เทคนิคทำเงินจาก NIT

Tight is right! เป็นคำพูดที่อยู่คู่กับเกม poker มาแสนนาน และเป็นหลักการที่ตรงข้ามกับพวก LAG ในบทความที่แล้ว

เป็นแนวคิดที่เกิดจากความเชื่อว่าการ tight และเลือกเล่นเฉพาะ good hand จะทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆไม่สามารถเอาเงินเราไปได้ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราเลือกเล่นแต่ไพ่ดีๆเสมอ คนอื่นจะเอาชนะเราได้ยังไงล่ะ?

หลักการของ “tight is right” อาจเคยเป็น winning style ในอดีตสมัยที่ player ยังไม่รู้จักกลยุทธ์การเล่นมากนัก และส่วนใหญ่ก็เล่น poker เหมือนเป็นการพนัน แต่ในปัจจุบัน player ที่ยังเล่นแบบ tight มากๆดูจะทำผลงานได้ไม่ดีนักเมื่อเจอกับ player ที่เก่งๆ

ต้องไม่ลืมว่าพวก NIT ก็มีความเข้าใจในเกม poker ดีพอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีจุดอ่อนบางอย่างที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้

เราจะมาดูไอเดียบางอย่างที่จะช่วยให้เราพัฒนากลยุทธ์การเล่นกับพวก NIT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกดดันให้ออกจาก comfort zone และใช้ประโยชน์จากการเล่นที่คาดการณ์และถูก exploit ได้ง่าย

Preflop: ปรับ Range ทั้งหมด

เมื่อพูดถึง Nitty player เราจะหมายถึงคนที่เล่น tight มากเกินไป range preflop ของพวกนี้จะแคบมาก เราจึงต้อง:

Raise เพื่อขโมย blind
Call จาก big blind
ใช้ 3-bet และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4-bet bluff

นี่คือการปรับที่ควรทำเมื่อเจอกับพวก NIT ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้พวกนี้ได้มากขึ้น

รับมือกับการ Raise

สิ่งนึงที่เป็นความจริงเกี่ยวกับ NIT คือเราไม่สามารถทำอะไรได้มากกับผู้เล่นที่ open เพียง 10-12% ของ hand แต่เราก็สามารถปรับรับมือกับ premium hand พวกนี้ได้ง่ายๆด้วยการ fold และยอมทิ้ง blind เว้นแต่เราจะมี hand ดีๆด้วยเช่นกัน มันเป็นกลยุทธ์การเล่นที่มีประสิทธิภาพกับการ preflop raise นี้ เพราะทุกครั้งที่คู่ต่อสู้มี good hand เราก็จะลดการทำกำไรของเขาให้น้อยที่สุด

จะเห็นว่า PokerSnowie แนะนำให้ open ที่ button ด้วย range ที่กว้างมาก เพราะเป็นตำแหน่งที่สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าจะเจอคู่ต่อสู้กับประเภทไหน แน่นอนว่าอาจต้องมีการปรับกลยุทธ์บ้าง แต่การลด range นี้ไปต่ำกว่า 15% ไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ ในภาพด้านล่าง เราจะเห็นการเปรียบเทียบกับ 12% open range

ดังนั้นถ้า Holdem Manager บอกว่าเรากำลังเจอกับคู่ต่อสู้ประเภทนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการปรับ calling range และ value 3-bet range ให้ tight ขึ้น เราอาจปรับด้วยการ value 3-bet premium hand (QQ+, AK) เท่านั้น และเพิ่ม suited ace ใน bluffing range เพราะมันจะ block range ที่แข็งที่สุดของคู่ต่อสู้อยู่บ้าง ส่วน hand อย่าง KQ suited หรือ AJ suited ที่อาจเป็น value bet ที่ดีเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้คนอื่น แต่เราควรจะ flat call ไปมากกว่าเมื่อเจอกับ NIT เพราะเราจะสามารถ realize equity ได้มากขึ้น

โจมตี Big Blind

ถ้าเจอกับ player ที่ tight มากๆ พวกเขามักจะยอมทิ้ง big blind เมื่อเห็นว่ามีการ defend จาก player คนอื่นๆ นั่นหมายความว่ามันเป็น free money และเราควรฉวยโอกาสทุกครั้งที่ทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราอยู่ใน late position หรือ button เพราะเราควรจะขยาย range และพยายามเก็บ free money นั้น

เราได้เห็น button open range โดยทั่วไปจาก PokerSnowie กันแล้ว แต่เมื่อเจอกับ NIT เราควรจะขยาย range นี้ไปอีก โดยให้มี hand ที่เราอาจไม่คิดเลือกเล่นกับคู่ต่อสู้อื่นๆ อาจจะลงไปต่ำสุดถึง 72s เหตุผลเพราะว่าพวก NIT จะ fold preflop บ่อยมาก และจะ 3-bet ด้วย top ของ range เท่านั้น ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะ defend ก็มักจะแค่ call เท่านั้นทำให้เรายังได้ EV เพิ่มขึ้นกับ weak hand ของเรา

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เราควรจะยึดตาม winning poker stratey และพยายามขโมย blind จาก tight player ให้ได้มากที่สุด

การเล่น Postflop กับพวก NIT

NIT เป็นพวกที่มักจะคำนึงถึง value จึงทำให้เล่นด้วยได้ค่อนข้างง่ายในช่วง postflop พวกนี้มักจะมีความเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากถ้าพวกเขา miss เพราะเพียงแค่ต้องรอ good hand ต่อไป และพวกเขาจะ stack คู่ต่อสู้ถ้า hit ทำให้ชดเชยกับการเสียเล็กน้อยช่วงก่อนหน้า แต่การเล่นแบบนี้จะเป็นไปไม่ได้เมื่อเล่นกับ player ที่เก่งๆ

Aggressive ต่อเนื่อง

ถ้าเราเป็น preflop agressor และเข้าไปเจอกับ NIT ที่ flop เราก็ควรจะ c-bet แทบทุกครั้ง เพราะคู่ต่อสู้มักจะเล่นแบบ fit-or-fold ดังนั้นถ้าเขา check มา เราก็แทบไม่มีเหตุผลที่จะ check back ด้วย hand ที่มีโอกาส improve หรือแม้แต่เป็นการ bluff ถ้าคู่ต่อสู้ไม่มีอะไรดีๆ พวกเขาก็จะยอมแพ้และปล่อยให้เราชนะได้ไม่ยากนัก

เราจะเห็นได้จากสถานการณ์ตามรูปด้านบน PokerSnowie ค่อนข้างแนะนำให้ check back ด้วย AK มากกว่า เพราะเรามี backdoor equity อยู่มาก และไม่ต้องการถูก raise ให้ออกจาก pot แต่เมื่อเจอกับ NIT เราจะไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้เพราะพวกเขาจะไม่ check-raise ด้วย semi-bluff และจะ call ด้วย hand อย่าง 89-suited ซึ่งทำให้เราสามารถประเมินได้อีกครั้งที่ turn และยัง realize equity ของเราได้เต็มที่อีกด้วย

สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อ NIT ได้ check-raise เราก็สามารถ fold hand ได้อย่างปลอดภัยและปล่อยให้เขาชนะ pot ไป มันไม่มีประโยชน์ที่จะพยายาม bluff กับ player พวกนี้ เพราะเมื่อเขาเป็นฝ่าย raise ที่ flop นั่นหมายความว่าพวกเขามีอะไรที่ดีและจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ บางครั้งการจู่โจมอย่าง aggressive มากๆก็อาจทำให้คู่ต่อสู้คิดว่า hand ของเขาไม่ดีพอก็ได้ แต่โดยรวมแล้ว วิธีที่ดีที่สุดเมื่อถูก check-raise คือการ fold ทุกอย่างนอกจากเรามี hand ที่ดีที่สุดใน range เช่นกัน

รับมือกับความ Aggressive

เมื่อเรา in position และได้ call raise จาก NIT ด้วยกลยุทธ์การเล่นของ player พวกนี้ เราก็ไม่น่ามีปัญหาในการหาวิธีทำกำไรให้ได้มากที่สุด

ตัวอย่างเช่น พวก NIT ส่วนมากจะ c-bet ต่อเมื่อพวกเขา connect อะไรที่ flop แต่จะ check มาให้ถ้า miss ทำให้เราสามารถเป็นฝ่ายเริ่ม bet และกิน pot มาได้ NIT จะไม่ตอบโต้มากนักเพราะพวกเขายินดีที่จะรอ “spot ที่ดีกว่า”

อีกสถานการณ์ที่เจอกันบ่อยคือพวก NIT จะยิงหนึ่งครั้งที่ flop จากนั้นจะยอมแพ้เกือบ 100% ถ้าไม่ improve ที่ turn นี่เป็นส่วนที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากพวก poker software ถ้ามี sample size มากพอ

ใน live game เราก็จะสังเกตเห็น player พวกนี้ได้ไม่ยาก และทำให้เราสามารถทำเงินจากพวกนี้ได้อย่างมาก

Tight Player ไม่ใช่ NIT ทั้งหมดทุกคน

เทคนิคและกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้เราทำเงินได้มากขึ้นเมื่อเล่นกับพวก NIT แม้ว่าเราจะทำอะไรไม่ได้มากนักกับสไตล์การเล่นที่มีแต่ top of the range ช่วง preflop แต่เราก็สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวางแผนการเล่น และใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดจากหลักการเล่นง่ายๆของพวก NIT

แต่จะต้องจำไว้ว่า tight player ไม่ใช่ NIT ทั้งหมดทุกคน player บางคนที่ค่อนข้าง tight จะยังเลือก spot ในการเล่นและกดดันให้เราต้องตัดสินใจ player พวกนี้ก็สามารถถูก exploit ได้เช่นกัน แต่พวกเขาไม่ใช่ NIT ที่เรากำลังพูดถึงในบทความนี้

NIT ที่แท้จริงมักจะ weak และเป็น player ประเภท fit-or-fold สรุปกลยุทธ์การเล่นของเรากับพวก NIT นั้นไม่ยาก – อย่ายอมเสียมากเมื่อเขามี good hand และให้เอาชนะกับ pot อื่นๆที่เหลือ