การ call เป็น winning play ได้

เพื่อให้เห็นตัวอย่างที่ตรงกันข้ามสุดๆ  สมมุติว่าคู่ต่อสู้เลือก bet ใหญ่มากที่ river เช่น $200 ใน pot $158.98  Jason ก็ไม่น่าที่จะ hero call ด้วย K♦ Q♠ กับ bet size ขนาดนั้น  เพราะ pot odds ของเขาจะแย่มาก  จำเป็นต้องชนะมากกว่า 36% เพื่อทำกำไรได้

Betting Range ของคู่ต่อสู้?

สิ่งต่อไปที่เราต้องคำนึงถึงในการ hero call คือประเมิน betting range ของคู่ต่อสู้ว่าน่าจะประมาณไหน  จากตัวอย่างของ Jason ลองมาดูกันว่า 3-bet range ของ big blind น่าจะเป็นยังไงได้บ้างหลังจากเจอ open จาก button

จากรูปนี้ สีแดงคือ hand ที่ big blind จะ raise เสมอ สีส้มคือ hand ที่จะ raise บ้างบางครั้ง  และสีเขียวคือ hand ที่จะ call

Note: นี่คือหนึ่งใน 259 preflop range chart จาก Upswing Lab ซึ่งสามารถใช้เป็น range ของเราหรือใช้ประเมิน range ของคู่ต่อสู้ก็ได้

ด้วย flop 8♣ 5♠ A♦ value bet หลักๆที่คู่ต่อสู้จะมีที่ flop คือ AA (ในบางครั้ง) 88, A8s, A5s, AJs+ และ AJo+ สำหรับ weaker aces และไพ่คู่อื่นๆ  คู่ต่อสู้น่าจะใช้กลยุทธ์การเล่นแบบผสมผสาน โดยจะ bet บางครั้งสลับกับ check บางครั้ง  เพื่อปกป้อง check range ของเขา (ด้วยสมมติฐานว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่เข้าใจเกม)

Bluff range หลักๆของเขาจะมี straight draw อย่าง 76s และ hand ที่มี backdoor draw อย่าง JTs หรือ T9s  และยังมีโอกาสที่ 3-bet range ของคู่ต่อสู้จะมี suited gapper มากกว่าในรูปด้านบน  หมายความว่าเขาอาจจะ semi-bluff ด้วย hand อย่าง 64s และ 97s โดยเฉพาะพวกที่มี backfoor flush draw

คู่ต่อสู้ควรจะ bet ต่อด้วย hand ที่แข็งที่สุด (top pair ที่มี kicker ดีๆหรืออะไรที่ดีกว่า) ที่ turn เพื่อ build pot ให้ใหญ่ขึ้น ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเขา check มาจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมี  แต่เราจะยังเก็บบาง combo นั้นใน range ของคู่ต่อสู้เผื่อว่าเขาจะเล่นท่ายาก

และเรายังคาดว่าคู่ต่อสู้ควร bet ต่อด้วย draw อย่าง 76s หรือ 97s เพราะมีผู้เล่นน้อยมากที่จะ check ด้วย draw แบบนั้นหลังจากที่ได้ 3-bet preflop และ cbet flop มา  ทำให้เราสามารถลบ hand พวกนี้ออกจาก range ของคู่ต่อสู้ไปได้เลย

เมื่อมาถึง river เราสามารถประเมิน range ของคู่ต่อสู้ได้ว่า:

  • 25% ที่น่าจะมี AA, 88, A8s, A5s, AK, AQ, และ AJ combo สำหรับ value
  • A2s, ATs, A9s, A7s, A6s, A4s, A3s, สำหรับ value
  • JTs, J9s, และ T9s สำหรับ bluffs

จากการประเมิน range นี้ K♦ Q♠ ของ Jason จะมีประมาณ 29% equity (จากรูปด้านล่าง) ซึ่งมากกว่า 21.9% ที่ต้องการเพื่อให้การ call ทำกำไรได้

เมื่อ Blocker สำคัญกว่า Hand Strength

เมื่อเรามีแค่ bluff-catcher เท่านั้น หมายความว่า hand ของเราจะไม่ชนะ value range ของคู่ต่อสู้เลย  ในกรณีนี้ความแข็งของ hand ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยที่สำคัญนัก

แต่ card removal ที่มีผลกระทบจาก hand ของเราคือสิ่งที่สำคัญ  bluff-catching hand ที่ดีที่สุดจะ block value bet range แต่ไม่ block bluff range ของคู่ต่อสู้ 

เมื่อคิดถึง calling range ในสถานการณ์นี้ ก่อนอื่นเราต้องคิดถึง betting range ที่เป็นไปได้ของคู่ต่อสู้ให้ได้ก่อน  เช่นจากตัวอย่าง K♦ Q♠ ของ Jason เราได้ประเมินว่า range ของคู่ต่อสู้จะเป็น A9+ สำหรับ value range  และ JTs/J9s/T9s สำหรับ bluff range

สังเกตว่า hand ของ Jason ยังได้ block value range (AK, AQ) ของคู่ต่อสู้  แต่ไม่ได้ block bluff range ส่วนมาก (JTs, J9s, T9s)

จริงๆแล้ว K♦ Q♠ เป็น hand ที่ดีในการ hero call กว่าพวก middle pair อย่าง 98s หรือ T8s  การที่เราถือ T หรือ 9 ทำให้โอกาสที่คู่ต่อสู้จะ bluff น้อยลง  range ของ bluff combo น้อยลง  ทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสที่จะเป็น value range มากกว่า

ย้ำอีกครั้งว่า เราต้องการจะ call ด้วย hand ที่ block value range แต่ไม่ block bluff range ของคู่ต่อสู้  

Backup Equity มีประโยชน์ที่ Flop และ Turn

ในบางครั้งเราจะได้เจอกับ top range ของคู่ต่อสู้  แม้ว่าจะมี bluff-catching hand ที่สุดยอดสมบูรณ์แบบ  จึงเป็นเหตุผลที่ backup equity มีประโยชน์แม้จะไม่ได้มีความจำเป็นทั้งหมด ความหมายของ backup equity ในที่นี้คือโอกาสที่จะพัฒนาเป็น best hand ถ้าเรากำลังตามอยู่  ซึ่งแน่นอนว่าใช้ได้ที่ flop และ turn เท่านั้น 

แม้ว่า backup equity ไม่ได้เป็นปัจจัยใน hand KQ ของ Jason  แต่เราสามารถดูได้จากอีกตัวอย่างซึ่งเป็น live stream ที่เล่นระหว่าง Ryan LaPlante และ Andrew Neeme

เกม $5/$5 และ $10 straddle และ $20 double straddle Ryan ($580 stack) raise $75 จาก cutoff ด้วย A♥ 4♥ และ Andrew ($4,080 stack) call จาก button ด้วย K♦ J♦

Flop เป็น Q♦ 3♠ 2♦ Ryan cbet $60 และ Andrew call  ทำให้มี $315 ใน pot 9♥ มาที่ turn และ Ryan เล่นช้าลงด้วยการ check  Andrew ตัดสินใจ all-in ใส่ Ryan ด้วย $500 สุดท้ายของเขา (ประมาณ 1.6x overbet) หลังจากคิดสักพัก Ryan ตัดสินใจ hero call ด้วย ace-high และ gutshot straight draw

ทีนี้สมมุติว่า Ryan มี ace-high ตัวอื่นที่ไม่มี straight draw เช่น A♥ 8♥   ด้วย hand แบบนี้เขาจะ fold ค่อนข้างแน่นอน  แต่เพราะมี backup equity ทำให้เขาสามารถ call อย่างยากลำบาก ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาถูกต้อง

แต่น่าเสียดายสำหรับ Ryan ที่ J♥ ตกที่ river และ Andrew ได้ scoop pot ไป

ผลลัพธ์ของ Hero Call

มาสรุปด้วยการดูผลลัพธ์จาก hand ของ Jason 

River ($158.98): (8♣ 5♠ A♦ 3♥) 4♠
Big blind bet $61.77 และ Jason call

Big blind มี J♥ T♥
Hero มี K♦ Q♠
Jason ชนะ $282.52

Jason ได้ hero call อย่างถูกต้องด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดในสถานการณ์ยากๆ  เพราะถ้ามองครั้งแรก K♦ Q♠ อาจดูเป็นการ fold มากกว่าเพราะเราไม่มีคู่  แต่ในความจริงมันสามารถใช้ call ได้ถ้าเราพิจารณาปัจจัยที่ได้กล่าวมาทั้งหมดของการเล่นในสถานการณ์นี้

Source:
4 Factors to Think About Before Hero Calling
https://upswingpoker.com/hero-call-factors/