เอาชนะ Micro Stake ด้วย Thin Value Bet

Thin Value Bets

ผู้เล่น poker ส่วนใหญ่มักจะทำสิ่งที่ซับซ้อนเกินไป  เพราะจริงๆแล้วเกม poker ก็เป็นเกมที่ซับซ้อนมาก  ไพ่ 52 ใบที่เราเล่นสามารถนำมาจัดเรียงได้หลากหลายรูปแบบมากกว่าอะตอมบนโลกซะอีก  เมื่อรวมกับรูปแบบของ holdem และการที่ player สามารถใส่ชิพลงไปเท่าไหร่ก็ได้ตามเกมของ no-limit ทำให้เราได้มาซึ่งเกมคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ “a run for their money

และเราก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีในเกม poker เราสนใจในทฤษฎีเกมและหลักการขั้นสูงต่างๆ เราคิดว่าคำถามที่ซับซ้อนจะต้องมีคำตอบที่ซับซ้อน  ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีมาก…ถ้าเราเป็น low-stake grinder อย่างแท้จริง และกำลังก้าวไปสู่เกม midstake 

แต่น่าเสียดายที่ ผู้เล่น micro stake หลายคนติดอยู่กับแนวทางคล้ายๆกันโดยไม่ได้โฟกัสบนพื้นฐานที่สำคัญ  และนั่นเป็นเหตุผลที่เราจะพูดถึงการ thin value bet ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง 

Thin Value Bet คืออะไร?

Thin value คือการที่เรา bet ไปด้วย marginal hand และหวังจะทำกำไรได้เล็กน้อย เพราะจำนวน weaker hand ที่จะ call มานั้น มากกว่าจำนวน strong hand ที่ villain จะมีอยู่ใน range ของเขา  โดยทางเทคนิคแล้ว value bet จะมี equity มากกว่า 50% ต่อ calling range ของคู่ต่อสู้  และสำหรับ thin value bet นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเรามี equity ใกล้เคียง 50%

ทุกคนรู้ว่าเราควรจะพยายามใส่เงินลงไปใน pot ให้ได้มากที่สุดถ้าเรากำลังถือ JJ บน J624T rainbow board (แต่เป็นที่รู้กันว่าผู้เล่นใน micro stake นั้นยังเบสิกแย่มากในเรื่องอย่าง pot management) ซึ่งการ thin value จะไม่ใช่การที่ยิง bomb ไปที่ river ในจุดนี้  ยังไงก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเราควรจะ bet ที่ river หรือไม่ถ้าถือ JT บน Q54T4 board 

เราอาจจะใช้ thin value bet ได้ โดยขึ้นอยู่กับแอคชั่นก่อนหน้าและขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ของเรา  และถ้าจะมีอะไรที่สำคัญที่สุดในการที่จะทำให้ผู้เล่น micro stake ประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ มันคือความสามารถที่จะบอกได้ว่าเมื่อไหร่เป็นจังหวะที่ดีในการ thin value bet

ตัวอย่างของการใช้ Thin Value Bet

การเจอกับคู่ต่อสู้ที่ loose aggressive นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรดู ก่อนที่จะตัดสินใจว่าเป็นจังหวะที่ดีในการ value bet หรือไม่  เพราะเป็นความจริงที่ passive recreation player มักจะเล่น hand มากกว่า regular player โดยที่ไม่ได้คิดให้ดีก่อนว่า hand นั้น strong แค่ไหน เลยทำให้ call เข้ามาได้สบายๆ

เช่น เราเริ่ม raise จาก MP ไปด้วย JJ มี regular player จาก BU call มา  และ flop เปิดมาเป็น Qh9s2c  เรา check และเขาก็ check back  turn เปิดมาเป็น 3h และเราคิดว่าน่าจะนำอยู่  และควรจะ value bet เพื่อปกป้อง hand ของเราจาก backdoor draw ใบสุดท้ายที่ river เป็น 7s คู่ต่อสู้ของเราน่าจะมี 7x หรือ 9x ใน range ของเขาจริงๆเหรอ? หรือเขา call มาด้วยไพ่อย่าง 44-66? ก็ไม่น่าจะใช่นะ

ยังไงก็ตาม ถ้าเจอกับ passive recreation player ตรงนี้ก็ชัดเจนว่าควรจะ thin value bet
และถ้า VPIP ของเขาค่อนข้างสูงก็อาจจะไม่ต้อง thin มากนัก

Heat 5 Table 5

เมื่อมีคู่ top card บน board

เมื่อเราเห็น A เปิดมาที่ turn บน AJ6A8 board และทำให้แอคชั่นเริ่มช้าลง  ก็หมายความว่า Ax hand แทบจะไม่มีโอกาสอยู่ใน range ของทั้ง caller และ aggressor เลย

เพราะเป็นเรื่องยากที่ caller จะเชื่อว่า preflop aggressor จะมี monster ในสถานการณ์นี้  aggressor จึงควรที่จะลอง value bet ด้วย hand ประเภท Jx หรือ TT-99 หรืออาจจะ 8x เลยด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับแอคชั่นใน street ก่อนหน้าและคู่ต่อสู้ของเรา

เมื่อไม่ติด draw

ถือเป็นเคสที่ปกติมาก  เช่น เรามี KsTs และ flop เปิดมาเป็น Tc7s6s  เรา cbet ต่อ และคู่ต่อสู้ call มา  turn เป็น Qc และเรายิงต่ออีกครั้ง villain ยังคง call ตามมา และ river ก็เปิดมาเป็น 2h

เรามักไม่ value bet ด้วย second pair อย่างต่อเนื่องถึง 3 street แต่ในสถานการณ์เฉพาะนี้ ด้วยไพ่ถึงสอง flush draw ที่ไม่ติด ทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสที่จะ call thin bet กับ board ประเภทนี้มากกว่า 

ในตำแหน่งที่ range ของเราน่าจะเป็นการ bluff

เราได้กล่าวถึงการ value bet เมื่อเล่นกับ recreation loose-passive  แต่การ thin value bet ควรจะเป็นส่วนที่สำคัญของกลยุทธ์กับคู่ต่อสู้ทุกประเภท  แต่ก็ต้องมีการปรับตามความแตกต่างของ villain

ถ้าเราเล่นกับคู่ต่อสู้ที่เก่งขึ้นมาหน่อย  ในจังหวะที่เราถูกมองว่าน่าจะ bluff  เราก็อาจจะใช้ thin value bet ในการ balance range ของเราและช่วยทำให้เราถูกอ่านได้ยากขึ้น  ตัวอย่างที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว เช่น draw miss board และ top pair card baord

เราอาจจะคิดถึงการ thin value bet ในจังหวะที่ turn และ river เปิดมาเป็น scare card อย่างชัดเจน หรือ lockdown baord (บอร์ดที่ไม่น่าจะมี nut และไม่มี hand ไหนจะที่มี equity ดี
เช่น 567xx KKJxx 22x2x เป็นต้น) 

Bet sizing และ Value Owning Yourself

โดยทั่วไปแล้ว player ใน micro stake มักจะ bet ต่ำเกินไปมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีใน metagame ที่มี static range อย่างหลากหลาย  พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเราถือ AQ และกำลังเล่นกับใครที่น่าจะ call การ river bet ด้วย Q2 บน K83Q2 board ใน pot $1 ไม่ว่าเราจะ bet $0.01 หรือ $1 – ดังนั้นเราก็ควรที่จะ bet ไป $1

อาจจะไม่ดูง่ายแบบนี้  ต้องมีการวิเคราะห์สำหรับเคสที่ยากเป็นพิเศษ แต่ผู้เล่นใน microstake มักจะไม่กล้าใช้ exploitable sizing  การ bet pot size และ 5x preflop นั้นเป็นสิ่งที่ professional จะไม่ค่อยใช้กัน

พวกเขาไม่ใช้มันบ่อยนัก เพราะพวกเขาจะ exploit ได้แน่นอน และเล่นอยู่กับ player ส่วนใหญ่ที่พอจะรู้ดีว่าจะ exploit อย่างชัดเจนเมื่อมีโอกาส  นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นบน micro stake แล้วลองคิดดูสิว่า ถ้าโค้ชของเราเล่น NL2 แทนที่จะเป็น 500 Zoom เขาก็น่าจะ value overbetting 60/4 และ 37/13 player 

อาจจะฟังดูง่ายและดีเกินจริง แต่สิ่งเดียวที่ผู้เล่นบางคนไม่สามารถเอาชนะ micro stake ได้
คือแค่เพียงต้องเพิ่ม value bet ไปอีกประมาณ 2-3bb

มีเหตุผลที่ดีอย่างนึงว่าทำไมการ thin value bet น้อยๆอาจจะเป็นสิ่งที่ดี  เพราะการ thin value bet เกิดขึ้นในจุดที่ใกล้เคียงกับ “50% equity vs. calling range” อย่างมาก  เราไม่ต้องการที่จะ bet มากเกินไปจนคู่ต่อสู้หมอบ เพราะนั่นจะทำให้ equity ของเราลดลงต่ำกว่า 50%

เรามักจะเรียกมันว่า “value owning yourself” ซึ่งหมายความว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีและทำให้ win rate ของเราลดลง  เนื่องจากเราได้พูดถึง loose-passive player กับ static range ไปมากแล้ว  จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องบอกว่าไม่มี range ไหนที่ static อย่างแท้จริง

หมายความว่า ถึงแม้จากตัวอย่างด้านบนที่ player มี Q2 บน K83Q2 board ยินดีที่จะจ่าย 0.01-$1 ด้วย Qx อะไรก็ได้  แต่เขาอาจจะเริ่มหมอบบาง hand หรือหมอบทั้งหมดถ้าเราเพิ่มเป็น $1.2+

Source:
How to Get Out of Micros? – Thin Value Bets
https://www.pokervip.com/strategy-articles/texas-hold-em-no-limit-beginner/how-to-get-out-of-micros-thin-value-bets