คำถาม 10 ข้อที่ควรถามตัวเองก่อนที่จะ exploit คู่แข่ง

อย่างที่เราอาจจะเคยได้ยินมาแล้วว่า ทุกอย่างที่เราทำบนโต๊ะเวลาเล่นโป๊กเกอร์ มีข้อมูลอยู่ในนั้นเสมอ

ใครก็ตามที่เคยเล่นโป๊กเกอร์ไลฟ์มานาน ย่อมเข้าใจดีว่า มนุษย์เรามักจะทำได้แย่ในการพยายามปิดบังสิ่งที่เรากำลังคิดอยู่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรใส่ใจกับสิ่งที่คู่แข่งกำลังทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเล่นไลฟ์ เพราะมีหลายจังหวะที่พวกเขามักจะเผยข้อมูลออกมาเป็นจำนวนมาก

ถ้าเราขัดเกลาข้อมูลเหล่านี้ให้ดี เราจะรู้วิธี exploit คู่แข่งเรา ที่จะทำให้เราทำเงินได้มากขึ้นกว่าการเล่นกลยุทธ์ GTO ที่สมบูรณ์แบบ

ก่อนที่เราจะรีบโดดไป exploit คู่แข่ง อาจจะดีกว่าถ้าเราจะลองถามตัวเองด้วยคำถาม 10 ข้อตามนี้ก่อน

คำเตือนสั้นๆ

ในการที่จะตอบคำถามเหล่านี้ เราจำเป็นต้องมีความรู้ที่ค่อนข้างแน่นในเรื่อง การเล่นบนพื้นฐานของทฤษฎีเกม เสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เราจะไม่มีเครื่องมือที่จะสามารถบอกได้ว่า จุดไหนที่คู่แข่งเรากำลังเล่นผิดพลาดอย่างมากอยู่

นอกจากนี้ เป็นที่สำคัญมากที่เราจะปรับการเล่นได้ต่อเมื่อมีข้อมูลที่เชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งมักจะมาจากการเล่นในระยะยาวกับคู่แข่ง และหลีกเลี่ยงการปรับการเล่นใหญ่ๆโดยใช้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว มาเข้าสู่คำถามที่ #1 กันได้

คำถามที่ #1 : range ของคู่แข่งเราน่าจะเป็นยังไง ณ จุดนี้?

เมื่อเรามีพื้นฐานที่แน่นแล้ว เราควรจะสามารถประเมิน range ของแฮนด์ของคู่แข่งที่น่าจะมี ในสถานการณ์หนึ่งๆได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเรา raise preflop และคู่แข่ง call มาจาก BB เราสามารถตัดแฮนด์อย่าง AA, KK หรือ QQ ออกจาก range ของเขาได้ เพราะเขามักจะต้อง 3-bet กับแฮนด์เหล่านี้ตอน preflop เกือบทุกครั้ง

อีกตัวอย่างหนึ่ง ถ้าเราอยู่ที่ BB และ call raise จากผู้เล่นตำแหน่ง MP flop ออกมา Q♠ 4♦ 2♣ แล้วเรา check นี่คือ board ที่คู่แข่งเราควรจะ c-bet 100% ทุกครั้ง (หรือใกล้กับ 100% มากๆ) จากผลของความเชื่อมโยงของ range เราจึงมักจะไม่ติดอะไรใน flop นี้ และเขาจะมี range advantage สูงกว่าเรามากๆ

เมื่อเรารู้ range ของแฮนด์ที่คู่แข่งอาจจะมีได้ จะทำให้การประเมินว่าการเล่นของเขาเบี่ยงออกจาก GTO ไปมากแค่ไหน เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น หรืออาจจะเรียกได้ว่า มันง่ายขึ้นที่จะรู้ว่าคู่แข่งของเราเล่นพลาดตรงไหน เมื่อเรารู้ว่าการเล่นที่ถูกต้องคืออะไร นั่นเอง

คำถามที่ #2 : แนวโน้มการเล่นของคู่แข่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง range ของเขายังไง?

เมื่อเรารู้แล้วว่า range ของคู่แข่งหน้าตาเป็นยังไง เราก็สามารถใช้ข้อมูลที่เราวิเคราะห์มาได้ ปรับ range ของคู่แข่งออกจาก range นั้นได้

ตัวอย่างเช่น เราอาจจะเป็นคน raise preflop แล้วโดน BB call มา flop ออกมาเป็น T♥ 8♦ 6♦ แล้วเราโดน BB check-raise c-bet ของเรา

ถ้าเรารู้ว่า BB เป็นผู้เล่น aggressive ที่ดี ที่เข้าใจการเล่นจุดนี้ เราอาจจะวิเคราะห์ได้ว่า อย่างน้อยการ check-raise ของเขา น่าจะอยู่บนพื้นฐานของการเล่นที่ถูกต้องตามทฤษฎี และ range ของการเล่นที่ถูกต้องตามทฤษฎีในจุดนี้ค่อนข้างจะหลากหลาย โดยอาจจะมีบางคอมโบ ของแฮนด์ประเภทเหล่านี้ได้ : 

  • Straight
  • Set
  • 2 pair
  • Flush draw
  • Straight draw
  • Pair + straight draw
  • Pair + flush draw

การสู้กับ range นี้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เราจำเป็นต้อง call หลายครั้งกับแฮนด์ที่ไม่แข็งมาก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้เล่นที่ดี  deny equity ของเรา ได้

ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรารู้ว่า BB เป็นผู้เล่นประเภท tight passive แสดงว่ามีโอกาสน้อยที่เขาจะมี range ที่หลากหลาย เราอาจจะจัดให้ range ของเขามีแฮนด์แค่ประเภท :

  • Straight
  • Set
  • 2 pair
  • strong draw ในบางครรั้ง

เมื่อเจอ range ที่ check-raise แบบนี้ เราควรจะเล่นให้ tight ขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียชิพโดยที่เราไม่มีแฮนด์ หรือ draw ที่แข็งแกร่ง

จากการที่รู้ว่ากลยุทธ์พื้นฐานควรเป็นยังไง รวมถึงแนวโน้มการเล่นของคู่แข่ง จะทำให้เราสามารถประเมิน range ของคู่แข่งในสถานการณ์หนึ่งๆได้อย่างแม่นยำขึ้น

คำถามที่ #3 : range ของเราน่าจะเป็นยังไง ณ จุดนี้?

เช่นเดียวกับคำถามที่เราถามตัวเองว่า range ของคู่แข่งควรจะเป็นยังไง เราก็จำเป็นต้องคุ้นเคยกับการที่จะต้องรู้ว่า เราควรจะเล่นกับ range ของเราอย่างไรเช่นกัน 

คำถามที่ #4 : คู่แข่งของเราเข้าใจหลักการของ range นั้นมากแค่ไหน?

การตระหนักถึงระดับความคิดที่คู่แข่งกำลังคิดอยู่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คู่แข่งของเราเป็นนักเล่นขาประจำที่มีความสามารถ หรือเป็นหน้าใหม่ที่กำลังเล่นอยู่ในคาสิโนเป็นครั้งแรกกันแน่?

ถ้าเรากำลังเล่นกับคู่แข่งที่ไม่ได้มีระดับความคิดในระดับที่ลึกมากพอ เราอาจจะสามารถใช้กลยุทธ์พื้นๆในการ exploit จุดอ่อนของพวกเขาได้ ลองถามตัวเองดูว่า เขา call มากไปไหม? ก็ให้ bluff น้อยลง value bet ให้มากขึ้น หรือเขา fold บ่อยเกินไปรึเปล่า? ถ้าแบบนั้นก็ควร bluff มากขึ้น

เราไม่จำเป็นต้องลดตัวเองไปเล่นระดับเดียวกับเขา แต่เราอาจจะเสียเงินมากเกินไป ถ้าเราไปปรับตัวเพื่อโจมตีจุดอ่อนของคู่แข่งบนโต๊ะ

คำถามที่ #5 : จากสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับคู่แข่ง range ของเราในมุมมองของคู่แข่งในตอนนี้เป็นแบบไหน?

ถ้าคู่แข่งสามารถประเมินเรื่อง range เป็น เราเองก็ต้องระวังว่าเขาจะมองเราอย่างไรด้วย

Dylan (เจ้าของแนวคิดคำถามเรื่องนี้ที่ได้สอนไว้ในคลาสของเขา) ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า :

ผมต้องพยายามทำความเข้าใจว่า พวกเขามอง range ของผมยังไง ตัวอย่างเช่น เขามีโอกาส (น้อยลง) ที่จะใส่ bluff ไปใน range ของผม เพราะเขากลัวไหม? หรือเขาจะใส่ bluff ไปใน range ของผม (มากขึ้น) เพราะเขากำลัง tilt อยู่รึเปล่า?

การปรับ range ของเราในสายตาของคู่แข่งจากข้อมูลที่เราได้จากคู่แข่ง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

คำถามที่ #6: คู่แข่งเรากำลังคิดอย่างมีตรรกะอยู่หรือไม่?

มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเล่นใน A เกมของเราบนโต๊ะได้ตลอดเวลา หากเราคอยสังเกตพฤติกรรมของคู่แข่งของเราอยู่เสมอ เราอาจจะได้ข้อมูลบางอย่างที่ใช้ประโยชน์จากมันได้

คู่แข่งกำลังติดขัดหรือ tilt อยู่รึเปล่า? ถ้าใช่ เขาอาจจะมีโอกาส call เราง่ายขึ้น เพราะเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่สงบเยือกเย็น

เขาจะระมัดระวังตัวมากขึ้นหลังจากได้กำไรมาเยอะ แล้ว buy-in ด้วย short stack ไหม? บางทีเขาอาจจะ hero fold บ่อยขึ้น เพราะเขาไม่อยากเสี่ยงที่จะเสียงเงินจำนวนมาก จากกำไรที่เพิ่งได้มา ก็เป็นได้

คำถามที่ #7: ขนาดของการ bet ที่เหมาะสม

เรื่องนี้สอดคล้องกับประเด็นก่อนหน้า ในการที่เราต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานเป็นอย่างดีก่อน

เมื่อต้อง exploit เราควรต้องนึกขึ้นขนาดของการ bet ที่เราควรใช้ในแต่ละสถานการณ์ จากจุดนี้ เราสามารถใช้สิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับคู่แข่งในการตัดสินใจว่าเราจะใช้ขนาดของการ bet ที่แตกต่างกันดีหรือไม่

Dylan ได้แนะนำข้อคำที่สำคัญไว้ดังนี้ :

เราสามารถปรับ (ขนาดของการ bet ที่เหมาะสม) เพื่อทำเงินให้มากขึ้น ในวิธีไหนได้บ้างหรือไม่?

นี่เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ผมไม่แนะนำให้ทำบ่อย จนกว่าเราจะเข้าใจหลักการพื้นฐานของเกมแน่นมากๆซะก่อน

เราไม่ควรปรับอะไร จนกว่าเราจะเข้าใจหลักการพื้นฐานก่อน และขนาดของการ bet คือจุดที่ซับซ้อนมากในเกมนี้ ดังนั้น การพยายามจัดการเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก

จากมุมมองของผม (ส่วนใหญ่แล้ว) มันจึงง่ายกว่าที่จะเล่นโดยใช้ขนาดของการ bet ที่ถูกต้องไปเลย (โดยไม่ต้องปรับ)” 

อย่างไรก็ตาม มีอยู่สถานการณ์หนึ่งที่การปรับขนาดการ bet เป็นเรื่องที่เข้าท่า คือเมื่อคู่แข่งของเราไม่ได้รู้สึกว่าการ bet ขนาดต่างๆกันนั้น แตกต่างกันมากเท่าไหร่

คำถามที่ #8 : คู่แข่งของเราไม่รู้สึกแตกต่างกับขนาดของการ bet อยู่รึเปล่า?

ถ้าเราคิดว่าคู่แข่งไม่รู้สึกแตกต่างกับขนาดของการ bet เราควรต้องใช้จุดนี้ exploit ให้ได้มากที่สุด นั่นหมายถึง เราคาดว่าเขาจะไม่ปรับ calling range มากพอ เมื่อเราใช้การ bet ขนาดต่างๆผสมกัน

ตัวอย่างเช่น ถ้าคู่แข่งของเรา call กับแฮนด์พวก draw หรือแฮนด์ที่ไม่แข็งมากตอน turn ไม่ว่าจะ bet ขนาดไหน เราอาจจะสมควร bet ใหญ่กับ vaue range มากๆ เพื่อเรียก value ให้ได้มากที่สุด

การปรับแบบสุดขั้วแบบนี้ ควรใช้เมื่อเรามีประสบการณ์ในการเล่นกับคู่แข่งบางคนมามากพอเท่านั้น

คำถามที่ #9 : เราควรปรับออกจากขนาดของการ bet ที่เหมาะสมที่สุด ณ จุดนี้เพื่อเรียก value ให้มากขึ้นหรือไม่? เราจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำ?

เช่นเดียวกับที่ได้พูดถึงไปใน 2 ประเด็นล่าสุด การปรับขนาดการ bet เพื่อ exploit คู่แข่ง ต้องอาศัยข้อมูลในอดีตจำนวนมาก

เมื่อเราเล่นอย่างถูกต้องมาโดยตลอด โดยใช้การคิดว่าควรจะเล่นในแต่ละสถานการณ์อย่างไร จากการใช้เซนส์เรื่องการ exploit แต่เพียงอย่างเดียว เรากำลังปิดกั้นความสามารถตัวเองในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ ว่าควรทำอย่างไร ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม จะมีคู่แข่งบางประเภทที่เราอ่านเขาได้ค่อนข้างชัด แต่เราจะมีโอกาสใช้ขนาดของการ bet เพื่อ exploit เขาได้ เมื่อมีโอกาสแบบนั้น ก็ให้คว้าไว้

คำถามที่ #10 : เรามีข้อมูลในอดีตกับคู่แข่งคนนี้มากแค่ไหน และการอ่านคู่แข่งของเราน่าเชื่อได้มากแค่ไหน?

ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเราอยาก exploit คู่แข่งได้ดี เราต้องมีข้อมูลในอดีตของของเขาที่มากพอ ยิ่งเรามีข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอ่านเขาได้แม่นยำมากขึ้น เพราะเรามีข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนสมมติฐานของเรามากขึ้น

จำไว้ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลมหาศาลเมื่อเจอกับคู่แข่งที่สุดโต่ง ตัวอย่างเช่น ถ้ามีบางคนที่เพิ่งมาเล่นแล้ว open-shove all-in 3 แฮนด์ติด แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกได้ว่าเขาไม่ได้เล่นอย่างมีตรรกะมากเพียงพอ และอยากมาเล่นพนันมากกว่า

แต่ส่วนใหญ่แล้ว เราควรรอ exploit คู่แข่งจนกว่าเราจะมีข้อมูลตัวอย่างที่มากพอ

สรุปความคิด

มีบางคำถามที่เราควรต้องคิด ก่อนจะหาทาง exploit คู่แข่ง และเราควรตระหนักถึงภาพลักษณ์ของคู่แข่งคนอื่นๆ รวมถึงภาพลักษณ์ของเราในสายตาคู่แข่งคนอื่นอยู่เสมอ เช่นกัน 

ถ้าอยากจะอ่านบทความเกี่ยวกับการ exploit เพิ่มเติม อ่านได้ที่ ความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ 5 ข้อของนักเล่นโป๊กเกอร์ส่วนใหญ่ (และวิธี exploit พวกเขา)

ลาก่อน!

https://upswingpoker.com/questions-to-ask-exploiting/