วิธีเล่นเมื่อต้องเป็น 3-Bet Pots Caller

3-Bet pot ดูจะเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนกว่า 2-Bet pot นั่นก็เพราะว่ามันเกิดขึ้นน้อยกว่าจึงทำให้เราไม่ค่อยคุ้นเคยกับมันนัก  ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยจำนวนเงินการเล่นที่สูงขึ้นใน 3-Bet pot อาจทำให้เราใช้ความคิดอย่างชัดเจนได้ยากขึ้น  เรามาดูกันว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรสำหรับฝ่าย defender 

SPR ต่ำ

SPR หรือ Stack-to-Pot Ratio เป็นสิ่งที่นักโป๊กเกอร์เมื่อพูดถึงขนาดความใหญ่ของ pot เมื่อเปรียบเทียบกับ effective stack (stack ที่น้อยที่สุดระหว่างเราและคู่ต่อสู้)  effective stack ใน 3-Bet pot จะต่ำกว่าปกติมาก ซึ่งมักจะอยู่ที่ประมาณ 4-6 เท่าของ pot  และถ้าลองเปรียบเทียบกับ SPR 20 ใน single raised pot ทั่วไป นั่นหมายความว่าอะไร?

ไม่จำเป็นต้อง Raise บ่อยนักเมื่อ In Position   

เหตุผลที่เรา raise เมื่อเจอกับ flop c-bet ใน single raised pot ก็เพราะความจำเป็นในการ build pot  BB caller ที่ flop trips จะไม่สามารถปล่อยให้ pot เล็กต่อไปเมื่อเจอกับ BTN c-bettor แต่ถ้า caller in position การ raise จะได้ประโยชน์น้อยลงมาก เพราะอะไร?

เงินที่ raise เพิ่มลงไปเมื่อเจอกับ flop c-bet นั้นสามารถอัดฉีดเพิ่มได้ในภายหลังถ้าเรา in position  ด้วย SPR ประมาณ 5 มันจะใช้การ bet เพียง 3 street เพื่อใส่เงินทั้งหมดลงใน pot  นั่นหมายความว่าการ raise ที่ flop ดูจะไม่จำเป็นเมื่อเรา in position  ถ้าคู่ต่อสู้ bet อีกครั้งที่ turn นั่นก็ยอดเยี่ยมเลย เพราะเราจะต้องการอีกเพียง 1 street ที่จะใส่เงินที่เหลือลงใน pot  แต่ถ้าคู่ต่อสู้ check turn นั่นก็ไม่มีปัญหา เพราะยังเหลืออีก 2 street ที่เรายังสามารถ bet ได้เอง

ความได้เปรียบจากการ Call 

ไม่ใช่แค่เพียงเราไม่ต้อง raise ในสถานการณ์เหล่านี้ แต่เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ต้องการจะ raise เลย  การ call flop c-bet ในขณะที่ in position นั้นจะช่วยให้เราได้รับสิทธิบางอย่างที่จะไม่ได้จากการ raise

ข้อแรก การ call ช่วยให้เราเห็นการเล่นของคู่ต่อสู้ที่ turn และยังเห็นไพ่ที่เปิดออกมาก่อนที่จะต้องลงเงินเพิ่มลงไป  ถ้าคู่ต่อสู้ check เราก็จะได้รู้ว่า range ของเขาน่าจะอ่อนกว่า และ fold equity ดูน่าที่จะเป็นไปได้ในตอนนี้  แต่ถ้าคู่ต่อสู้ bet อีกครั้ง range ของเขาก็จะ polarise มากขึ้นและจะมี nut hand มากกว่าสถานการณ์ที่แสดงบน flop  เราสามารถเรียกการรับข้อมูลเพิ่มนี้ว่าความชัดเจน  ถ้าคู่ต่อสู้ค่อนข้าง passive เราก็สามารถบอกได้ว่าความชัดเจนนี้สูงมาก เพราะแอคชั่นที่ turn ของผู้เล่นคนนี้น่าจะตรงไปตรงมา  ดังนั้นการรออีกหนึ่ง street ก่อนที่จะตัดสินใจลงเงินจำนวนมากเพิ่มขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่า range ของคู่ต่อสู้น่าจะอยู่ที่ส่วนไหน  ถ้าผู้เล่นที่ passive มากๆเริ่ม bet อีกครั้ง เราก็น่าจะโล่งใจที่ไม่ได้ raise ไปที่ flop  เพราะมีโอกาสน้อยที่เขาจะ fold  แต่ก็แน่นอนว่าเราไม่สามารถรู้ได้เพียงแค่จาก flop bet

เหตุผลข้อที่สองในการ call continue hand ทั้งหมดเมื่อเรา in position ใน 3-Bet pot ก็เพราะจะทำให้เรายังสามารถทำเงินได้ต่อเนื่องจาก bluff ของคู่ต่อสู้  การ raise flop ด้วย strong hand อย่าง J♥10♥ บนบอร์ด J♦10♠4♣  นั้นหมายความว่าเราได้ปิดโอกาสที่คู่ต่อสู้จะ bluff  ถึงแม้ว่าเราอาจต้องการปกป้องจาก bluff ที่มี equity สูงกว่าอย่าง 98s และ KQ แต่พวก bluff ที่อ่อนกว่าอย่าง AQ นั้นมีเพียงแค่ 4 out  และเราก็ยินดีที่จะให้พวกมัน bet มา  98s อาจดูเป็น hand ที่น่ากลัวเมื่อต้องเจอ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันก็จะไม่ติดอะไร และเราต้องการให้พวกมัน bluff ต่อไปเรื่อยๆในสถานการณ์นั้น

เหตุผลสุดท้ายสำหรับการ call ในสถานการณ์นี้ก็เพื่อทำให้ range ของเรา uncapped  เมื่อเราเล่นด้วยแอคชั่นที่อ่อนกว่าถ้าเปรียบเทียบกับการเล่นเมื่อเราถือ strongest hand นั่นหมายถึงเรากำลัง cap range ของตัวเอง  ซึ่งอาจทำให้คู่ต่อสู้ตอบโต้อย่าง aggressive มากขึ้นทั้งจากการ bluff และ value bet  แต่ถ้าเราเพียงแค่ call ด้วย set ทั้งหมดบนบอร์ด JT4 ก็จะทำให้คู่ต่อสู้เล่นได้ยากขึ้นกับ bluff หรือ thin value bet ใน street ต่อไป  การมี uncapped range ทำให้เรา defend ได้ง่ายขึ้นในช่วงต่อไปของ hand

แล้วถ้าเรา Out of Position ล่ะ?

แน่นอนว่าการ call 3-Bet out of position นั้นมี EV ต่ำกว่า ดังนั้นเราจำเป็นต้องถือ hand ที่แข็งกว่า  ปัญหาใหญ่ที่สุดของการ out of position ใน 3-Bet pot ก็คือจะทำให้เราไม่สามารถ call c-bet ด้วย range ทั้งหมดได้  ในขณะที่ out of position เราจะไม่สามารถควบคุม pot ได้เหมือนกับเวลาที่ in position  ถ้าเรา check/call flop และ check turn ให้กับคู่ต่อสู้ เขาสามารถ check behind และทำให้การ bet เหลือเพียง 2 street   นั่นหมายความว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะ pot เมื่อเราถือ hand กลางๆที่ไม่ได้แข็งมาก  และนี่คือเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าทำไม in position ใน 3-bet pot ถึงได้ทรงพลังนัก

จากความเสียเปรียบของการ out of position ทำให้ตอนนี้เรามีแรงจูงใจที่จะสร้าง raising range เมื่อเจอกับ flop c-bet  จากตัวอย่างบอร์ด J♦10♠4♣ – ตอนนี้เราเป็น SB caller และคู่ต่อสู้เป็น BB 3-bettor  โดยทั่วไป เราจะเริ่มต้นด้วยการ check ด้วย range ทั้งหมดที่จุดนี้ แต่ตอนนี้เมื่อคู่ต่อสู้ c-bet เราจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยการ raise ด้วย polarise range  ซึ่งหมายถึง raise ด้วย hand อย่าง two pair และ set เพื่อ value และ balance ด้วย bluff อย่าง 98s, KQ และบาง gutshot ที่มี backdoor flush draw  ข้อเสียเปรียบของการเล่นนี้คือจะทำให้เรา bluff ใส่ uncapped range แทนที่จะเป็น capped range ที่ check turn ให้เรา  ซึ่งหมายถึง bluff ของเราจะมีประสิทธิภาพน้อยลง  ข้อเสียอีกอย่างก็คือเมื่อเรา raise ด้วย value hand และคู่ต่อสู้ fold ก็หมายความว่าเรามักจะเสียเงินบางส่วนกับ hand ที่น่าจะ bluff ต่อใน street ต่อไป  มันเป็นเรื่องแย่ๆที่เราต้องเจอ เมื่อถือ monster hand แต่ไม่สามารถ build pot ได้    

บทสรุป

3-Bet pot นั้นทำกำไรได้มากกว่าเมื่อ in position  การไม่ raise ถือเป็นสิทธิพิเศษ – เป็นวิธีในการเปิดทางเลือกไว้ และเรียนรู้ก่อนที่จะลงทุนเพิ่ม  แต่เมื่อ out of position เราก็จะต้องทำให้ดีที่สุด และสร้าง raising range จากสัญชาตญาณ

source: https://www.pokerstarsschool.com/strategies/how-to-play-3-bet-pots-as-the-caller/