กลยุทธ์พื้นฐานเมื่อเจอกับ Limper
เราอาจไม่รู้เสมอไปว่า player มีวิธีเล่นกับการ limp ยังไง เช่น เราอาจเพิ่งลงไปนั่งบนโต๊ะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์พื้นฐานเมื่อเจอกับ limper เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้น แล้วหลังจากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนได้ตามตัวแปรและข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเข้ามาในระหว่างการเล่น
กลยุทธ์พื้นฐานนี้มาจากสมมติฐานเมื่อเจอกับ thinking player ที่ limp มาอย่างรอบคอบ (แต่ไม่ได้หมายความว่าเขา limp มาด้วย balance range และมีผู้เล่นจำนวนน้อยมากบนโลกนี้ที่สามารถเล่นได้แบบนั้น)
การ “limp อย่างรอบคอบ” หมายถึงคู่ต่อสู้ limp ด้วย hand ที่กำกึ่งซึ่งพวกเขารู้สึกว่าไม่แข็งพอที่จะ raise (hand อย่าง A4o ใน late position, K6s จาก mid-late position, 65s จาก early-mid position) แล้วก็มีผสมพวก trap hand บ้างบางครั้ง
ทีนี้เรามาดู range กัน ทั้งหมดนี้คือ hand ที่ผมจะ raise เสมอเมื่อเจอกับ limper โดยที่ยังไม่มีข้อมูลอะไร โดยตำแหน่งของผมอยู่ที่ hijack หรือก่อนหน้า (เราสามารถเล่น loose ขึ้นได้ที่ cutoff และ button)
คุณอาจคิดว่ามันเป็น range ที่ tight จัง ซึ่งเป็นความจริง แต่มาฟังเหตุผลกันว่าทำไมถึงเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ยอดเยี่ยมในการ raise กับ unknown limper:
- Strong range จะ hit hand และเรียก value ได้ดี ซึ่งเป็นวิธีหลักๆในการทำเงินจากพวก limper
- ยังมีผู้เล่นบางคนต่อหลังอยู่ที่สามารถจะ 3-bet หรือ cold-call ทำให้ equity ของเราลดลง
- เราไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้มักจะ limp-fold หรือเล่น weak postflop ทำให้เราไม่สามารถมั่นใจได้ว่า weaker hand จะทำกำไรได้จากการ raise
และเมื่อเราขาดข้อมูลเหล่านี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการเล่นอย่าง tight และปลอดภัยไว้ก่อน
เราสามารถเพิ่ม hand มากขึ้นด้วยปัจจัยเหล่านี้:
7 ปัจจัยที่ต้องคิด และผลกระทบต่อ iso-raising strategy เมื่อเจอกับ Limper
- ยิ่งคู่ต่อสู้ Limp-fold มากขึ้น เราก็ยิ่งควร iso-raise กว้างขึ้นเท่านั้น (และเช่นเดียวกันในทางกลับกัน)
- ยิ่งคู่ต่อสู้ Limp-3-bet มากขึ้น เราก็ยิ่งควร iso-raise tight ขึ้นเท่านั้น (และเช่นเดียวกันในทางกลับกัน)
- ยิ่ง Limp Range ของคู่ต่อสู้กว้างขึ้น เราก็ยิ่งควร iso-raise กว้างขึ้นเท่านั้น (และเช่นเดียวกันในทางกลับกัน)
- เมื่อเรา in position เราก็ควร iso-raise กว้างกว่าเวลาที่เรา out of position
- ยิ่งมีผู้เล่นข้างหลังอีกมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งควร iso-raise tight ขึ้นเท่านั้น (และเช่นเดียวกันในทางกลับกัน)
- ยิ่งพูดเล่นข้างหลัง loose และ aggressive มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งควร iso-raise tight ขึ้นเท่านั้น (และเช่นเดียวกันในทางกลับกัน)
- ยิ่ง limper เล่น aggressive postflop มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งควร iso-raise tight ขึ้นเท่านั้น (และเช่นเดียวกันในทางกลับกัน)
ถึงแม้ว่าบางปัจจัยจะแนะนำให้เล่น tight ขึ้น แต่ range พื้นฐานที่ให้ไว้ด้านบนเป็น range ที่ tight ที่สุดในการเล่นกับ limper แล้ว จึงไม่ควรถอด hand ไหนออกทั้งสิ้น
เราจะสรุปส่วนนี้ด้วยอีกหนึ่งตัวอย่างของ range เพื่อการอ้างอิง นี่คือ range ที่แนะนำสำหรับ Button vs Limp จาก Upswing Lab (ด้วยสมมติฐานว่ามีเพียง 1 limper จากทุกตำแหน่ง)
ยิ่ง limper loose/weak มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งทำกำไรด้วยการ raise ด้วย hand พวกสีฟ้าอ่อนมาเท่านั้น
Postflop Strategy vs Limper
ตอนนี้เราก็พอจะมีไอเดียแล้วว่า hand แบบไหนที่ควร raise เมื่อเจอกับ limper เราจะมาต่อด้วยการเล่น postflop โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ flop 2 ตัวอย่างของ flop ต่อไปนี้จะเป็นตัวแทนของ flop อื่นๆที่คล้ายกัน ในทั้งสอง hand เราจะอยู่ที่ button และเจอกับ hijack limper
สมมุติว่าคู่ต่อสู้เป็นพวก thinking player ที่จะ limp-call ด้วย hand ที่มีเหตุผลอย่าง:
- Weak-medium strength hand อย่าง Ax (ทั้ง suited และ offsuit)
- Offsuit broadwayOffsuit connector (อย่าง T9, 98)
- Suited connector และ 1-gapper (อย่าง 76s, 75s, 64s)
- High card suited hand ทั่วไป (เช่น K7, Q8, J7)
ตัวอย่าง #1
Online $2/$5 6-Handed Effective Stacks $500
Hero อยู่ที่ button
UTG fold…Hijack call $5…Cut-off fold…Hero raise $20 ทำให้ fold ไป 2 คน และ Hijack call
Flop ($47): 8♠ 5♦ 4♠
Hijack checks Hero…
ลองมาแยก range ของเราเป็น 2 ส่วน: value bet และ potential bluff
Value bet: เมื่อเจอกับ weaker player ด้วย low board ลักษณะนี้ เราควรเล่น value range ของเราอย่างตรงไปตรงมาและเร็วที่สุด value range ให้กว้างขึ้นและใช้ big bet (ระหว่าง 66% ถึง 105% pot) และ double barrel บ่อยๆเพื่อเรียก valur ทันที
ถ้า limper ดูเป็นผู้เล่นที่ไม่รู้อะไร ซึ่ง limper ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น เราก็ควรหาโอกาสปรับ size bet ตามความแข็งของไพ่ เช่น ถ้ามีไพ่แข็งๆอย่าง QQ ก็ควร bet 80%+ pot size แต่ถ้ามีไพ่กลางๆอย่าง 77 เราก็ควร bet เล็กลง อาจจะประมาณ 66% pot
Bluff: ถ้า limper ดูจะเป็นพวก fit-or-fold postflop และ limper ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น เราก็สามารถเล่น exploitative ด้วยการใช้ bluff range ที่กว้างขึ้นกว่า natural bluff (เช่น gutshot, open-ender และ flush draw)
Hand ไหนบ้างที่ควรเพิ่มเข้าไปใน bluff range? Hand อย่าง overcard เปล่าๆ 2 ใบก็ดูเหมาะสม เพราะจะมีโอกาสที่จะ double barrel กับ overcard หลายๆใบที่ turn และการมี 6 out ที่จะเป็น top pair ก็ไม่แย่เลย
ยังมีการ exploit อีกอย่างที่สามารถใช้กับ limper ที่ไม่รู้เรื่อง แต่เป็นวิธีที่เราไม่ควรใช้กับ thinking player เลย…คือการลด bet size เวลา bluff การ bet ขนาดเล็กลง ประมาณ 50% ถึง 60% pot จะทำให้เราได้ pot odds ดีขึ้น และได้ประโยชน์จาก range ของ weak player
กรณีที่ limper มีการปรับได้ถูกต้องตาม bet size ที่เล็กลงของเรา (ด้วยการ call มากขึ้น) เราก็จะยังได้ประโยชน์อยู่เพราะ range ของ limper ที่ turn จะยิ่งอ่อนกว่าปกติ และทำให้ double barrel ของเรายิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่นี้เราจะมาดูตัวอย่างของ board อีกประเภทที่เราควรเล่นแตกต่างกันเล็กน้อย
ตัวอย่าง #2
Online $2/$5 6-Handed Effective Stacks $500
Hero อยู่ที่ button
UTG fold…Hijack call $5…Cut-off fold…Hero raise $20 ทำให้ fold ไป 2 คน และ Hijack call
Flop ($47): A♠ 9♦ 3♣
Hijack checks. Hero…
Value bet: เราสามารถใช้หลักการเดียวกันกับใน hand แรก ซึ่งก็คือ ยิ่ง hand value ของเราแข็งมากแค่ไหน เราก็ยิ่ง bet ได้ใหญ่ขึ้นมากเท่านั้น
Bluff: จะค่อนข้างแตกต่างกับ board ประเภทนี้ เพราะไม่สามารถมี overcard ได้ ทำให้การ bet ใหญ่ๆหนูจะเป็นทางเลือกที่ไม่ดี ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ติด board นี้ มันก็ไม่สำคัญว่าเราจะ bet $15 หรือ $30 เพราะเขามีโอกาสที่จะ fold แทบทุก hand ที่ไม่ติดอะไรอยู่แล้ว
ทำให้ตรงกันข้ามกับในตัวอย่างที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ด้วย board ที่เขามีโอกาสที่จะมีอย่างน้อย 2 overcard (ถ้าไม่ใช่ gutshot หรืออะไรที่ดีกว่า) และเพราะว่า hand ส่วนใหญ่จะ miss flop นี้อยู่แล้ว เราสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยการ bet ทุก miss hand ใน range ของเราที่ $15 (ประมาณ 30% ของ pot)
Source:
Limps in Poker: The Ultimate Guide to Crushing Open Limpers
https://upswingpoker.com/limps-poker-open-limpers-strategy/