ภาพลักษณ์บนโต๊ะโป๊กเกอร์

ภาพลักษณ์และวิธีการเล่นของคู่ต่อสู้ที่เราเห็นอยู่นั้น เป็นเรื่องจริงหรือสิ่งลวงตากันแน่ แล้วเราทำแบบนั้นได้มั้ย ?

                เมื่อเรานั่งอยู่ในโต๊ะ “ภาพลักษณ์” เป็นสิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างนึง เนื่องจากภาพลักษณ์นั้นจะเป็นตัวบ่งบอกว่าผู้เล่นคนนี้มีสไตล์การเล่นยังไง ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นคนนึงเลือกไพ่เริ่มเล่นจัดมาก มักจะลงเดิมพันเมื่อได้แต่ไพ่พรีเมี่ยมเท่านั้น ผู้เล่นคนอื่นๆในโต๊ะก็จะรับรู้ว่าผู้เล่นคนนี้มีสไตล์การเล่นแบบ tight ในทางตรงกันข้าม ผู้เล่นอีกคนนึงลงเดิมพันบ่อยมากและมีอัตราการ call raise บ่อยๆ คนอื่นๆในโต๊ะก็จะรับรูว่าผู้เล่นคนนี้มีสไตล์การเล่นแบบ loose นั่นเอง

อะไรเป็นตัวกำหนดภาพลักษณ์พวกนี้ล่ะ ?

                ภาพลักษณ์บนโต๊ะโป๊กเกอร์จะถูกสร้างขึ้นมาจากวิธีการเล่นของเราเป็นหลัก ว่าเราเป็นผู้เล่นแบบ tight หรือ loose แต่ไม่ว่าเราจะเป็นผู้เล่นแบบไหน ในบางครั้งเราก็สามารถสร้างภาพลักษณ์นั่นได้เอง เพื่อนำมาโน้มน้าวภาพลักษณ์และวิธีการเล่นจริงๆของเราเอง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการพูดคุยหรือการกระทำบางอย่างภายในโต๊ะ

                ถ้าเราเป็นคนที่เสียงดัง ช่างพูดช่างคุยบนโต๊ะ คู่ต่อสู้มักจะรู้สึกว่าเรามีแนวโน้มที่จะเล่นไพ่บ่อยครั้งและบางทีอาจจะเล่นเพื่อความสนุกสนาน ซึ่งสามารถสร้างภาพลักษณ์แบบ loose ให้กับเรา ในทางกลับกัน ถ้าเราเป็นคนเงียบๆ สงวนคำพูดบนโต๊ะเหลือเกิน ดูเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา คู่ต่อสู้คนอื่นก็อาจจะรับรู้ว่าเรามีภาพลักษณ์แบบ tight

                อย่างไรก็ตามผู้เล่นที่มีประสบการณ์หรือช่างสังเกตุมักจะมองข้ามการกระทำบนโต๊ะของเราและคอยสังเกตุวิธีการเล่นของเราซะมากกว่า ว่าจริงๆแล้วเราเป็นผู้เล่นแบบไหน อย่าให้ท่าทาง การแสดงออกเหล่านี้มาหลอกล่อให้เราเข้าใจผิดไปถึงวิธีการเล่นจริงๆของเขาเลยจะดีกว่า

ความสำคัญของภาพลักษณ์บนโต๊ะ

                ภาพลักษณ์บนโต๊ะมีความสำคัญกับเรา เพราะจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้คู่ต่อสู้ เวลาที่เราทั้งสองอยู่ในเกมเดียวกัน

ภาพลักษณ์แบบ loose

                ถ้าเรามีภาพลักษณ์แบบ loose เราจะพบว่าผู้เล่นคนอื่นๆมักจะอยากลงมาแจมใน pot นั้นร่วมกับเรา เพราะพวกเขารู้ว่า hand ที่เราเอามาเล่นนั้นกว้างกว่า อาจจะเป็นไพ่ที่ต่ำกว่าเขา โอกาสที่จะชนะก็มากขึ้น

ภาพลักษณ์แบบ tight

                ถ้าเรามีภาพลักษณ์แบบ tight เราจะพบว่าผู้เล่นคนอื่นๆมักจะมีความอึกอักเล็กๆน้อยๆในการลงมาแจมใน pot เดียวกับเรา เพราะว่าพวกเขากลัว กลัวว่าไพ่ของเราจะใหญ่กว่าเขา โอกาสที่จะชนะก็น้อยลง ซึ่งภาพลักษณ์แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

ข้อดี-ข้อเสียของภาพลักษณ์แบบ tight

                โดยพื้นฐานแล้วผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นแบบ tight จะเลือกแต่ไพ่ดีๆก่อนที่จะเริ่มเล่นอยู่เสมอ ทำให้ผู้เล่นสไตล์นี้จะเลือกวางเงินเดิมพันในไพ่ดีๆเพียงอย่างเดียว อัตราการชนะจะสูงกว่าผู้เล่นแบบ loose  ด้วยสาเหตุนี้จะทำให้คู่ต่อสู้ที่เข้ามาเล่นด้วย มีความกังวลเกี่ยวกับไพ่ในมือของเขานั่นเอง เพราะน่าจะมีไพ่ดีๆอยู่บนมือแน่นอน

                เพราะฉะนั้นผู้เล่นที่มีภาพลักษณ์แบบ tight มักจะประสบความสำเร็จในการบลัฟฟ์มากกว่าผู้เล่นที่มีภาพลักษณ์แบบ loose ในทางกลับกันผู้เล่นแบบ tight จะมีโอกาสน้อยมากที่จะได้ pot ใหญ่ๆในการเล่น เพราะผู้เล่นคนอื่นๆในโต๊ะจะเชื่อว่าเขามีไพ่ที่ดีอยู่ในมือจริงๆ เวลาที่เขาลงเดิมพัน จะทำให้ผู้เล่นคนอื่น fold กันหมด และสร้าง pot ตรงกลางไม่ได้มากนัก

ข้อดี-ข้อเสียของภาพลักษณ์แบบ loose

                ข้อดีของผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นแบบ loose ก็คือ จะสามารถสร้าง pot ใหญ่ๆและคว้าเอาไปได้ เวลาที่เขามีไพ่แข็งๆในมือ ซึ่งเป็นข้อเสียของผู้เล่นแบบ tight นั่นเอง เนื่องจากภาพลักษณ์แบบ loose มักจะลงเดิมพันและ raise บ่อยๆ ทำให้เวลาที่เขามีไพ่ที่แข็งมากจริงๆ ผู้เล่นคนอื่นๆมักจะไม่เชื่อและคิดว่าเขาทำไปเพียงเพราะต้องการจะบลัฟฟ์เท่านั้น ทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆเข้าร่วม pot กันอย่างหนาแน่น และทำให้ pot ตรงกลางมีมูลค่าสูงนั่นเอง

                ข้อเสียของภาพลักษณ์แบบ loose ก็คือ การสร้างภาพลักษณ์แบบนี้อาจจะต้องใช้เงินลงทุนไปจำนวนหนึ่ง เพื่อทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆเชื่อว่าเราเลือกไพ่มาเล่นได้ไม่ดีนัก เล่นบ่อยๆ เดิมพันบ่อยๆ และเสียจำนวนชิพไปบ้าง

                จะเห็นได้ว่าภาพลักษณ์ทั้งสองอย่างนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งคู่ เราไม่สามารถบอกได้ว่าภาพลักษณ์แบบไหนดีกว่าแบบไหน ภาพลักษณ์แบบไหนสามารถทำกำไรในระยะยาวได้มากกว่ากัน มันขึ้นอยู่ที่เราว่าจะสามารถใช้ภาพลักษณ์ทั้งสองอย่างนี้ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ตรงหน้าหรือเปล่า

                สไตล์การเล่นเป็นตัวกำหนดภาพลักษณ์บนโต๊ะของเรา แต่ภาพลักษณ์บนโต๊ะเป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนสไตล์การเล่นที่แท้จริงของเราได้ ลองเอากลับไปคิดดู ว่าเราใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ยังไงบ้าง

Source : http://www.thepokerbank.com/strategy/psychology/table-image/