10 ข้อแนะนำสำหรับ Hold’em: ขนาดในการ Bet

คุณสามารถรู้ไพ่อีกฝ่ายได้ผ่านทางขนาดในการ Bet และขนาดในการ Bet ที่ดีของคุณ ก็จะทำกำไรได้มากและทำให้คุณเป็นโปรได้เร็วขึ้น

ในตอนท้ายของบทความ “Poker Tells 5 อย่างที่ควรสังเกต” เราบอกว่าผู้เล่นใหม่ไม่ต้องใส่ใจกับการมองหา Tells มากเกินไป มันจะดีกว่าถ้าโฟกัสที่รูปแบบการ Bet มากกว่าสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามพูดหรือทำ

รูปแบบการ Bet นี้เราหมายถึงเมื่อไหร่ที่ผู้เล่นมีแนวโน้มที่จะ Bet และพวกเขาจะ Bet เท่าไหร่ ให้จับตาดูทั้ง 2 อย่างนี้ให้ดี และให้จำรูปแบบที่แสดงออกมา มันสามารถช่วยคุณได้ดีเวลาที่พยายามจำกัดมือที่เป็นไปได้ที่ผู้เล่นคนนั้นอาจจะมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Live Poker ที่ผู้เล่นมักจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของมือเป็นจำนวนมากผ่านทางขนาดที่พวกเขา Bet

เราอธิบายขนาดในการ Bet ได้อย่างไร

ข้างล่างนี้เราจะได้รับความแตกต่างและตัวแปรบางอย่างที่สำคัญและส่งผลกับขนาดในการ Bet แต่ก่อนอื่นเราจะมาพูดคร่าวๆเกี่ยวกับขนาดในการ Bet หรืออย่างน้อยก็ปกติแล้วหัวข้อนี้เราพูดกันอย่างไร

เมื่อพูดถึงการ Bet Preflop เรานิยมพูดขนาดในการ Bet เป็นขนาดของ Big Blind ตัวอย่างเช่น ใน $1/$2 Cash Game (BB=$2) มีผู้เล่น Raise เป็น $8 สิ่งที่เห็นตรงนี้คือขนาดในการ Raise คือ 4 BB

การ Reraise ครั้งต่อไปก็พูดเป็นขนาดของ Big Blind ด้วยเช่นกัน หรือพูดเทียบกับขนาดของการ Raise ก่อนหน้านั้น เช่น หลังจาก Raise $8 มีผู้เล่น Reraise เป็น $23 เราสามารถพูดได้ว่า Reraise เป็น 11.5 BB หรือพูดว่า Reraise ประมาณ 3 เท่าของการ Raise ก่อนหน้านั้น

เมื่อพูดถึงการ Bet Postflop จะพูดเป็นขนาดเทียบกับ Pot ซึ่งมันจะช่วยเกี่ยวกับการคำนวณ Pot Odds คุณสามารถที่จะจำสถานการณ์ Postflop ทั่วไป เพื่อคิด Pot Odds ได้ง่ายขึ้น เช่น Bet ครึ่ง Pot นั้นให้ Pot Odds ที่จะ Call เป็น 3-1 (ดูเรื่อง “Pot Odds ขั้นต้น” ได้เพิ่มเติม)

ขนาดในการ Bet Preflop   

ใน No-Limit Hold’em Cash Game คุณมักจะเห็นผู้เล่น Raise Preflop ใหญ่กว่าใน Tournament การ  Raise Preflop 3 BB ใน Cash Game มักเป็นขนาดที่เล็ก ในขณะที่ใน Tournament ขนาดในการ Raise นี้ เป็นขนาดที่ใหญ่กว่าส่วนมากที่ Raise กัน

ความจริงแล้วใน Low-Limit Live Cash Game คุณอาจได้เห็นการ Raise 5 BB หรือมากกว่า ด้วยที่ว่าผู้เล่นพยามยามลดจำนวนคนที่ Call สิ่งนี้เกิดใน Online Poker ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะใน Stake ต่ำๆ (รวมถึง “Micros” ด้วย)

ไม่ว่าจะใน Cash Game หรือ Tournament (Live หรือ Online) ให้ความสนใจกับสิ่งที่เป็น “ปกติ” หรือค่าเฉลี่ยของการ Raise Preflop ที่เห็นบนโต๊ะ แล้วบันทึกเมื่อไหร่ที่มีคนทำต่างออกไปจาก “มาตรฐาน” ถ้า 5 BB Raise ดูจะเป็นปกติใน Cash Game ให้บันทึกเวลามีผู้เล่น Raise 8 BB หรือ 10 BB หรือ Raise เล็กๆแค่ 2 BB หรือ 3 BB แล้วดูมือที่เขาโชว์ออกมาตอนจบ (ถ้ามี) ซึ่งจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เมื่อประเมินไพ่ที่พวกเขา Raise Preflop

ข้างล่างนี้เป็นตัวแปรที่คุณต้องพิจารณาเมื่อประเมินขนาดในการ Bet ของฝ่ายตรงข้ามตอน Raise ก่อนเปิด Flop

1. ตำแหน่งของผู้เล่นคนนั้น

การ Raise มาจาก Early Position ปกติแล้วจะใหญ่กว่า Middle หรือ Late Position บางคนที่ตำแหน่ง UTG ปกติแล้วอยากจะลดจำนวนคนที่จะ Call ข้างหลังเขา เพราะเขาต้องเล่น Out of Position ตอน Postflop (ดูเรื่อง “ความสำคัญของตำแหน่ง” ได้เพิ่มเติม) ในขณะที่ผู้เล่นในตำแหน่งหลังๆไม่ต้องกังวลมากตอน Postflop เช่น Button รู้อยู่แล้วว่าเมื่อ Raise ก่อนเปิด Flop แล้วเขาจะได้เล่น In Position หลังเปิด Flop

2. Stack ของผู้เล่นคนนั้น

เมื่อผู้เล่น Bet ก่อนเปิด Flop มันก็ควรจะรู้ด้วยว่าเขาเหลือ Stack ข้างหลังอีกเท่าไหร่ สมมติใน $1/$2 Cash Game มีคน Raise มา $12 จาก Middle Position และ Fold มาถึงคุณที่ตำแหน่ง Button ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไร คุณสังเกตเห็นว่าเขาเหลืออยู่แค่ $40 ข้างหลัง ดูแล้วเขาน่าจะใส่ที่เหลือมาหลังจากเปิด Flop นั่นหมายความว่าการ Call $12 อาจจะทำให้คุณต้อง Call อีก $40 หลังจากนั้น ถ้ามือคุณแข็งแกร่งพอ คุณอาจจะ Reraise และบังคับให้อีกฝ่ายต้องตัดสินใจก่อนเปิด Flop หรือถ้าคุณคิดจะซื้อ Set ด้วยไพ่คู่เล็กๆ คุณควรจะรู้ไว้ว่า Stack ของอีกฝ่ายไม่มากพอที่จะให้เล่นวิธีนี้ได้ (ดูเรื่อง “พื้นฐานของ Set Mining” ได้เพิ่มเติม)

3. ลักษณะการเล่นและรูปแบบการ Bet ของผู้เล่นคนนั้น

สุดท้ายลักษณะการเล่นและรูปแบบจะให้ข้อมูลที่สำคัญเมื่อดูจากขนาดของการ Raise Preflop ถ้าผู้เล่นคนนี้เป็น Loose และ Aggressive เขา Raise มาบ่อยก่อนหน้านั้นหรือเปล่า หรือถ้าผู้เล่นคนนี้เป็น Nit ที่ไม่เคย Raise มาเลย เมื่อ Raise รอบที่แล้วปกติเป็น 4 BB คราวนี้เป็น 6 BB การตอบคำถามเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ว่าอะไรที่เขาจะ Raise ในกรณีแบบนี้ ซึ่งอาจจะบอกความแข็งแกร่งของมือได้

ขนาดในการ Bet Postflop      

เมื่อเรามองไปที่การ Bet Postflop ความแตกต่างระหว่าง Live กับ Online และระหว่าง Cash Game กับ Tournament มีแนวโน้มจะน้อยลง Live Game บางที่อาจจะเล่น Loose กว่า Online Game บางที่อย่างมาก (รวมถึงในทางกลับกันด้วย) และเช่นกันที่บาง Cash Game อาจจะ Tight มาก และบาง Tournament อาจจะเต็มไปด้วยผู้เล่น Loose Aggressive จุดที่เหมือนกันคือให้รับรู้ถึง “มาตรฐาน” ที่เกิดขึ้นตอน Bet Postflop และทำบันทึกไว้เมื่อมีคนที่ทำต่างออกมาจากมาตรฐาน

นั่นพูดได้ว่าเราสามารถทำภาพรวมคร่าวๆเกี่ยวกับขนาดในการ Bet Postflop ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในแต่ละชนิดและรูปแบบที่แตกต่างกันของ No-Limit Hold’em Game

การ Bet ที่ Flop

คนที่ Raise Preflop มักจะ C-bet การ C-bet ที่ใหญ่ (3/4 Pot ขึ้นไป) ปกติแล้วจะบอกถึงความแข็งแกร่งและความอ่อนแอที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ผู้เล่นที่ถือคู่ Jack ในบอร์ด 9♦8♣4♣ ต้องไม่อยากให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นไพ่ที่ Turn ถูกๆ และ Bet ใหญ่ที่ Flop เพื่อที่จะพยายามชนะ Pot ตรงนี้เลย การ C-bet เล็กที่ Flop (น้อยกว่า 1/2 Pot) นั้นคลุมเครือมากกว่า ผู้เล่นที่ทำเหมือนกันในบอร์ด 98♣4♥ อาจมีได้ทั้ง King-High และ Set 9

การ Bet ที่ Turn

ขนาดในการ Bet จะมีความหมายมากกว่านั้น และบอกได้มากกว่าในหลายกรณี เมื่อประเมินขนาดในการ Bet ที่ Turn คุณต้องพิจารณาอีกครั้งเกี่ยวกับตำแหน่งของผู้เล่นคนนั้น (Action คนแรกหรือคนสุดท้าย) ขนาดของ Stack (ผู้เล่นคนนั้นโดนบังคับตามเนื่องจากขนาดของ Pot ไปแล้วหรือยัง) และลักษณะและรูปแบบการ Bet (ผู้เล่นคนนั้น Aggressive หรือ Passive Postflop) เช่นเดียวกับสภาพของบอร์ด ผู้เล่นที่ Bet $30 ใน Pot $120 ที่บอร์ด 9♦8♣4♣7♣ อาจจะ Semi-Bluff หรือ Bet Block ผู้เล่นที่ Bet $90 ใน Pot $120 ที่บอร์ดเดียวกัน อาจทั้งติด Flush ไปแล้วและเรียก Value ขณะเดียวกันก็ป้องกันที่จะโดนแซงตอน River ด้วย

การ Bet ที่ River

การ Bet ใหญ่ (3/4 Pot ขึ้นไป) ปกติบอกถึงมือที่ใหญ่มาก ไม่ก็ Bluff มันเป็นการบังคับให้อีกฝ่ายตอบคำถามว่า “เขามีหรือไม่มี” ที่บอร์ด 9♦8♣4♣7♣5♦ และผู้เล่นยิง $150 ใส่ Pot $180 คุณจะหมอบไพ่ 2 คู่ของคุณ หรือคุณจะ Call ด้วยไพ่จับ Bluff (ดูเรื่อง “การจับ Bluff” ได้เพิ่มเติม) การ Bet เล็ก (เช่น 1/3 Pot) อาจเป็น Bluff ได้เช่นกัน แต่ให้ความเป็น Value Bet ผู้เล่นที่ Bet $55 ใน Pot $180 ที่บอร์ดเดียวกัน อาจมี Flush และคิดว่าขนาดในการ Bet นี้จะทำให้ 2 คู่กับ Straight Call ได้

คุณควร Bet ขนาดเท่าไหร่ดี

คุณควรใช้ขนาดในการ Bet เป็นอย่างไร ทั้ง Preflop และ Postflop การจะตอบคำถามนี้อย่างสมบูรณ์อาจจะต้องใช้ความรู้ในหลายเรื่อง แต่กฎพื้นฐานคือให้ทำขนาดในการ Bet ให้สมดุลกันและเลี่ยงที่จะทำรูปแบบการ Bet ให้ชัดเจนจนเกินไป

การ “ทำให้สมดุล” เราหมายถึงไม่ Bet ใหญ่เมื่อเรามีมือใหญ่ทุกครั้ง และ Bet เล็กเมื่อเรามีมืออ่อน อย่า Bet ขนาดเดียวกันทุกครั้งเมื่อ Bluff หรือขนาดเดียวกันทุกครั้งเมื่อ Value Bet ฝ่ายตรงข้ามที่สนใจจะมองเห็นรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว และในที่สุดคุณจะพบว่าไม่มีใคร Call คุณเมื่อคุณมีมือใหญ่ แต่ Call เมื่อคุณไม่มี

อีกเรื่องคือ Bet โดยระวังถึง Pot Odds ที่คุณให้ฝ่ายตรงข้ามเพื่อ Call ด้วย การ Bet หรือ Raise ที่น้อยให้ Pot Odds ที่ดี ขณะที่การ Bet ใหญ่ให้ Pot Odds ที่แย่ คุณอาจจะอยากให้อีกฝ่าย Draw หรือตามด้วยไพ่กลางๆเมื่อคุณมี Nut ที่ชนะแน่นอน หรือคุณอยากลดผู้เล่นออกด้วยการให้ราคาที่แย่ในการ Call เมื่อคุณมีมือที่ดีที่สุดตอนนี้ แต่มันโดนแซงได้

ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม Bet อย่างมีจุดมุ่งหมาย และลองเลือกขนาดในการ Bet ที่ดีที่สุดที่เป็นไปตามเป้าหมายที่คุณ Bet ไม่ว่าคุณอยากให้อีกฝ่าย Call หรือ Fold หรืออยากให้เขา Raise ใส่ ลองคำนวณดู แล้ว Bet ออกมาให้ดีที่สุด   

ที่มา https://www.pokernews.com/strategy/10-hold-em-tips-bet-sizing-25443.htm