การเดิมพันต่อเนื่อง (C-bet)

ทุกคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้ผ่านหูกันมาบ้าง แต่จริงๆแล้วเรารู้หรือเปล่าว่ามันคืออะไรกันแน่

                C-bet ได้รับความนิยมอย่างมากในการเล่น no limit Holdem เนื่องจากเป็นแอคชั่นที่ง่ายต่อการเรียนรู้และสามารถเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แม้กระทั่งผู้เล่นมือใหม่ เราจะพบว่าจริงๆแล้ว C-bet ถูกนำไปใช้เกือบจะทุกๆเกมเลย ถ้าเราไม่รู้ว่ามันคืออะไรและใช้ยังไงแล้วล่ะก็ เราจะกลายเป็นคนที่เสียเปรียบในเกมนั้นๆเอง

C-bet คืออะไร ?

                C-bet คือ การที่เราเป็นคน raise ในช่วง pre-flop และมา bet เพิ่มในช่วง flop อีกหนึ่งรอบ ถึงแม้ว่า flop จะออกมาเป็นอะไรที่ไม่ได้เอื้อแก่ไพ่ในมือเราเลย

                ถ้าเราถือ A♠ K♥ และ raise ไปในช่วง pre-flop รอบ flop ไพ่กองกลางเปิดออกมาเป็น 4♦ 9♣ Q♥ เราสามารถชนะการเดิมพันนี้ได้ด้วยการ bet เพิ่มเข้าไป ถึงแม้ว่า flop ที่ออกมาจะไม่ได้ทำให้เรามีคู่หรืออะไรเลยก็ตาม ถ้าหากคู่ต่อสู้ของเรา fold แสดงว่าเขาไม่ติดคู่อะไรเลยจาก flop นั้นเช่นกัน จะเห็นได้ว่าการ C-bet เพิ่มโอกาสให้เราคว้าเงินใน pot ไปมากกว่าการที่เรา check ผ่านเฉยๆ อันนี้ถือว่าเป็นหลักการพื้นฐานในการใช้ แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่จะส่งผลต่อการใช้เช่นกัน

C-bet ที่ดีสร้างยังไง ?

                C-bet ที่ดีขึ้นอยู่กับ 2 อย่าง ดังนี้

                1.ขนาดของการเดิมพัน

                ขนาดของการเดิมพันสำหรับ C-bet อยู่ที่ประมาน 2/3 ของ pot ถึง 3/4 ของ pot ดังนั้นถ้า pot มีมูลค่าอยู่ที่ $10 จำนวนเงินที่เหมาะสมในการ C-bet ก็จะอยู่ที่ประมาณ $7 เพราะถ้าเราเดิมพันต่ำกว่านี้จะทำให้โอกาสที่คู่ต่อสู้ของเราจะ call กลับมามีสูงขึ้น (จากการคำนวณ pot odds นั่นเอง)

                ขนาดของการ bet ดังกล่าวเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเมื่อเราตัดสินใจที่จะ C-bet แล้ว เราจะสร้างความเข้าใจผิดให้คู่ต่อสู้คิดว่าเรามีไพ่คู่ที่สูงที่สุดหรืออาจจะดีกว่านั้นเพื่อทำให้เขาหมอบไป ถ้าเรา bet เกินมูลค่าใน pot ตรงกลาง (pot $10 แต่เรา bet ไป $14) เรากำลังเดิมพันมากเกินไป อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองเสียมากขึ้นอีก และที่สำคัญคือการเดิมพัน $8 ก็ให้ผลลัพธ์เหมือนๆกัน แล้วเราจะเอาเงินโยนลงไปเพิ่มเพื่ออะไรกัน ?

                2.วิเคราะห์คู่ต่อสู้

                ทักษะของคู่ต่อสู้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราตัดสินใจว่าเราควรจะ C-bet หรือไม่ ในขั้นที่แย่ที่สุดเราจะพบว่ามีผู้เล่นจำนวนนึงมักจะ call ตามตลอดไม่ว่าจะเล่น hand อะไรอยู่ก็ตาม ขอให้หลีกเลี่ยงการ C-bet กับคนกลุ่มนี้  เพราะสิ่งที่เราต้องการคือให้คู่ต่อสู้ของเราหมอบไพ่ในมือและคว้า pot ตรงกลางไป การที่เขา call ตามมาอาจจะทำให้เรามีความกังวลเกี่ยวกับไพ่ในมือของเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้นและเสี่ยงที่จะเสียเงินเดิมพันอีกด้วย

                ประสิทธิภาพของการ C-bet จะลดลงเมื่อเราเจอคู่ต่อสู้ที่มีประสบการณ์มากๆ เพราะผู้เล่นกลุ่มนี้จะรู้ว่าเราทำไปเพราะอะไร ดีไม่ดีเขาจะ re-raise เรากลับมาเพราะรู้ว่าเราเดิมพันกับไพ่ที่ไม่ได้ดีมากนัก เพราะฉะนั้นเราจะต้องเลือกผู้เล่นที่เราจะใช้ C-bet ด้วยดีๆ ว่าผู้เล่นกลุ่มไหนที่เราจะสามารถใช้เพื่อทำให้เขาหมอบไพ่ในมือตัวเองได้นั่นเอง

ใช้ flop ให้เป็นประโยชน์

                Flop สามารถเพิ่มโอกาสให้เราใช้ C-bet ได้ดียิ่งขึ้น ถ้าไพ่ที่เปิดออกมามันเข้าทาง

เราถือ :: A♣ Q♦

Flop :: 2♠ K♥ 6♦

                ในกรณีนี้ flop ออกมาไม่มีอะไรเลย flush ก็ไม่มี straight ก็ไม่น่าจะใช่ คู่ต่อสู้ของเราน่าจะ call ตามมาก็ต่อเมื่อมี คู่ K เป็นอย่างน้อย และมีโอกาส 2 ใน 3 ที่คู่ต่อสู้ของเราจะติดคู่บน flop ซึ่งถ้าติดคู่ 6 หรือคู่ 2 ก็น่าจะทำให้คู่ต่อสู้ของเราหมอบอยู่ดี เพราะการที่เราลงเดิมพันเพิ่มไปนั้นแสดงให้เขาเห็นว่าเราน่าจะมีไพ่ที่ดีแน่นอน (ซึ่งจริงๆเราก็ไม่มีนั่นแหละ) การติดคู่ต่ำๆในบอร์ดก็ไม่ควรที่จะ call ตามไปนั่นเอง

เราถือ :: A♣ Q♦

Flop :: J♠ K♥ 8♥

                ถ้าในกรณีนี้การที่เรา C-bet ไป อาจจะมีคน call ตามมาเยอะพอสมควร เพราะสามารถรอ flush ก็ได้ รอ straight ก็ได้ เกมนี้ดูท่าจะใช้ C-bet ไม่ได้ง่ายเหมือนเกมด้านบน

                จากตัวอย่างทั้งสองอันข้างต้นเราจะเห็นว่าไพ่บนบอร์ดมีผลต่อการ C-bet อยู่ไม่น้อย ซึ่งจะใช้ได้ผลดีกว่าเมื่อไพ่บนบอร์ดแห้งๆไม่มีอะไรเลยเหมือนในตัวอย่างแรก

สิ่งที่มีผลต่อ C-bet

                – จำนวนผู้เล่นใน pot

                การเล่นที่จะประสบความสำเร็จได้ควรจะเล่นกับผู้เล่นแค่ 1 คนเท่านั้น เหตุผลง่ายๆก็คือ โอกาสที่คู่ต่อสู้ของเราจะหมอบและเราสามารถคว้า pot ไปนั้นมีมากกว่าจำนวนผู้เล่นหลายๆคนนั่นเอง แต่เราไม่ได้บอกว่าไม่สามารถใช้กับผู้เล่นมากกว่า 1 คนได้นะ สามารถใช้ได้เช่นกัน แค่เปอร์เซ็นที่จะสำเร็จมันอาจจะมีน้อยกว่าเท่านั้นเอง ยิ่งจำนวนผู้เล่นน้อยมากเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จก็มากขึ้นเท่านั้น (ผู้เล่นแค่คนเดียว ถ้าเขาหมอบเราก็ได้ pot ตรงกลางเลย ผู้เล่นสองคน เราต้องให้เขาหมอบทั้งสองคน ถึงจะได้ pot )

                แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือถ้าเราใช้ C-bet บ่อยๆ ผู้เล่นคนอื่นๆก็จะเริ่มไม่ไว้ใจเรามากขึ้น และอาจจะลงท้ายด้วยการ re-raise หรือ check-raise เรากลับมา เพราะฉะนั้นอย่าใช้ C-bet ทุกรอบมีแต่เสี่ยงกับเสี่ยงเพิ่มมากยิ่งขึ้น

                – ตำแหน่งที่นั่ง

                ตำแหน่งที่นั่งก็สามารถช่วยเราได้นะ ถ้าเรานั่งอยู่ในตำแหน่งปุ่มหรือ cut off เราก็จะได้เห็นการตัดสินใจของคู่ต่อสู้เกือบทั้งหมด ก่อนที่จะตัดสินใจ C-bet ใน pot นั้น แต่ระวังผู้เล่นบางคนเอาไว้หน่อย เพราะเขาอาจจะรอให้เรา C-bet เพื่อหวัง check-raise เรากลับมาก็เป็นไปได้

                ในบางครั้งเราอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในการใช้ C-bet ก็ขอให้จดจำเกมนั้นเอาไว้และถือเป็นบทเรียนที่มีค่าละกัน ไม่ต้องรู้สึกแย่แล้วฝืนตัวเอง call กลับไปเมื่อถูก re-raise ถ้าหากเราไม่มีอะไรเลย ก็แค่ fold ไปและยอมรับว่าครั้งนี้มันใช้ไม่ได้ผล เก็บชิพของเราเอาไว้เพื่อเล่นใน hand อื่นๆดีกว่า

                ไม่มีข้อกำหนดที่แน่นอนว่าจังหวะไหนเราควรจะใช้ C-bet หรือไม่ใช้ แต่ข้อมูลข้างต้นน่าจะพอมีประโยชน์และเป็นแนวทางในการนำไปใช้งานได้ หนทางที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ก็คือ การลอง ลองไปนั่งเล่นและลองนำไปใช้ดู เพราะจริงๆแล้ว C-bet ถือเป็นการเรียนรู้ที่ไม่ได้ใช้ต้นทุนแพงมากนัก ดังนั้นเราไม่น่าจะหมดตัวจากการเรียนรู้วิธีการใช้ C-bet อย่างแน่นอน

Source : http://www.thepokerbank.com/strategy/plays/continuation-bet/