ทำไมการเล่นแบบ tight จึงทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ผู้เล่นมือใหม่ส่วนมากมักจะเล่นไพ่เยอะและทำให้เตลิดไปไกลเกินกว่าจุดเริ่มต้นไปมาก สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นมือใหม่กลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับชัยชนะ นั่นก็คือการเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นผู้เล่นแบบ tight โดยลดจำนวนไพ่ที่จะเล่นให้น้อยลง เพราะมันจะทำให้เราอยู่ในลู่ในทางของเรามากยิ่งขึ้น
ทำยังไงถึงจะชนะในเกมโป๊กเกอร์
การตัดสินใจในช่วง pre-flop นั่นมีความสำคัญมาก เพราะเราจะต้องตัดสินใจทุกๆครั้งว่าจะเล่นหรือไม่เล่นและยังส่งผลต่อการเล่นในรอบต่อๆไปอีกด้วย ถ้าเราเลือกเล่นไพ่ในช่วง pre-flop มากเท่าไหร่ ก็เท่ากับเราปล่อยไพ่เข้าไปเล่นในรอบต่อไปมากเท่านั้น ซึ่งการเล่นในแต่ละครั้งเราจะต้องเสียต้นทุนเป็นการเดิมพันนั้นเอง ถ้าเราปล่อยไพ่ที่ไม่ดีเข้าไปในรอบ flop และ turn บ่อยๆ เราก็จะเสียต้นทุนไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นการเล่นแบบ tight จึงเป็นรากฐานที่สำคัญอย่างนึง เมื่อเราเริ่มเรียนรู้ที่จะพลิกกลับมาเป็นผู้ชนะในเกม เอาไพ่ดีๆเข้าไปเล่น วางเดิมพันและได้ pot ทั้งหมดกลับมา
เลือกเล่นไพ่ดีๆในรอบ pre-flop
ก่อนที่จะเข้าไปเล่นในรอบ flop เราจะต้องมั่นใจก่อนว่า ไพ่ที่เราจะเอาเข้าไปเล่นนั้นเป็นไพ่ที่ดีแล้ว อาจจะเริ่มจากไพ่ที่ดีมากจริงๆ เช่น AA KK QQ ที่เป็นไพ่คู่สูงๆ เพราะว่าอย่างน้อยเราก็มั่นใจได้แล้วว่าเรามีคู่สูงอยู่ในมือแล้ว 1 คู่ หรือจะเป็นไพ่ที่มีตัวคุมสูงๆ อย่างเช่น AK AQ KQ เพราะถ้าบอร์ดออกไพ่ที่ไม่มีอะไรเลยเราก็ยังมีตัวคุมที่สูงอยู่บ้าง ส่วนไพ่ 9Ts 89s และไพ่คู่ต่ำๆก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเล่นขึ้นมาอีกหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นไพ่ที่ยังโอเคอยู่บ้าง ส่วนไพ่ที่นอกเหนือจากนี้ขอให้หลีกเลี่ยงเอาไว้ก่อน ส่วนนึงเพราะจะทำให้เราเล่นได้ยากขึ้นเวลาเจอ flop และอีกส่วนคือไพ่ที่เหลือนั้นมีค่า EV เป็นลบนั่นเอง
อย่างไพ่ K5s อาจจะดูเหมือนว่าเป็นไพ่ที่ดี มีทั้งไพ่สูงและหน้าไพ่เหมือนกันอีก แต่ความเป็นจริงแล้วถือว่าเป็นไพ่ที่อ่อนเลยนะ ถ้าติดคู่ 5 บนบอร์ดก็ไม่น่าจะเป็นคู่ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนั้น หรือถ้าติดคู่ K เราก็มีตัวคุมต่ำๆแบบ 5 เท่านั้นเอง ทำให้โอกาสที่จะแพ้ตัวคุมอื่นๆ หรือคู่อื่นๆมีอยู่เยอะมาก
อย่าถูก flush หลอก
เราอาจจะคิดว่าการที่เรามีหน้าไพ่เหมือนกันทั้งสองใบ มีโอกาสเยอะมากที่จะทำให้เราติด flush แต่ความเป็นจริงแล้วเราไม่ได้โชคดีขนาดนั้น การที่เรามีหน้าไพ่เหมือนกันเพิ่มโอกาสในการติด flush ให้กับเราเพิ่มขึ้นแค่ 2% เท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นถ้า K5o เรา fold ได้ K5s เราก็ fold ได้เช่นกัน อย่า call ไพ่ suited เพราะคาดหวังว่าเราจะติด flush อย่างเดียว แต่ให้ดูไพ่ของเราด้วยว่าสามารถเอาชนะในเกมนั้นได้หรือเปล่าและให้โอกาสในการติด flush เป็นผลพลอยได้ของเราไป ก่อนที่จะทำการ call ไพ่ที่อยู่ในมือ
รู้จุดที่ยืนอยู่เสมอ
ถ้าเราเลือกเล่นไพ่ที่มี EV เป็นบวก ไพ่ที่ดีในช่วง pre-flop ก็จะทำให้ช่วง flop ของเราไม่ต้องกังวลมากนัก เราจะรู้เลยว่าการตัดสินใจในเกมที่เหลือมันง่ายมากๆและอยู่กับร่องกับรอยมากขึ้น ซึ่งง่ายกว่าการที่เอาไพ่ไม่ดีเข้ามาเล่นในรอบ flop อย่างแน่นอน
สมมติว่าผู้เล่น tight มากๆคนนึง เลือกเล่นแต่ไพ่ AA KK QQ ส่วนไพ่ที่เหลือเขาเลือกที่จะ fold หมด มันจะทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายมากหลังจากเปิด flop มาแล้ว ถ้าเปิด flop ออกมามีแต่ไพ่ต่ำกว่าที่เขาถืออยู่ ก็เท่ากับว่าเขามี overpair อยู่ในมือ เขาก็แค่ bet กลับเข้าไป แต่ถ้า flop ดูไม่เข้าท่าซักเท่าไหร่ เขาก็อาจจะ foldไปก็ได้ ทางเลือกที่มีอยู่จะชัดเจนมาก ทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกันถ้าเขาเอาไพ่กลางๆเข้ามาเล่น พอเปิด flop ออกมา เขาก็จะไม่รู้เลยว่าไพ่ที่เขามีอยู่นั่นดีหรือไม่ดี แล้วเขาจะตัดสินใจยังไงได้บ้าง เห็นได้ชัดว่าการที่เราเลือกไพ่ดีๆเข้าไปเล่น ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นยังไง แต่แน่นอนว่าการเล่นไพ่แค่ 3 hand แบบในตัวอย่างนั้น ไม่สามารถสร้างกำไรให้เราได้ในระยะยาว เพราะคู่ต่อสู้จะรู้กันหมดว่าเราเล่นยังไงและถือไพ่อะไรอยู่ ซึ่งจะทำให้เขาอ่านเกมเราขาดเกินไปนั่นเอง
ในบทความนี้มีการพูดถึงเรื่อง EV กันด้วย ถ้าผู้เล่นคนไหนยังไม่รู้ว่า EV คืออะไร และมันมีประโยชน์ยังไง เราจะเอามาฝากใบบทความต่อๆไป
Source : https://www.pokerlistings.com/strategy/playing-tight-how-it-makes-your-decisions-easier